รัฐสภา 22 ม.ค.- เปิด 7 ปม สว. ยื่นญัตติซักฟอก ชี้ รัฐบาลยังไม่แก้ปัญหาตามที่แถลงต่อรัฐสภา รวมดิจิทัลวอลเล็ต-แก้ รธน.-เอื้อประโยชน์กระบวนการยุติธรรม – เช็ก 98 ชื่อ สว.มาทุกสาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา รวม 98 คน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญ เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 มาตรา 153 ต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา
โดยเนื้อหาภายในญัตติ ได้ระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อ 11 กันยายน และได้เข้าบริหารราชการแผ่นดินจนถึงปัจจุบัน ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาประมาณ 4 เดือน รัฐบาลยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาสำคัญตามนโยบายที่ได้แถลงได้ รวมถึงปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้น ภายหลังจากได้มีการแถลงนโยบายไปแล้ว 7 ด้าน ได้แก่
1. “ปัญหาด้านเศรษฐกิจของชาติ และปัญหาปากท้องประชาชน” สภาพปัญหาการดำเนินนโยบายการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นภาระหนี้สินชาติจะดำเนินการได้จริงหรือไม่, การสร้างอาชีพ-รายได้ให้ประชาชนอย่างยั่งยืน, การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ, การประกาศใช้กฎหมายผังเมืองใหม่
2. “ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย” ปัญหาการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง 2 มาตรฐาน, การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพ เอื้อพวกพ้อง หาประโยชน์ส่วนตน สร้างมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมบิดเบี้ยว คุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนไม่เท่าเทียม, การแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าสินค้าปศุสัตว์, การป้องกันการเอื้อประโยชน์ให้นายทุน จากการเปลี่ยน ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนด, การปราบปรามผู้มีสิทธิพล, การป้องกันเจ้าหน้าที่รัฐเรียกส่วย, การแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
3. “ปัญหาด้านพลังงาน” การไม่สามารถแก้ปัญหาโครงสร้างพลังงานประเทศ และราคาพลังงาน, กลุ่มทุนพลังงานมีอิทธิพลกับการเมืองในการกำหนดราคาพลังงาน, ความไม่ชัดเจนการแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนในทะเล ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ
4. “ปัญหาด้านการศึกษา และสังคม” การไม่เร่งรัดปฏิรูปการศึกษา เพิกเฉยต่อร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่, การแก้ปัญหานี้สินครู, การดูแลผู้สูงวัย ผู้ด้อยโอกาสในสังคม
5. “ปัญหาด้านการต่างประเทศ” กลุ่ม “จีนเทา” ที่กระทบความสัมพันธ์ และความรู้สึกต่อประชาชนชาวจีน, การวางบทบาทของไทยต่อสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ, การคุ้มครองนักท่องเที่ยวต่างชาติ
6. “ปัญหาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ที่รัฐบาล อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการจัดการออกเสียงประชามติ
7. “ปัญหาการดำเนินการปฏิรูปประเทศ และการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ” ตามที่วุฒิสภา ได้ติดตาม และเร่งรัดต่อรัฐบาลไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลจะมีแนวทางการดำเนินการต่อไปอย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ สว. จำนวน 98 คน ที่เข้าชื่อเพื่อเสนอญัตตินั้น อาทิ กลุ่มพลเรือน และอดีตข้าราชการพลเรือน ได้แก่ นายเสรี สุวรรณภานนท์, นายจเด็จ อินสว่าง, นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม, นายออน กาจกระโทก, นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน, นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ, นายถวิล เปลี่ยนศรี, นายสมชาย แสวงการ, นายพลเดช ปิ่นประทีป, นายอนุศักดิ์ คงมาลัย, นายเจน นำชัยศิริ, นายประพันธ์ คูณมี, นายสถิต ลิ่มพงศ์พันธุ์, นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย, นายจรินทร์ จักกะพาก, นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์, นายคำนูณ สิทธิสมาน, นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์, นายมณเฑียร บุญตัน, คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์, นายอนุสิษฐ์ คุณากร, นายจิรชัย มูลทองโร่ย, นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์, นายณรงค์ อ่อนสะอาด, นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ และหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล
กลุ่มทหาร และตำรวจ อาทิ พลเอกอู้ด เบื้องบน, พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม, พลเรือเอกพระจุณณ์ ตามประทีป, พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร, พลเรือเอกพัลลภ ตมิศานนท์, พลเอกอกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์, พลเอกวรพงษ์ สง่าเนตร, พลเอกพิศณุ พุทธวงษ์ และพลเอกสรวุฒิ ชะลออยู่-316.-สำนักข่าวไทย