ดิจิทัลวอลเล็ตไม่ทัน พ.ค.นี้

รัฐสภา 17 ม.ค.-“จุลพันธ์” ขอศึกษาเอกสาร ป.ป.ช.-กฤษฎีกา พร้อมกันก่อนประชุม คกก.ดิจิทัลวอลเล็ต ยอมรับไม่ทัน พ.ค.นี้ แต่ยันโครงการนี้เกิดขึ้นแน่นอน ปัดดันทุรัง โต้ “ศิริกัญญา” อย่าใช้ ป.ป.ช. เป็นเครื่องมือทำลายรัฐบาล


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีเอกสารความเห็นของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต โดยยอมรับว่า คณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตฯ เลื่อนการประชุมเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.) หลังจากที่เห็นรายงานอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลกรณีการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต จึงต้องการศึกษารายละเอียดและรอเอกสารฉบับทางการจาก ป.ป.ช. ก่อน จึงจะประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ เพื่อพิจารณาคำตอบของกฤษฎีกาและรายงานของ ป.ป.ช. ก่อนกำหนดแนวทางการดำเนินงานต่อไป

“ส่วนสมาชิกวุฒิสภาระบุว่า ข้อเสนอแนะในรายงานดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนและแรงพอสมควรในการคัดค้านเดินหน้านโยบาย โดยรายงานดังกล่าวมีนางสาวสุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธาน ซึ่งได้ติดตามนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งรัฐบาลรอความชัดเจนและพร้อมรับฟังทุกความเห็นอย่างหลากหลาย ผมไม่เคยพูดว่าทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน 100% แต่อยากให้ทุกฝ่ายเห็นความเดือดร้อนของประชาชนว่าเศรษฐกิจไม่ดี และรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากเห็นหนังสือของกฤษฎีกาเป็นคำตอบเชิงกฎหมาย ไม่ถามถึงไฟเขียวไฟแดง ไม่ได้ห้ามและไม่ได้บอกให้เดินหน้า เพราะไม่ใช่หน้าที่ ซึ่งคณะกรรมการมีหน้าที่รับฟังและปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย ส่วนหนังสือของ ป.ป.ช. ค่อนข้างชัดเจนว่าวางธงที่จะทำให้โครงการนี้เดินหน้าไม่ได้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า แม้นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต จะได้รับการรับรองจากประชาชนผ่านการเลือกตั้ง และแถลงนโยบายแล้ว แต่เห็นว่ายังมีบางกลุ่มบางองค์กร เช่น ป.ป.ช. และธนาคารแห่งประเทศไทย ยังไม่เข้าใจสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ หรือมองไม่เห็นวิกฤติทางเศรษฐกิจ อย่างที่รัฐบาลพยาพยามบอก แต่ยังเป็นวิกฤติความเห็นอกเห็นใจประชาชนที่กำลังเดือดร้อนทางเศรษฐกิจ โดยอ้างอิงถึงกลุ่มทุนนิยมที่ไม่มีหัวใจที่จะเข้าใจผู้ที่เดือดร้อน แสดงให้เห็นว่าตลอดก็ล้มเหลว

“รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เดินทางไปทั่วประเทศ รับฟังปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ไม่ได้ทำงานในห้องแอร์ ประชาชนทั่วประเทศต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ รัฐบาลมองเศรษฐศาสตร์ในมิติชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจริง ๆ ที่เดือดร้อน และจะดูกรอบเวลาไม่สามารถดำเนินโครงการได้ทันเดือนพฤษภาคมนี้ แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะต้องเดินหน้านโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต แม้จะไม่สามารถยืนยันกรอบเวลาได้ และเมื่อประชุมคณะกรรมการดิจิทัลฯ จะเดินหน้าทำความเข้าใจกับหน่วยงานกับองค์กรที่ไม่เห็นถึงเจตนาดีของรัฐบาล หรือยังมองไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชน จะต้องสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน และเดินหน้านโยบายนี้ให้ได้ในที่สุด” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าว

เมื่อถามว่า หากยืนยันเดินหน้า ไม่หวั่นคดีทางการเมืองตามมาภายหลังหรือ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นี่เป็นเหตุผลที่ต้องทำความเข้าใจกับทุกหน่วยงาน ถึงเหตุผลในการเดินหน้าโครงการและความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นอนุบาลทางการเมือง เราเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร สิ่งที่พยายามจะทำให้มันเป็นคืออะไร เรามีหน้าที่ทำให้ทุกอย่างเดินไปตามกรอบของกฎหมาย และได้รับความยอมรับจากทุกภาคส่วน รวมถึงแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ นี่ยึดเป็นธงหลัก และจะต้องทำให้สำเร็จ


นายจุลพันธ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ล้มเลิกโครงการ แต่สุดท้ายต้องให้คณะกรรมการพูดคุยและตัดสินใจว่าจะใช้กลไกอะไรและเดินหน้าอย่างไร อาจจะเป็น พ.ร.บ. หรืออะไร ขอยังไม่ให้คำตอบในนาทีนี้ แต่จากอุปสรรคที่เห็น มองว่าการผลักดันให้เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ได้ตอบว่าโครงการไปไม่ได้ โดยยังยืนยันที่จะเดินหน้าต่อ กลุ่มที่จะเข้าร่วมโครงการได้ยังอยู่ที่ 50 ล้านคน การเดินหน้าของรัฐบาลไม่ใช่การดันทุรัง แต่มองเห็นถึงปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ การเจริญเติบโตที่ต่ำกว่าศักยภาพ ซึ่งหากมีความชัดเจนอีกครั้งจะชี้แจงต่อสังคม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล แนะรัฐบาลอย่าพิงหลัง ป.ป.ช. ใช้เป็นข้ออ้างยกเลิกโครงการว่า ฝ่ายค้านอย่าใช้ ป.ป.ช. เป็นเครื่องมือทำลายรัฐบาล ซึ่งคณะกรรมการดิจิทัลฯ มีหน้าที่รับฟังทุกความเห็นอย่างรอบด้าน จากทุกข้อมูลที่เข้ามา.-314.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

จับตา! ประชุม GBC “ไทย-กัมพูชา” ที่เกาะกง

10 ก.ย.- “ไทย-กัมพูชา” เปิดโต๊ะเจรจา GBC สมัยพิเศษ ที่จังหวัดเกาะกง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้แทนระดับสูง ร่วมหารือสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ลดความตึงเครียด และเดินหน้ามาตรการสร้างสันติสุขชายแดน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และว่าที่รัฐมนตรีกลาโหม นำคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี คณะผู้แทนประกอบด้วย พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พลอากาศเอก นนทรี อินทรสาลี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านกิจการความมั่นคงภายใน, นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พลเอก กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม, พลเอก ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก, พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ และพลอากาศเอก วชิระพล […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]