สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด หวังแก้ต้นตอ PM 2.5

รัฐสภา 11 ม.ค.- สภาฯ เริ่มถกร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด รัฐบาลหวังแก้ต้นตอ PM 2.5 สร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย-เพิ่มคุณภาพชีวิต พปชร.ชี้เป็น กม.ปรองดอง ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน ไร้ผลประโยชน์ทางการเมือง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ทั้ง 7 ร่าง ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีและพรรคการเมือง

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในนามคณะรัฐมนตรี ชี้แจงหลักการและเหตุผล ว่า ปัญหามลพิษทางอากาศกำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงต้นปีและปลายปีของทุกปี จึงต้องกำหนดกลไกในการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศ ทั้งในระดับชาติและในระดับพื้นที่ พร้อมกำหนดให้มีการพัฒนาและบูรณาการการบริหารจัดการปัญหาของทุกภาคส่วนให้เป็นระบบ กำหนดให้มีระบบการวางแผนการดำเนินงาน และกำกับดูแล เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน


“เพื่อลดสาเหตุการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิด รวมทั้งป้องกันการปล่อยมลพิษ ฝุ่น ควัน และกลิ่น เข้าสู่สภาพแวดล้อมและชั้นบรรยากาศ พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพอากาศ ระบบการเฝ้าระวัง ระบบการเตือนภัย และระบบการจัดการในสถานการณ์วิกฤตจากภาวะมลพิษทางอากาศ ตลอดจนการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อให้เกิดอากาศสะอาด เพื่อเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดี มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ อันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของประชาชน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว

ขณะที่ น.ส.คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวถึงหลักการร่างของภาคประชาชน ว่า สิ่งที่ต้องการคืออากาศสะอาด การจัดการทั้งหมดเพื่อให้ได้มาซึ่งอากาศสะอาดที่มีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงได้ การจัดการและกำกับดูแลนี้จะต้องเป็นไปเพื่อสุขภาพ ที่สำคัญคือต้องมีการบูรณาการ ไม่ใช่การแยกส่วน

“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เกินตัวที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งสามารถแก้ไขได้ ต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างจากภูเขาน้ำแข็ง การแก้ปัญหานี้ยังไม่รวมลึกไปถึงรากเหง้า ความเล็กจิ๋วของ PM 2.5 ถูกซุกไว้ใต้พรม เราต้องการนวัตกรรมทางกฏหมาย พร้อมเปรียบเทียบถึงสิทธิในชีวิต ในสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ในร่าง พ.ร.บ.ฉบับประชาชน ได้เสนอ 3 ระดับ คือ ระดับนโยบาย ระดับการดูแล ระดับปฏิบัติการ พร้อมเสนอให้มีกองทุนอากาศสะอาด เพื่อช่วยเหลืออุดหนุนการแก้ปัญหา” น.ส.คนึงนิจ กล่าว


นายอลงกต มณีกาศ สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย ตัวแทนนายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้เสนอร่างของพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบกับทุกชีวิต และแนวโน้มความรุนแรงสูงขึ้น ครอบคลุมทุกพื้นที่ ส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ทั้งงบประมาณในการรักษาพยาบาล และความเสียหายต่อธุรกิจการท่องเที่ยว ภาพลักษณ์ของประเทศที่สะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดการ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการปฏิรูประบบการบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับหลักสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่มีสิทธิที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี

ด้านนายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร พรรคพลังประชารัฐ ตัวแทน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ผู้เสนอร่างของพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า หลายรัฐบาลพยายามแก้ไข วันนี้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐานเป็นภัยคุกคามสุขภาพ วันนี้มีร่างกฏหมายเข้ามา 7 ร่าง แสดงว่าทุกคนเห็นตรงกัน เป็นกฎหมายที่แสดงถึงความปรองดอง ไม่ได้เป็นเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่ได้เลือกสีเสื้อ แต่เลือกที่จะยืนอยู่ข้างประชาชน

“กฎหมายฉบับนี้จะเป็นกฎหมายที่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ได้มุ่งผลประโยชน์ทางการเมือง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเสนอกฎหมายฉบับนี้จะได้รับความร่วมมือจากพี่น้องในสภาทั้ง 500 ชีวิต เพื่อให้ประชาชนทั้งแผ่นดินได้รับอากาศบริสุทธิ์ หวังว่าพี่น้องในสภาแห่งนี้จะร่วมกันขัดเกลากฎหมายฉบับนี้ ตรงไหนไม่ถูกเอาปากกามาวง แล้วแก้ไข ตรงไหนที่ยังเป็นช่องว่างที่ยังไม่ครบถ้วนก็เติมลงไปให้มันเต็ม” นายชัยมงคล กล่าว

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะตัวแทนผู้เสนอร่างของพรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิในฐานะ สส.เชียงใหม่ อภิปรายถึงความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ไปรับฟัง ดูปัญหา ดูการเกิดไฟป่าบนดอย ไปดูกลไกของภาครัฐ

“หากปล่อยภาวการณ์เช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ สุดท้ายจะเป็นตราบาป ทุกคนที่จะไปภาคเหนือ ถามว่าอากาศเป็นอย่างไร อยู่ได้หรือไม่ ปลอดภัยหรือไม่ กระทบทั้งชีวิตของพี่น้องประชาชน เศรษฐกิจ และการเจริญเติบโต ปัญหาเหล่านี้คาราคาซังมาหลายปี วันนี้สิ่งแรกที่นายกรัฐมนตรีทำ คือการเดินทางไปต่างประเทศ ไปคุยกับเพื่อนบ้าน ในการประชุมระดับนานาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หยิบยกประเด็นนี้ไปพูดคุยให้ทุกประเทศในภูมิภาคเดียวกันกับเรารับทราบและตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็นปัญหาที่ใหญ่หลวง และกระทบกับชีวิตของประชาชนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง” นายจุลพันธ์ กล่าว 

ทั้งนี้ กฎหมายอากาศนี้เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดหลายครั้ง เพื่อให้เกิดการผลักดันไปสู่การพิจารณา

“มีของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในที่สุดก็ได้เข้า ขอแสดงความยินดีด้วย ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะส่งช้า แต่สุดท้ายก็มาทัน มาวันนี้ ทุกฝ่ายก็มาร่วมกัน จุดประสงค์ของพวกเราคือการที่จะมอบอากาศบริสุทธิ์เป็นของขวัญ มีแต่เรื่องสะเทือนใจเรื่องคุณหมอกฤตไท เรื่องความสูญเสีย แม้แต่ญาติผมเอง เช่น ลูกหลานน้ำมูก น้ำตาไหล เลือดกำเดาไหล อันนี้เป็นสิ่งที่เกิดมาหลายปี แต่วันนี้มองไปข้างหน้า เราเชื่อว่าเรามีแนวทางในการยกระดับกฎหมายที่เรากำลังทำกันอยู่ จะเป็นเครื่องมืออันสำคัญสำหรับรัฐบาลใดก็ตามที่จะเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สาเหตุหนึ่งมาจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่งในร่างฉบับนี้มีเนื้อหาที่เป็นสิ่งสำคัญคือกลไกข้ามพรมแดน ซึ่งในโลกนี้มีประเทศสิงคโปร์ประเทศเดียวที่มีกฎหมายดังกล่าวบังคับใช้ วันนี้เราเจอปัญหาเดียวกันที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับกฎหมายฉบับนี้ที่จะให้อำนาจกับภาครัฐในการไปทำโทษ เก็บเงินเก็บภาษี เก็บรายได้ให้รัฐ ในส่วนที่เกิดจากการเผาไหม้จากสินค้าต่างประเทศ จึงเป็นหัวใจสำคัญที่อยากนำเสนอต่อรัฐสภา เพื่อจะได้รับทราบว่าเราต้องก้าวข้ามปัญหาที่เคยมี และต้องเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งถึงกลไกของกฎหมาย ประกอบกับความตั้งใจจริงของรัฐบาล.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]