“สมชาย” ชี้ประเทศไม่วิกฤติ แนะให้ “เลิก”

รัฐสภา 10 ม.ค.-“สว.สมชาย” แนะรัฐบาลยุติโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ชี้ประเทศไม่ได้อยู่ในวิกฤติ ระบุคำตอบกฤษฎีกาไม่ใช่ ไฟเขียว แต่คือไฟเหลืองที่กระพริบเตือนก่อนเป็นไฟแดง


นายสมชาย แสวงการ  สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการดิจิทัล วอลเล็ตของรัฐบาล หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาตอบความเห็นว่า ขณะนี้รัฐบาลได้รับคำตอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ดังนั้น คณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตควรพิจารณาอย่างรอบคอบตามคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกาในการออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 500,000 ล้านบาท ตามมาตรา 53 คือ เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน เป็นเรื่องต่อเนื่อง เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ และจัดทำงบประมาณไม่ทัน เพราะฉะนั้น ต้องรับฟังความคิดเห็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ ซึ่งอยู่ในคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต

“หากมีความจำเป็นเร่งด่วน ก็ควรออกพระราชกำหนดตั้งแต่ต้น ส่วนประเด็นว่าจะทำงบประมาณไม่ทัน ก็มีปัญหาอีก เพราะรัฐบาลเข้ามาเป็นรัฐบาลตั้ง 4 เดือนแล้ว เมื่อตั้งคำถามว่าเป็นวิกฤติเศรษฐกิจหรือไม่ โดยวิกฤติคือประเทศต้องมี GDP ติดลบสูงมาก เกิดวิกฤติเศรษฐกิจการเงินการคลัง อาทิ วิกฤติต้มยำกุ้ง และวิกฤติโควิด 19 แต่ในปัจจุบันไม่ได้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจ โดยตัวเลขอัตราการขยายตัวของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง สถานะเงินคงคลัง และคุณสำรองยังดีมาก และการพยายามกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ ทุกอย่างบ่งชี้ว่าเป็นภาวะฝืดเคืองเล็กน้อยหลังพ้นวิกฤติโควิด 19 และทุกอย่างกำลังจะไปได้ดี จึงสรุปได้ว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ” นายสมชาย กล่าว


นายสมชาย กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกากำหนดให้ต้องรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการอื่นด้วย พร้อมเพิ่มเติมมาตรา 57 ประเด็นเกี่ยวกับความคุ้มค่าในการใช้จ่าย โดยการคาดการณ์ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ GDP ของไทยในปี 67 อยู่ที่ร้อยละ 2.7 – 3.7 หากนำเงิน 5 แสนล้านบาท เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะทำให้ตัวเลข GDP เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.4 – 0.6 จึงตอบได้ว่าไม่คุ้มค่ากับเงินที่ใช้จ่ายไป นอกจากนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาขอให้พิจารณาตามมาตรา 6 7 9 และ 49 ของพ.ร.บ.วินัยการเงินกลางคลังมากำกับด้วย นอกเหนือจากมาตรา 53 ที่ระบุ

“ที่บอกว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาไฟเขียว จริงแล้วเป็นไฟเหลืองที่กระพริบอย่างแรง แล้วกำลังจะเป็นไฟแดง จึงขอย้ำให้พิจารณาอย่างรอบไม่ให้ซ้ำรอยโครงการจำนำข้าว ผมเชื่อว่าคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ต ที่ประกอบไปด้วยส่วนราชการที่สำคัญ ขอให้ความเห็นนายกว่าท่านเห็นด้วยหรือเห็นต่างอย่างไร หากไม่สามารถเดินหน้าโครงการได้ ขอให้อธิบายประชาชนว่ารัฐบาลคงต้องหยุดโครงการเนื่องอุปสรรคต่างๆ ตนเชื่อมั่นว่าประชาชนจะรับได้ ผมมองว่าเราควรจะพัฒนาด้านอื่น ๆ การฝึกทักษะสร้างงานสร้างอาชีพ ดีกว่านำเงินไปแจกหลังเงินหมดก็ไม่เกิดอะไรดีขึ้น” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่าวุฒิสภาจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ยังไม่ถึงด่านนั้น ด่านแรกคือต้องเจอกับคณะกรรมการดิจิทัล วอลเล็ตพิจารณาแล้วส่งความเห็นมายังคณะรัฐมนตรี ถือว่าพิสูจน์เป็นที่ประจักษ์แล้วว่ามีวิกฤติเศรษฐกิจ จัดทำงบประมาณไม่ทัน เร่งด่วนต่อเนื่องและมีความคุ้มค่า อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงสภาผู้แทนราษฎร ร่างพระราชบัญญัติเงินกู้คงจะไม่ผ่าน เพราะต้องปรับแก้ไขอีกมาก เชื่อว่าคำแนะนำของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นไปด้วยความหวังดี จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะไม่มาถึงการพิจารณาของวุฒิสภา หากมาถึงวุฒิสภาต้องปรับแก้ แล้วก็จะตกเป็นจำเลยของสังคม เมื่อความเห็นทั้ง 2 สภาที่ไม่ตรงกันอาจจะทำให้กฎหมายนี้ไม่ได้ออก แล้วสุดท้ายแม้จะผ่านไปได้ เรื่องก็จะไปถึงศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี ยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้คัดค้านการกู้เงิน 500,000 ล้านบาท


เมื่อถามถึงชะตากรรมของนายกรัฐมนตรี หากตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้ นายสมชาย กล่าวว่า ขออย่าไปให้ถึงตรงนั้นเลย นายกรัฐมนตรีมีความขยันและความมุ่งมั่น แต่อาจผิดทิศทาง รัฐบาลไม่ควรดื้อดึงดำเนินโครงการดิจิทัล วอลเล็ตเพราะหลายฝ่ายทักท้วงโครงการ และประชาชนไม่ได้อยากได้เงิน เพราะรับรู้ว่ารัฐบาลจะกู้เงินมาแจก ทำให้ประเทศต้องใช้หนี้ในอนาคต จึงขอเตือนด้วยความหวังดีว่าควร “เลิก”.-318 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

แม่เปิดใจทั้งน้ำตา จำใจปล่อย “น้องการ์ตูน” ไปอย่างสงบ

เปิดใจทั้งน้ำตา “แม่น้องการ์ตูน” เหยื่อกระบะตีนผี เตรียมถอดเครื่องช่วยหายใจลูก หลังยื้อมานาน 11 ปี ขณะที่คู่กรณีไม่เคยเหลียวแล และยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

รวบแล้วโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก

รวบแล้วโจรสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 102 บาท จากร้านทองในห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ขยายผลตามรวบภรรยาได้ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.ตาก

เปิดโซนใต้ดินและเข้าถึงปล่องลิฟต์ได้แล้ว

เจ้าหน้าที่กู้ซากตึก สตง.ถล่ม เปิดโซนบริเวณใต้ดินและเข้าถึงบริเวณปล่องลิฟต์ได้แล้ว พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มรวม 74 ราย คาดปิดภารกิจค้นหา-รื้อถอน ภายในเดือนนี้