หนุนผู้ประกอบการ OTOP ไทยสู่ตลาดสากล

9 ม.ค.- มหาดไทย จับมือ พาณิชย์ หารือร่วมบูรณาการความร่วมมือส่งเสริมผู้ประกอบการ OTOP ไทยสู่ตลาดสากล เตรียมตั้งคณะทำงานร่วมขับเคลื่อนแนวทาง Quick win เพื่อกระตุ้นช่องทางตลาดใหม่ควบคู่กับการขยายตลาด


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาไทย พร้อมด้วยนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานร่วมประชุมหารือเพื่อบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ในการส่งเสริมผู้ประกอบการ OTOP ไทยสู่ตลาดสากล โดยมี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกรมการพัฒนาชุมชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ กล่าวว่า โจทย์สำคัญของการหารือในครั้งนี้ คือ การทำให้สินค้า OTOP ได้รับการส่งเสริมต่อยอดด้านการตลาด เช่น การจำแนก คัดแยก กลุ่มผู้ประกอบการเป็นกลุ่ม ๆ ให้มีคุณภาพและมีความทันสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งจะทำให้สามารถนำสินค้ามาจำหน่ายได้ เพราะปัจจุบันมีสินค้าและบริการในแต่ละพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน อาทิ ชุมชน OTOP นวัตวิถี ที่ปัจจุบันมีจำนวนมากในหลายพื้นที่แต่ไม่มีช่องทางการตลาดที่เพียงพอ ซึ่งพวกเราได้เรียนรู้จากแนวทางที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานองค์ความรู้ในการต่อยอดจนทำให้สินค้าได้รับการจำหน่ายตลอดทั้งปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้ใช้กลไกผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับกระทรวงพาณิชย์มาโดยตลอด แต่ยังมีอีกปริมาณมาก (Volume) ที่ต้องได้รับการหนุนเสริมพัฒนาให้ได้รับการต่อยอดเพิ่มมากขึ้น


“ขอให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกันหาแนวทาง Quick Win ตั้งแต่กระบวนการระยะสั้น และระยะยาว เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและยั่งยืน ซึ่งเราได้มีการจำแนกแยกกลุ่มผู้ประกอบการ ศิลปิน OTOP ระดับต่าง ๆ อยู่ก่อนแล้ว ดังนั้น สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การนำผลิตภัณฑ์คุณภาพไปสู่ต่างประเทศ (ตลาดสากล) ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายในเบื้องต้นได้ และในส่วนของการดำเนินการระยะยาว คือ การทำให้ผู้ประกอบการได้มีฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยมีโมเดลพร้อมขยายไปสู่ตลาดใหม่ ๆ ซึ่งจุดแข็งของสินค้า OTOP ไทยเรามีจุดแข็งในด้านความประณีตสวยงาม ผลิตภัณฑ์เป็นงาน “Handmade” ทำให้ของมีจำกัด (Limited) ที่หายาก แต่ในส่วนของจุดอ่อน คือ ตลาดในต่างประเทศยังมีน้อย ซึ่งการหารือในครั้งนี้จะนำไปสู่การร่วมกันหาแนวทางช่วยกันเพื่อพัฒนาต่อไป โดยในขั้นตอนต่อไปจะมีการแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง 2 กระทรวง เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือทั้งระยะสั้นและระยะยาว พร้อมวางระบบการนำกลุ่มผู้ประกอบการที่มีความสนใจในสินค้า OTOP ให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพ การโค้ชชิ่ง ทั้งด้านบรรจุภัณฑ์และช่องทางการตลาด พร้อมทั้งหารือร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อต่อยอดผ้าไทยไปสู่ตลาดสากล เพื่อหนุนเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยนำไปสู่การที่ประชาชนคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ และมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

ด้านนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีความยินดีและตั้งใจอย่างยิ่งที่จะร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทยในการหนุนเสริมต่อยอดผลิตภัณฑ์สินค้าไทยไปสู่ต่างประเทศ ซึ่งในวันนี้มีผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการค้าทั้งในและต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์มาร่วมประชุมพูดคุยหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการ OTOP สู่ตลาดสากล ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้นำสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP มาต่อยอดพัฒนา โดยการร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายและพันธมิตรในการหาช่องทางการตลาด นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย นำสินค้าที่ได้รับการพัฒนามาจำหน่าย รวมถึงเน้นการผลิตตามแนวเศรษฐกิจ BCG นำสินค้าพื้นถิ่นมาพัฒนาต่อยอดด้วย

“สำหรับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินโครงการ “หมู่บ้านทำมาค้าขาย” ตั้งแต่ปี 2560 โดยพัฒนาสินค้าและบริการในพื้นที่ ด้วยการเพิ่มทักษะและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใน 42 หมู่บ้าน 33 จังหวัด นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนช่องทางการจำหน่ายทั้งออฟไลน์โดยร่วมกับ โรงแรม ธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า และช่องทางออนไลน์ โดยมีช่องทางที่ Influencer มาช่วยในการขายได้ ในส่วนของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้ดำเนินโครงการพัฒนาและส่งเสริมสินค้าผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ตลาดสากล โดยการคัดเลือกหาผู้ประกอบการสินค้า OTOP มาอบรมบ่มเพาะ โค้ชชิ่ง เพื่อไปเข้างานแสดงสินค้า (Trade Fair) ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอดระยะเวลาหลายปี มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนกว่า 30 ราย นอกจากนี้ ยังดำเนินโครงการ BCG Hero คัดเลือกผู้ผลิตตามแนวทางยั่งยืน การใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่น ซึ่งจะสอดคล้องกับแนวทาง OTOP ของกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งมีโครงการพัฒนาดีไซเนอร์ไปสู่รันเวย์สากล โดยส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีแบรนด์เข้มแข็งอยู่แล้วไปสู่ตลาดสากลได้ ที่กล่าวมาทั้งหมดแสดงให้เห็นว่ากระทรวงพาณิชย์และกระทรวงมหาดไทยมีภารกิจที่เกี่ยวข้องสอดคล้องกันอยู่แล้ว ซึ่งเราจะได้ร่วมมือกันโดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในส่วนของการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การส่งต่อผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เรามีความยินดีและมีความกระตือรือร้นที่จะช่วยสนับสนุนเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายกีรติ กล่าวเพิ่มเติม .317 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย