“สิริพงศ์” โต้ “วิโรจน์” ยันจัดสรรงบอาชีวะตามศักยภาพ

กรุงเทพฯ 5 ม.ค.-“สิริพงศ์” โต้ “วิโรจน์” ใช้ความจริงครึ่งเดียวอภิปรายงบ ศธ. วิงวอนใช้ความจริงครบถ้วนประกอบทำหน้าที่ ยันจัดสรรงบอาชีวะตามศักยภาพ ไม่เกี่ยวการเมือง เมินเหน็บ รมว.ชื่อเพิ่มพูน แต่ ศธ.ถดถอย ขอดูผลงานแก้ปัญหาการศึกษา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกประจำกระทรวงศึกษา พร้อมด้วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเลขาธิการคณะกรรมการอาชีวะศึกษา ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อตอบโต้การอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในสัดส่วนงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณให้กับสถานอาชีวะสถานศึกษา ที่นายวิโรจน์กล่าวหาว่า มี 7 ใน 8 สถานศึกษาที่ได้รับงบประมาณมากที่สุด เป็นสถานอาชีวะศึกษาที่มี สส.พรรคภูมิใจไทยว่า การอภิปรายดังกล่าว ได้สะท้อนความไม่เข้าใจในการจัดทำงบประมาณในภาพรวม เพราะกระทรวงศึกษาธิการ มีขั้นตอนการของบประมาณที่แตกต่าง โดยแต่ละสถานศึกษา จะต้องเสนองบประมาณผ่านคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ขึ้นมาก่อน และการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ ก็ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้น พร้อมยกตัวอย่างบางพื้นที่เช่นในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากจะมี สส.พรรคภูมิใจไทยแล้ว ก็มี สส.พรรคก้าวไกลด้วยเช่นกัน แต่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีสถานอาชีวะศึกษาที่เข้มแข็งมาก มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจยานยนต์ มีการลงนาม MOU ร่วมกับบริษัทยานยนต์ชั้นนำ หรือจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีอาชีวะศึกษาระบบทวิภาคีที่เข้มแข็งมาก สามารถสอนนักศึกษาไปเป็นแอร์โฮสเตท หรือช่างซ่อมบำรุงอากาศยาน และสถานอาชีวะศึกษาที่ได้รับงบประมาณมาก ก็เป็นจังหวัดที่มีประชากรจำนวนมากทั้งสิ้น เช่น จังหวัดบุรีรัมย์ ที่ถูกนายวิโรจน์อภิปรายพาดพิง ก็มีประชาการกว่า 1,500,000 คน และโรงเรียนอาชีวะศึกษา ก็มีจำนวนตามสัดส่วนประชากรของจังหวัด


นายสิริพงศ์ ยังชี้แจงถึงกรณีที่นายวิโรจน์อภิปรายถึงผลคะแนน PISA ของนักเรียนไทยว่า การอภิปรายของนายวิโรจน์นั้น ก็ได้ให้ข้อมูลไม่ครบถ้วน เพราะคะแนนค่าเฉลี่ยที่นายวิโรจน์นำมาเทียบนั้น ได้นำคะแนนในกลุ่มโรงเรียนสาธิต มีคะแนนสูงกว่าสิงคโปร ซึ่งก็เป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะนายวิโรจน์ พยายามกล่าวอ้างว่า กลุ่มโรงเรียนสาธิตจัดการเรียนการสอนได้ดีกว่า ทั้งที่ ในความเป็นจริงโรงเรียนในกลุ่มวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ หรือโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ก็สามารถทำคะแนนได้สูกว่าค่าเฉลี่ยของสิงคโปรเช่นเดียวกัน

นายสิริพงศ์ ยังเห็นว่า นายวิโรจน์พยายามด้อยค่าการศึกษาไทยด้วยการระบุว่า หลักสูตรล้าสมัย ก็เป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว เพราะหลักสูตรแกนกลางนั้น ก็ล้วนเป็นวิชาที่มีความสำคัญในการเรียน แต่การล้าสมัย หรือไม่ล้าสมัย ก็ขึ้นอยู่กับการจัดกเรียนการสอน ของแต่ละสถาบันการศึกษา ที่กระทรวงศึกษาธิการได้เปิดกว้างให้แต่ละสถานศึกษา สามารถจัดการเรียนการสอนของตนเองได้ เช่น หลักสูตรอิงลิชโปรแกรม, มินิอิงลิชโปรแกรม, ห้องเรียนที่เน้นการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือ Gifted, ห้องเรียนที่เน้นภาษาทั้งภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดก็อยู่ภายใต้หลักสูตรแกนกลาง ดังนั้น การศึกษาไทย จึงไม่ได้ด้อยการพัฒนาเหมือนที่นายวิโรจน์ได้กล่าวหา แต่ยอมรับว่า การศึกษาไทย ยังมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ที่ยังมีความไม่เสมอภาคทางการศึกษา แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาก็ได้ให้ความสำคัญ ผ่านนโยบาย Any Where: Any Time ที่กระทรวงศึกษากำลังดำเนินการ หรือแม้แต่ที่นายวิโรจน์ ได้อภิปรายพาดพพิงถึงโรงเรียน/สถานศึกษาขนาดเล็ก พร้อมยังกล่าวหาว่า เป็นภาระทางงบประมาณ มีปัญหา จึงขอให้นายวิโรจน์ชี้แจงให้ชัดเจนว่า นายวิโรจน์ มีแนวคิดจะยุบสถานศึกษาขาดเล็กหรือไม่ แต่กระทรวงศึกษาธิการ ในยุคของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกธิการ เข้าใจดีกว่า แม้การยุบโรงเรียนขนาดเล็กจะช่วยลดภาระได้ แต่กระทรวงศึกษาธิการ ก็จำเป็นต้องทำให้การศึกษาไทยเดินหน้า โดยทำให้โรงเรียนและสังคม อยู่ร่วมกันได้ด้วย เพราะการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก จะกระทบต่อชุมชนจำนวนมาก กระทรวงศึกษาธิการ จึงพยายามเพิ่มโรงเรียนคุณภาพ ในระดับตำบล และอำเภอ เพื่อเปิดทางเลือก และเตรียมสถานศึกษาให้กับเยาวชนที่สมัครใจย้ายก่อน ดีกว่าการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก และทำให้ผู้ปกครองและนักเรียนไม่ทราบว่า จะต้องไปศึกษาต่อที่สถาบันใด


ส่วนกรณีที่นายวิโรจน์ อภิปรายโจมตีงบประมาณดำเนินงานและรายจ่ายอื่น ๆ ของกระทรวงศึกษาธิการ และยังนำไปเปรียบเทียบกับกระทรวงสาธารณสุขนั้น นายสิริพงศ์ ชี้แจงว่า บริบททั้ง 2 กระทรวงมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะภาระหน้าที่ ที่กระทรวงสาธารณสุข นอกจากจะมีงบประมาณที่จะต้องจ่ายให้บุคลากรแล้ว ยังสามารถหารายได้จาก สปสช.ได้ แต่สถานศึกษามีความต่างกัน เพราะโรงเรียนได้เงินอุดหนุนตามจำนวนหัวของนักเรียนไม่ว่าภาระกิจมากหรือน้อย ดังนั้น เงินนอกงบประมาณของสถานศึกษา จึงไม่ได้มีมากเหมือนกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น งบประมาณดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ จึงเปรียบเสมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ของงบประมาณ โดยมีเงินจากกองทุนเสมอภาคทางการศึกษา เป็นงบประมาณส่วนเติมเต็มให้กับโรงเรียนที่ยังขาดโอกาส โดยจะตัดงบประมาณดำเนินงานให้เหลือเพียงกองทุนเสมอภาคทางการศึกษาไม่ได้ ดังนั้น จึงสะท้อนว่า ข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายค้านยังคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงมาก และขอวิงวอนให้นายวิโรจน์ นำข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนมาประกอบการทำหน้าที่พิจารณางบประมาณด้วย

นายสิริพงศ์ ยังตอบโต้กรณีที่นายวิโรจน์กล่าวหากระทรวงศึกษาธิการในยุคพลตำรวจเอกเพิ่มพูน แต่การศึกษากลับถดถอยว่า เรื่องดังกล่าว ไม่ได้สำคัญว่า รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการจะชื่ออะไร แต่สิ่งสำคัญที่สามารถเห็นได้จากนโยบายทางการศึกษาของพลตำรวจเอกเพิ่มพูน คือ รู้ปัญหาจริง และมีแนวคิดแก้ปัญหาการศึกษาอย่างยั่งยืนมากกว่า.-318.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ ฮ.ตก ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว

25 พ.ค.- เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ เหตุ ฮ.ตก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว เตรียมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 17.00 น.วันนี้ จากกรณีวันที่ 24 พ.ค. เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ประจำหน่วยบินตำรวจกาญจนบุรี ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]