มั่นใจงบ 67 จุดเริ่มต้นดันประเทศเติบโต

รัฐสภา 3 ม.ค.- นายกฯ นำทีม ครม.ประชุมสภาฯ ถกงบฯ 67 วันแรก พร้อมแถลงหลักการตั้งงบแบบขาดดุล แต่เชื่อเก็บรายได้ทะลุ 2.9 ล้านล้าน เพิ่มงบลงทุนกว่า 7 แสนล้าน มั่นใจจุดเริ่มสร้างประเทศเติบโต


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (3 ม.ค.) มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วาระแรก ก่อนเริ่มพิจารณาตัวแทนวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน ยืนยันจะทำงานเพื่อให้การประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ คือ 43 ชั่วโมง แบ่งเป็นฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง รัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.)20 ชั่วโมง และประธานในที่ประชุม 3 ชั่วโมง

สำหรับบรรยากาศก่อนเริ่มประชุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สวมสูทผูกเนกไทสีเหลือง นำทีมรัฐมนตรีเข้าประจำที่ในห้องประชุมสภาฯ อย่างพร้อมเพรียง เช่นเดียวกับ สส.รัฐบาล และ สส.ฝ่ายค้าน ที่มาลงชื่อร่วมประชุมกว่า 400 คน จากจำนวน สส.ที่มีทั้งสิ้น 499  คน


นายกรัฐมนตรี แถลงหลักการและเหตุผลร่าง พ.ร.บ.งบฯ 67 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบฯ เป็นเครื่องมือของรัฐบาลที่จะขับเคลื่อนนโยบายตามที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาา เป็นไปตามแผนพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยเรื่องเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญลำดับต้น ๆ  จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจระยะสั้น รวมถึงแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ในระบบ การลดราคาพลังงาน เพื่อให้ค่าใช้จ่ายประชาชนลดลง และเพิ่มขีดการแข่งขันด้านอุตสาหกรรม ด้านสังคม ความมั่นคงผ่านการพัฒนากองทัพและความมั่นคงให้ทันสมัย ใกล้ชิดประชาชน ใช้การเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ขณะที่ในด้านการเมืองการปกครอง ประชาชนจะได้เห็นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แก้ไขจุดด้อยบนหลักการที่เป็นไปได้และเหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งใหม่ในสังคม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับทิศทางเศรษฐกิจ 67ของสภาพัฒน์ฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 2.7-3.7% แต่มีปัจจัยเสี่ยงทั้งภาวะหนี้สินครัวเรือน ภาคธุรกิจ ปัญหาภัยแล้ง และความขัดแย้งโลก ซึ่งอัตราเงินเฟ้อจะอยูในช่วง 1.7 – 2.7% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.5% ทั้งนี้ ในภาวะเศรษฐกิจดังกล่าว รัฐบาลต้องทำงบประมาณแบบขาดดุล เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยประมาณการจัดเก็บรายได้จากภาษี การขายสินค้า บริการ รัฐพาณิชย์ และรายได้อื่น รวม 2.9 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11.4% จากปี 66 หักการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) จำนวน 125,800 ล้านบาท ทำให้คงเหลือเป็นรายได้สุทธิ ที่จัดสรรเป็นรายจ่ายรัฐบาล จำนวน 2.7 ล้านล้านบาท

“โดยสรุปงบฯ ปี 67 ประมาณรายจ่าย 3.480 ล้านล้านบาท คาดว่ามีรายได้จากการจัดเก็บได้ 2.787 ล้านล้านบาท และเป็นการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 6.93แสนล้านบาท แม้การจัดสรรงบปี 67 จะเพิ่มขึ้น 9.3% แต่รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ได้มากขึ้น 11.9% ทำให้สามารถจัดสรรงบไปลงทุนได้กว่า 7.17แสนล้านบาท และสามารถชดใช้เงินคงคลังและชำระคืนต้นเงินกู้ได้กว่า 1.18 แสนล้านบาท เป็นการเตรียมพร้อม ทำให้รัฐบาลมีกรอบการลงทุนในระยะกลางและยาวในปีงบประมาณ 2568” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้จัดสรรงบประมาณที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 6 ด้าน อาทิ ความมั่นคง วงเงิน 3.90 แสนล้านบาท ด้านความสามารถในการแข่งขัน วงเงิน 3.93 แสนล้านบาท การพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ วงเงิน 5.61แสนล้านบาท การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม วงเงิน 8.43 หมื่นล้านบาท สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วงเงิน 1.31 แสนล้านบาท การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ วงเงิน 604,804 ล้านบาท เพื่อยกระดับการพัฒนาประเทศในด้านต่าง ๆ อาทิ กองทัพ คมนาคม รัฐบาลดิจิทัล รวมถึงยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนการให้บริการ เพิ่มขีดสามารถการแข่งขันและแก้ปัญหา เช่น ยาเสพติด เป็นต้น

“สำหรับตัวเลขหนี้สาธารณะคงค้าง เมื่อ 31 ต.ค.2566 จำนวน 11 ล้านล้านบาท คิดเป็น 62.1% ของจีดีพี ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะ ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่กำหนดไว้ที่ 70% โดยหนี้สาธารณะที่เป็นข้อผูกพันของรัฐบาล ซึ่งเกิดจากการกู้ยืมเงิน และการค้ำประกัน จำนวนทั้งสิ้น 10 ล้านล้านบาท ขณะที่ฐานะเงินคงคลัง เมื่อ 31 ต.ค. 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 2.97 แสนล้านบาท ซึ่งในการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ จำนวน 3.46 แสนล้านบาท เพื่อชำระคืนต้นเงินกู้ 1.18แสนล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 2.28แสนล้านบาท โดยการบริหารงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดจะเป็นจุดเริ่มต้นการทำนโยบายระยะสั้นถึงระยะยาว โดยรัฐบาลจะใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตประเทศ และเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย” นายกรัฐมนตรี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีใช้เวลาอ่านคำแถลงหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.งบฯ 67 ประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที.-312.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบกุญแจมือเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนดัง ส่งนอนห้องขัง

“บิ๊กเต่า” ลั่นเตรียมมอบ “กุญแจมือ” เป็นของขวัญปีใหม่ให้อินฟลูฯ นักร้อง คนดัง ส่งนอนห้องขังวีไอพี เผยปม “ฟิล์ม รัฐภูมิ” คาดมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง