นายกฯ ถกผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 4

ทำเนียบ 25 ธ.ค.- นายกฯ ประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ครั้งที่ 4 เสนอ Advancement of Three Futures พัฒนาการเชื่อมโยงด้านกายภาพ แก้ปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่ร่วมกัน สร้างโอกาสเติบโตใหม่ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศสมาชิกฯ เป็นสองเท่าภายใน 2 ปี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 4 ผ่านระบบการประชุมทางไกล ภายใต้หัวข้อ “Join Hands on the Building of a Community of Shared Future and Modernization among Mekong-Lancang Countries” โดยมีจีนและเมียนมาเป็นประธานร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นเกียรติในการประชุมผู้นำ the 4th Mekong-Lancang Cooperation (MLC) ซึ่งถือเป็นครั้งที่เปิดโอกาสให้ทบทวนความคืบหน้าและหารือเกี่ยวกับทิศทางในอนาคตของ MLC โดยชื่นชมความก้าวหน้าของ MLC ทั้ง 3 เสาความร่วมมือ และ 5 สาขาความร่วมมือหลักมาอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณจีนสำหรับการสนับสนุนต่อกองทุนพิเศษ MLC (Mekong-Lancang Cooperation Special Fund) ซึ่งมีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทยและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ทั้งด้านการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน เศรษฐกิจและการค้าข้ามแดน การเกษตร สาธารณสุข และความมั่นคงทางอาหาร


นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า MLC ควรเสริมสร้างความเป็นผู้นำร่วมกัน สร้างอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่มีสันติภาพและเจริญรุ่งเรือง และได้เสนอ “ความก้าวหน้าของสามอนาคต Advancement of Three Futures ” เพื่อสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายร่วมกัน คือ

  1. MLC จำเป็นต้องพัฒนาความร่วมมือในการเชื่อมต่อด้านกายภาพ ส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในอนุภูมิภาคและภูมิภาค ต่อยอดเครือข่ายความเชื่อมโยงภายใต้ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ระเบียงการพัฒนาเศรษฐกิจแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Economic Development Belt) และระเบียงการค้าระหว่างประเทศทางบกและทางทะเลแห่งใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor) เพื่อเชื่อมโยงกับอนุภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมโยงภูมิภาค โครงการ Landbridge จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานเชื่อมต่ออ่าวไทยกับมหาสมุทรอินเดีย โครงการนี้จะเป็นประตูสู่ตลาดโลกและห่วงโซ่คุณค่าสําหรับอนุภูมิภาค และได้เชิญชวนให้จีนมีส่วนร่วมในการลงทุนกับโครงการนี้ โดยพร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะเร่งก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เพื่อเชื่อมต่อกับทางรถไฟจีน-ลาว รวมทั้ง ส่งเสริมความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ พัฒนาตามแนวชายแดนและการอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน และการค้าข้ามแดน เสริมสร้างการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จที่จุดเดียว (one stop service) การสร้างพื้นที่ควบคุมร่วมกัน (common control areas) ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจแบบไร้รอยต่อจะช่วยให้การขนส่งสินค้าเกษตรและการไปมาหาสู่กันดำเนินได้อย่างรวดเร็ว กระตุ้นเศรษฐกิจของพื้นที่ชายแดน
  2. แก้ไขปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่ร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ การหลอกลวงทางโทรคมนาคม และการฉ้อโกงออนไลน์ เพื่อคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และความมั่นคงของชาติของเรา ซึ่งรวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และมลภาวะหมอกควันข้ามแดน พัฒนา ‘ข้อริเริ่มอากาศสะอาด’ ภายใต้กรอบความร่วมมือ MLC เพื่อรักษาสุขภาพและสวัสดิภาพของประชาชน รวมทั้ง ความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ ผ่านการประสานงานระหว่างศูนย์ความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำแม่โขง-ล้านช้าง (Mekong-Lancang Water Resources Cooperation Center) กับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขง (Mekong River Commission Secretariat)
  3. สร้างโอกาสการเติบโตใหม่ ไทยสนับสนุนการพัฒนาระเบียงนวัตกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC innovation corridor) สร้างระบบนิเวศให้นวัตกรรม การเติบโตที่ยั่งยืน และการเปลี่ยนผ่านสีเขียว โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงคำมั่นที่ได้ประกาศในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อเดือนกันยายนว่า ประเทศไทยจะยกระดับความพยายามในการส่งเสริมการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และส่งเสริมการดำเนินการที่เกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ (climate actions) ทั้งนี้ รวมทั้งการตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศสมาชิกฯ เป็นสองเท่าภายใน 2 ปีข้างหน้า ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในภูมิภาค ให้ความปลอดภัยและการคุ้มครองด้านกงสุลแก่นักท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ในฐานะที่ไทยจะรับตำแหน่งประธานร่วม(ในห้วงปี 2567-2568) ในการประชุมครั้งนี้ ไทยพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกประเทศ ขับเคลื่อนวาระของกรอบความร่วมมือ MLC ส่งเสริมความร่วมมือกับ ACMECS เพื่อสนับสนุนการพัฒนาของอนุภูมิภาคให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ร่วมมือเพื่อสร้างอนาคตร่วมกันเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในอนุภูมิภาค

สำหรับกรอบ MLC พัฒนามาจากข้อริเริ่มของไทยเมื่อปี 2555 โดยประกอบด้วย 3 เสาความร่วมมือ ได้แก่ การเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจและการพัฒนาที่ยั่งยืน และสังคมและวัฒนธรรม โดยมี 5 สาขา ความร่วมมือหลัก ได้แก่ ความเชื่อมโยง ศักยภาพในการผลิต เศรษฐกิจข้ามพรมแดน ทรัพยากรน้ำ และการเกษตรขจัดความยากจน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีเอกสารผลลัพธ์ ได้แก่ 1) ปฏิญญาเนปยีดอ 2) แผนดำเนินการระยะ 5 ปี ของกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (ค.ศ. 2023-2027) และ 3) ข้อริเริ่มร่วมเรื่องการพัฒนาระเบียงนวัตกรรมภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขงล้านช้าง.-316 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]