เป็นเอกสิทธิ์ผู้ต้องขังเปิดเผยโรค-เข้าเยี่ยมไม่ได้ หากไม่อนุญาต

ทำเนียบรัฐบาล 22 ธ.ค.-“สมศักดิ์” แจง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ เป็นพัฒนาการของกฎหมาย ปัดเอื้อ “ทักษิณ” ย้ำ เป็นเอกสิทธิ์เปิดเผยโรค-เข้าเยี่ยมไม่ได้ หากไม่อนุญาต

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 เป็นกฎหมายที่ออกมาในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่าเอื้อประโยชน์แก่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ ว่า เป็นพัฒนาการที่ต้องเป็นไปตามนั้น เพื่อให้เดินไปในแนวทางของกฎหมาย มีกฎหมายหลายกระทรวงที่สร้างขึ้นมา แต่ไม่ได้ดำเนินการพัฒนาต่อ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศ ทำให้เสียโอกาส นั่งรอเซ็นหนังสือไปวันๆ นี่ไม่ใช่การพัฒนาประเทศ การพัฒนาประเทศจะต้องคิดเอาประโยชน์จากกฎหมาย เพื่อสังคมและประเทศชาติ นี่คือการเมืองที่ดี


เมื่อถามว่า ทำไมกฎหมายจึงออกมาในจังหวะที่นายทักษิณ เดินทางกลับประเทศ เป็นการเอื้อประโยชน์ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นช่วงจังหวะที่ลงตัวพอดี โดยปกติสังคมราชการไทยจะอยู่กันอย่างสบายๆ ไม่คิดอยากจะทำอะไรที่เป็นเรื่องใหม่ เพราะเรื่องใหม่มักจะเป็นเรื่องเสี่ยงกับการตรวจสอบ และองค์กรตรวจสอบก็ไม่อยู่ในมาตรฐานที่ดี มีความไม่ชัดเจน ทั้งในด้านวิชาการและกฎหมาย ส่วนนักโทษคนอื่นที่เข้าเกณฑ์ของระเบียบราชทัณฑ์แล้ว การดำเนินการอาจจะเสียโอกาส เพราะถูกผลกระทบจากข้อมูลข่าวสาร  

“เป็นพัฒนาการของวันเวลาของกฏหมาย กฏหมายออกมาตั้งแต่ปี 2560 ในมาตรา 43 กล่าวว่า เมื่อครบ 5 ปี ต้องมีการสังคายนาใหม่ ว่ามีอะไรสมดุลหรือไม่ที่ต้องปรับแก้ไข ถ้าไม่คิดจะพัฒนาบ้านเมืองก็นอนอยู่เฉยๆ เราต้องแก้ไขกฎระเบียบ ให้เข้าสู่ความเป็นสากลทุกด้าน ไม่ใช่ด้านใดด้านหนึ่ง จะทำให้มีช่องทางการหาเงินเข้าประเทศมากขึ้น ตนอยู่กับการเมืองมา 40 ปี ตนพูดได้เพราะเห็นชัดมาแล้ว พร้อมชี้แจงกับประชาชนที่มีข้อสงสัยเรื่องนี้ได้ ตนออกมาพูดชี้แจงให้แต่ในขณะที่คนอื่น ไม่มีใครกล้าออกมาพูด ยังเข้าใจเรื่องนี้ผิดอยู่ หากไม่มีการเดินหน้าต่อ ความเสียหายจะเกิดขึ้น กับคนอื่นๆที่ควรจะได้รับประโยชน์จากตรงนี้” นายสมศักดิ์ กล่าว


ส่วนนายทักษิณจะต้องอยู่นอกเรือนจำไปตลอดหรือไม่นั้น นาย สมศักดิ์ กล่าวว่า ต้องมีการพูดคุยกันก่อน  ถึงแนวทางหลังจากนี้ เรื่องของการจะอยู่ในเรือนจำหรือไม่เป็นเรื่องของการตรวจสอบของแพทย์และเอกสิทธิ์ของผู้ต้องขัง มีกฏกติกาอยู่แล้ว ส่วนที่กรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร จะขอไปตรวจชั้น 14 ในวันที่ 12 มกราคมนั้น หากไม่มีการอนุญาตก็ไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ต้องขัง รวมถึงโรค หากมีการเปิดเผยโดยที่ไม่อนุญาต ก็สามารถฟ้องร้องได้ เป็นเอกสิทธิ์ของนักโทษทุกคนไม่ใช่รายใดรายหนึ่ง.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง