“จุลพันธ์” มั่นใจแก้หนี้นอกระบบยุติดอกเบี้ยโหด  

รัฐสภาฯ 14 ธ.ค. – “จุลพันธ์” ตอบกระทู้สภาฯ แนวทางแก้หนี้นอกระบบ มั่นใจแก้ปัญหาได้ผล ยุติวงจรดอกเบี้ยโหด พร้อมชูพิโกไฟแนนซ์ รื้อโครงสร้างหนี้นอกระบบ ระบุสัปดาห์หน้า ครม. คลอดมาตรการแก้หนี้เอสเอ็มอี


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมพิจารณากระทู้ถามสดที่ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคเพื่อไทย ถามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ แต่ยังไม่ค่อยมีใครกล้ามาลงทะเบียน จึงอยากถามว่าจะแก้ปัญหาที่ลูกหนี้ไม่กล้ามาลงทะเบียนได้อย่างไร รัฐบาลจะมีหลักประกันความปลอดภัยให้กับลูกหนี้นอกระบบอย่างไร และรัฐบาลมีแรงจูงใจอย่างไร เพื่อให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เข้ามาลงทะเบียนร่วมแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งจะมีมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อป้องกันการสร้างหนี้ใหม่


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่ารัฐบาลได้แถลงแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบไปแล้ว โดยตั้งแต่วันแรกที่เราเดินเข้าสู่การเป็นรัฐบาล ปัญหาเรื่องของหนี้สินเป็นปัญหาซึ่งคาราคาซังแล้วก็กดทับกับพี่น้องประชาชนอย่างหนัก สถานการณ์ของประเทศไทยในตอนนี้ภาครัฐเองมีตัวเลขหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ในส่วนของหนี้ภาคครัวเรือน มีตัวเลขที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ระดับกว่า 90% ของ GDP ทั้งนี้ การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ควรอยู่ในระบบ

โดยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนั้น รัฐบาลได้มีช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเข้ามา โดยช่องทางแรกแจ้งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ หรือสายด่วน 1599 ช่องทางที่ 2 คือผ่านศูนย์ดำรงธรรมสำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ หรือการโทรสายด่วน 1567

ช่องทางที่ 3 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือสายด่วน 111 ช่องทางที่ 4 ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบสำนักงานเศรษฐกิจการคลังซึ่งอยู่ในกำกับของกระทรวงการคลัง สายด่วน 1359 และช่องทางสุดท้ายผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบนี้ เราได้สร้างระบบเพื่อที่จะรองรับในเรื่องของการแจ้งหนี้นอกระบบเหล่านี้กับภาครัฐ โดยพี่น้องประชาชนทุกคนที่แจ้งท่านจะได้รับสิ่งที่เรียกว่า tracking Number และไม่ให้เกิดการทับซ้อน และที่สำคัญพี่น้องประชาชนผู้เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบจะสามารถติดตามในเรื่องของปัญหาของตัวเองได้อย่างตลอดครบวงจรตั้งแต่ต้นจนแก้ไขปัญหาเสร็จเรียบร้อย


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระบวนการที่เราทำในเบื้องต้น เริ่มที่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้เป็นหนี้นอกระบบที่จะต้องเดินเข้ามาที่ยังศูนย์แจ้งต่างๆ เรียกว่าระบบสมัครใจ หมายความว่าผู้เป็นหนี้ลูกหนี้ต้องมีความสมัครใจจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของตน และเมื่อแจ้งมาแล้วเราจะทำการติดต่อไปยังเจ้าหนี้นอกระบบต่างๆ เพื่อให้เข้ามาและมาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยฝ่ายปกครอง คือทางอำเภอหรือทางตำรวจ จะต้องเป็นผู้ที่จะนัดหมายทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์ นำตัวเลขยอดหนี้ ตัวเลขการชำระคืนที่ผ่านมาทั้งหมด และจะดูตัวเลขในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้อยู่ในกรอบของกฎหมายที่เป็นธรรม หากลูกหนี้เดินเข้ามา พร้อมเจ้าหนี้แล้วเราตรวจสอบแล้วว่าสิ่งที่ท่านได้ชำระผ่านมาในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด อาจจะเป็นหนี้มา 2 ปี 3 ปีที่ชำระผ่านมา มีแต่ดอกเบี้ยแต่ยอดมันเกินกว่าเงินต้นแล้ว และชำระจนถึงจุดที่คุ้มค่ากับเงินต้นที่เจ้าหนี้นอกระบบได้ให้ยืมมา ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมเราก็จะมีการเจรจาพูดคุยเพื่อยุติปัญหาและยอดนี้ทั้งหมด

สำหรับสิ่งที่จะจูงใจให้ประชาชนเข้ามาแจ้งเพื่อยุติปัญหาหนี้นอกระบบนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการติดตามพบว่าตัวเลขที่แจ้งเข้ามาน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะประชาชนอาจจะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทำให้ประชาชนกำลังเริ่มที่จะทยอยตัดสินใจ ว่าจะเข้ามาขอความช่วยเหลือจากศูนย์ต่างๆ ที่เราได้กำหนดขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนี้หรือไม่ ดังนั้น ความตั้งใจ และจริงจังในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ด้วยสัญญาณที่ชัดเจนของรัฐบาล และความจริงใจที่เราเดินหน้า เชื่อว่าปัญหานี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ และสุดท้ายประชาชนกจะหลั่งไหลเข้ามา และนำไปสู่หนทางแก้ไข

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ภาครัฐมีเครื่องมือกลไก โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ ทั้งธนาคารออมสินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีความพร้อมในการรองรับยอดหนี้ที่มีอยู่ หากเจรจากันแล้วลูกหนี้และเจ้าหนี้สามารถตกลงกันได้ โยกเอาภาระหนี้สินเข้ามาสู่สถาบันการเงินก็สามารถทำได้ เพื่อปรับโครงสร้างให้เป็นลักษณะของหนี้ที่อยู่ภายใต้การกำกับของกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางที่จะต้องดำเนินการต่อไป    

รวมถึงกลไกของพิโกไฟแนนซ์ เป็นสถาบันให้กู้ขนาดเล็ก ที่ขออนุญาตจดทะเบียนกับกระทรวงการคลังได้ โดยมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 5 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท และเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ย 33% ต่อปี กรณีมีหลักประกัน หากไม่มีหลักประกันจะมีอัตราดอกเบี้ย 36% ซึ่งเป็นแนวทางสร้างเครื่องมือกลไกการเงินขนาดเล็ก เพื่อรองรับการปัญหาหนี้นอกระบบ โดยเจ้าหนี้นอกระบบสามารถผันตัวเองเข้าขอใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง เพื่อทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายและมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์ และมีรายได้เพียงพอต่อเงิน ขณะเดียวกันประชาชนหรือลูกหนี้ไม่เดือดร้อน เพราะอยู่ในกำกับของรัฐ

“รัฐบาลต้องเดินหน้าหากลไก ลดภาระหนี้และหารายได้เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนลดภาระค่าครองชีพและหนี้สิน ทั้งนี้ การมีหนี้ไม่ผิด หากประเทศไม่มีกลไก หรือเครื่องมือก่อหนี้ นำหนี้มาประกอบอาชีพ สร้างรายได้ใหม่ ไม่มีโอกาสเจริญรุดหน้า หรือเติบโตเพียงพอต่อประชากร แต่หนี้นอกระบบต้องอยู่ในระดับที่สร้างหนี้และบริหารจัดการตนเองได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า กลไกปัญหาแก้ไขหนี้สิน ทั้งเอสเอ็มอี กว่า 60,000 ราย ที่ช่วงโควิดถูกปรับเป็นเอ็นพีแอล ในรหัส 21 สัปดาห์หน้าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในการดำเนินการต่อไป รวมถึงการแก้หนี้ประชาชนกว่า 1 ล้านราย ที่เกิดเอ็นพีแอลในช่วงโควิด-314.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย