“จุลพันธ์” มั่นใจแก้หนี้นอกระบบยุติดอกเบี้ยโหด  

รัฐสภาฯ 14 ธ.ค. – “จุลพันธ์” ตอบกระทู้สภาฯ แนวทางแก้หนี้นอกระบบ มั่นใจแก้ปัญหาได้ผล ยุติวงจรดอกเบี้ยโหด พร้อมชูพิโกไฟแนนซ์ รื้อโครงสร้างหนี้นอกระบบ ระบุสัปดาห์หน้า ครม. คลอดมาตรการแก้หนี้เอสเอ็มอี


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เป็นประธานการประชุมพิจารณากระทู้ถามสดที่ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคเพื่อไทย ถามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ

น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลได้ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ แต่ยังไม่ค่อยมีใครกล้ามาลงทะเบียน จึงอยากถามว่าจะแก้ปัญหาที่ลูกหนี้ไม่กล้ามาลงทะเบียนได้อย่างไร รัฐบาลจะมีหลักประกันความปลอดภัยให้กับลูกหนี้นอกระบบอย่างไร และรัฐบาลมีแรงจูงใจอย่างไร เพื่อให้เจ้าหนี้และลูกหนี้เข้ามาลงทะเบียนร่วมแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งจะมีมาตรการทางเศรษฐกิจอย่างไร เพื่อป้องกันการสร้างหนี้ใหม่


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่ารัฐบาลได้แถลงแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบไปแล้ว โดยตั้งแต่วันแรกที่เราเดินเข้าสู่การเป็นรัฐบาล ปัญหาเรื่องของหนี้สินเป็นปัญหาซึ่งคาราคาซังแล้วก็กดทับกับพี่น้องประชาชนอย่างหนัก สถานการณ์ของประเทศไทยในตอนนี้ภาครัฐเองมีตัวเลขหนี้สาธารณะอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ในส่วนของหนี้ภาคครัวเรือน มีตัวเลขที่ค่อนข้างสูงอยู่ที่ระดับกว่า 90% ของ GDP ทั้งนี้ การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ควรอยู่ในระบบ

โดยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนั้น รัฐบาลได้มีช่องทางให้ประชาชนสามารถแจ้งเข้ามา โดยช่องทางแรกแจ้งไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ หรือสายด่วน 1599 ช่องทางที่ 2 คือผ่านศูนย์ดำรงธรรมสำนักงานเขต หรือที่ว่าการอำเภอ หรือการโทรสายด่วน 1567

ช่องทางที่ 3 ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หรือสายด่วน 111 ช่องทางที่ 4 ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบสำนักงานเศรษฐกิจการคลังซึ่งอยู่ในกำกับของกระทรวงการคลัง สายด่วน 1359 และช่องทางสุดท้ายผ่านทางเว็บไซต์ของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งในเรื่องของการแก้ไขปัญหาหนี้สินนอกระบบนี้ เราได้สร้างระบบเพื่อที่จะรองรับในเรื่องของการแจ้งหนี้นอกระบบเหล่านี้กับภาครัฐ โดยพี่น้องประชาชนทุกคนที่แจ้งท่านจะได้รับสิ่งที่เรียกว่า tracking Number และไม่ให้เกิดการทับซ้อน และที่สำคัญพี่น้องประชาชนผู้เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบจะสามารถติดตามในเรื่องของปัญหาของตัวเองได้อย่างตลอดครบวงจรตั้งแต่ต้นจนแก้ไขปัญหาเสร็จเรียบร้อย


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระบวนการที่เราทำในเบื้องต้น เริ่มที่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะผู้เป็นหนี้นอกระบบที่จะต้องเดินเข้ามาที่ยังศูนย์แจ้งต่างๆ เรียกว่าระบบสมัครใจ หมายความว่าผู้เป็นหนี้ลูกหนี้ต้องมีความสมัครใจจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของตน และเมื่อแจ้งมาแล้วเราจะทำการติดต่อไปยังเจ้าหนี้นอกระบบต่างๆ เพื่อให้เข้ามาและมาพูดคุยทำความเข้าใจ โดยฝ่ายปกครอง คือทางอำเภอหรือทางตำรวจ จะต้องเป็นผู้ที่จะนัดหมายทั้งสองฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้หลักการทางเศรษฐศาสตร์ นำตัวเลขยอดหนี้ ตัวเลขการชำระคืนที่ผ่านมาทั้งหมด และจะดูตัวเลขในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยเพื่อให้อยู่ในกรอบของกฎหมายที่เป็นธรรม หากลูกหนี้เดินเข้ามา พร้อมเจ้าหนี้แล้วเราตรวจสอบแล้วว่าสิ่งที่ท่านได้ชำระผ่านมาในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด อาจจะเป็นหนี้มา 2 ปี 3 ปีที่ชำระผ่านมา มีแต่ดอกเบี้ยแต่ยอดมันเกินกว่าเงินต้นแล้ว และชำระจนถึงจุดที่คุ้มค่ากับเงินต้นที่เจ้าหนี้นอกระบบได้ให้ยืมมา ในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรมเราก็จะมีการเจรจาพูดคุยเพื่อยุติปัญหาและยอดนี้ทั้งหมด

สำหรับสิ่งที่จะจูงใจให้ประชาชนเข้ามาแจ้งเพื่อยุติปัญหาหนี้นอกระบบนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จากการติดตามพบว่าตัวเลขที่แจ้งเข้ามาน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะประชาชนอาจจะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ทำให้ประชาชนกำลังเริ่มที่จะทยอยตัดสินใจ ว่าจะเข้ามาขอความช่วยเหลือจากศูนย์ต่างๆ ที่เราได้กำหนดขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนี้หรือไม่ ดังนั้น ความตั้งใจ และจริงจังในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นรูปธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ด้วยสัญญาณที่ชัดเจนของรัฐบาล และความจริงใจที่เราเดินหน้า เชื่อว่าปัญหานี้จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ และสุดท้ายประชาชนกจะหลั่งไหลเข้ามา และนำไปสู่หนทางแก้ไข

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ภาครัฐมีเครื่องมือกลไก โดยเฉพาะสถาบันการเงินของรัฐ ทั้งธนาคารออมสินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร มีความพร้อมในการรองรับยอดหนี้ที่มีอยู่ หากเจรจากันแล้วลูกหนี้และเจ้าหนี้สามารถตกลงกันได้ โยกเอาภาระหนี้สินเข้ามาสู่สถาบันการเงินก็สามารถทำได้ เพื่อปรับโครงสร้างให้เป็นลักษณะของหนี้ที่อยู่ภายใต้การกำกับของกฎหมาย ซึ่งเป็นแนวทางที่จะต้องดำเนินการต่อไป    

รวมถึงกลไกของพิโกไฟแนนซ์ เป็นสถาบันให้กู้ขนาดเล็ก ที่ขออนุญาตจดทะเบียนกับกระทรวงการคลังได้ โดยมีทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 5 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อรายละไม่เกิน 50,000 บาท และเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ย 33% ต่อปี กรณีมีหลักประกัน หากไม่มีหลักประกันจะมีอัตราดอกเบี้ย 36% ซึ่งเป็นแนวทางสร้างเครื่องมือกลไกการเงินขนาดเล็ก เพื่อรองรับการปัญหาหนี้นอกระบบ โดยเจ้าหนี้นอกระบบสามารถผันตัวเองเข้าขอใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง เพื่อทำธุรกิจที่ถูกกฎหมายและมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าธนาคารพาณิชย์ และมีรายได้เพียงพอต่อเงิน ขณะเดียวกันประชาชนหรือลูกหนี้ไม่เดือดร้อน เพราะอยู่ในกำกับของรัฐ

“รัฐบาลต้องเดินหน้าหากลไก ลดภาระหนี้และหารายได้เพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนลดภาระค่าครองชีพและหนี้สิน ทั้งนี้ การมีหนี้ไม่ผิด หากประเทศไม่มีกลไก หรือเครื่องมือก่อหนี้ นำหนี้มาประกอบอาชีพ สร้างรายได้ใหม่ ไม่มีโอกาสเจริญรุดหน้า หรือเติบโตเพียงพอต่อประชากร แต่หนี้นอกระบบต้องอยู่ในระดับที่สร้างหนี้และบริหารจัดการตนเองได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า กลไกปัญหาแก้ไขหนี้สิน ทั้งเอสเอ็มอี กว่า 60,000 ราย ที่ช่วงโควิดถูกปรับเป็นเอ็นพีแอล ในรหัส 21 สัปดาห์หน้าจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในการดำเนินการต่อไป รวมถึงการแก้หนี้ประชาชนกว่า 1 ล้านราย ที่เกิดเอ็นพีแอลในช่วงโควิด-314.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]