ผลสำรวจคนเชียร์ “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้า ปชป.

กทม. 8 ธ.ค.-สยามเทคโนโพล ชี้ผลสำรวจพบคนเชียร์ “อภิสิทธิ์” นั่งหัวหน้า ปชป. ขณะที่ “มาดามเดียร์-นราพัฒน์-ชัยชนะ” ได้เสียงคนรุ่นใหม่ร่วมหนุน

นายธนกร พงษ์ภู่ อาจารย์ประจำสำนักวิจัยสยามเทคโนโพล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เสนอผลสำรวจ เรื่อง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,741 ตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1-7 ธันวาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ผลสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 27.5 อยากได้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ชื่อ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ เพราะมีประสบการณ์การเมืองสูง เคยเป็นนายกรัฐมนตรี มีบารมีสูง มีความเป็นอินเตอร์ นานาชาติ ยังชื่นชอบหลักการ อุดมการณ์ มีความรู้ความสามารถ การศึกษาดี มีผลงาน ยังทำงานได้ดี เป็นต้น อันดับสองคือ พันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล เพราะ เป็นคนประชาธิปัตย์ยาวนาน เป็นลูกอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการปฏิรูปการศึกษา แก้ปัญหายาเสพติดโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง อยากเห็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้หญิง ผลักดันสิทธิสตรีเท่าเทียมขึ้น น่าจะคอยเชื่อมประสานคนในพรรคได้ดี ดูดีไม่มีปัญหา เป็นต้น ร้อยละ 18.0 แต่ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ลงสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผู้ที่ประชาชนให้อยากให้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์มากสุดคือ พันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล


ขณะที่ อันดับสาม คือ ร้อยละ 14.9 อยากได้นางสาว วทันยา  บุนนาค เพราะ เป็นคนรุ่นใหม่ มีบุคลิกดี ถึงลูกถึงคน อยากเห็นผู้นำพรรคเป็นผู้หญิงคนแรกของพรรคประชาธิปัตย์ สื่อสารกับสังคมได้ดี มีความเป็นผู้นำสูง เฉียบคม กล้าคิดกล้าพูด เข้าถึงประชาชน เป็นต้น ร้อยละ 14.5 อยากได้ นายชัยชนะ เดชเดโช เพราะเป็นคนเก่งการเมือง เข้าถึงประชาชน เรียบง่าย น่าเชื่อถือ มุ่งมั่นเพื่อประชาชน รู้งานรู้จริง ทำงานได้ เหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรค เป็นต้น ร้อยละ 12.9 อยากได้นายนราพัฒน์  แก้วทอง เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ สายเลือดนักการเมือง เข้าใจงานการเมืองได้ดี เข้าถึงประชาชน บุคลิกดี พูดจาดี มีหลักการ มารยาทดี สัมมาคารวะ ไม่ยกตนข่มท่าน สุภาพนอบน้อม เป็นต้น และร้อยละ 12.2 ระบุอื่น ๆ เช่น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน และ ไม่ตอบไม่มีความเห็น เป็นต้น

เมื่อแบ่งออกเป็นชายและหญิง พบว่า หญิงร้อยละ 28.1 อยากได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้า มากกว่า กลุ่มผู้ชายที่มีอยู่ร้อยละ 26.6 อยากได้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้า ในทิศทางเดียวกันกับ พันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ที่ได้แรงสนับสนุนจากกลุ่มผู้หญิงร้อยละ 19.1 มากกว่า กลุ่มผู้ชาย ร้อยละ 16.4 ในขณะที่คนอื่น ๆ สัดส่วนไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อแบ่งออกตามช่วงอายุ พบว่า มาดามเดียร์ หรือ นางสาว วทันยา บุนนาค และ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ได้เสียงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่อายุน้อยกว่า 20 ปี คือ ร้อยละ 17.1 และร้อยละ 20.0 ในขณะที่ นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ และพันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ได้เสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนสูงอายุ ตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปคือร้อยละ 23.8 และ ร้อยละ 23.8 เท่ากัน


เมื่อแบ่งออกตามอาชีพ พบว่า ถ้าไม่นับรวมนายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ เข้าวิเคราะห์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง จะได้เสียงสนับสนุนจากนักเรียน นักศึกษาสูงสุดคือร้อยละ 17.1 นาย ชัยชนะ เดชเดโชได้ร้อยละ 15.8 และ นางสาว วทันยา บุนนาค ได้ร้อยละ 15.3 ตามลำดับ แต่ ในกลุ่มข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ พันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ได้เสียงสนับสนุนมากสุดคือ ร้อยละ 28.7 และร้อยละ 20.6 เช่นกันในกลุ่มผู้เกษียณอายุที่นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ได้ร้อยละ 32.0 และ พันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล ได้ร้อยละ 26.7 ตามลำดับ

รายงานของสำนักวิจัยสยามเทคโนโพล ระบุด้วยว่า กลุ่มผู้มีข่าวสมัครเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มต่าง ๆ ของประชาชนแตกต่างกัน ถ้าเป็นหญิง ก็จะสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ พันโท หญิง ฐิฏา รังสิตพล มานิตกุล เช่นกันกับกลุ่มอาชีพ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ และกลุ่มเกษียณอายุ แต่ ถ้าเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุน้อยและกลุ่มนักเรียนนักศึกษาจะสนับสนุนนางสาว วทันยา บุนนาค นายนราพัฒน์ แก้วทอง และนายชัยชนะ เดชเดโช ตามคุณสมบัติเหตุผลของแต่ละคนที่แตกต่างกัน จึงเสนอให้นำจุดแข็งของผลงานพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตช่วงวัยของคนเกษียณอายุมาเป็นจุดขายมากกว่าไปแย่งแข่งขันในกลุ่มลูกค้าฐานเสียงที่อิ่มตัวเช่นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ฝังใจไปกับพรรคอื่น ๆ แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ย้ำปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงเคร่งครัด

ศรีสะเกษ 27 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 แถลงผลประชุม RBC 11 ข้อ ที่ด่านศุลกากรช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ย้ำให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ไม่ขยายขอบเขตความขัดแย้ง ไม่เผยแพร่ข่าวปลอม รวมถึงเห็นชอบให้ความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ คำแถลงข่าวร่วมการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ ระหว่างกองทัพภาคที่ 2 ราชอาณาจักรไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา วันที่ 27 สิงหาคม 2568 จังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) สมัยวิสามัญ จัดขึ้นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ในจังหวัดศรีสะเกษ ราชอาณาจักรไทย โดยมี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 และพลโท […]