ก.ต่างประเทศ 23 พ.ย.- นายกฯ รับฟังการนำเสนอ “ประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” มอบนโยบายทีมไทยแลนด์ ทำงานประสานการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก ร่วมเสริมสร้างศักยภาพไทยสู่เวทีโลก
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ารับฟังการนำเสนอ เรื่อง “ประเทศเป้าหมายสำคัญสำหรับการทูตเศรษฐกิจเชิงรุก” โดยก่อนร่วมงานนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมถ่ายรูปกับเอกอัครราชทูตไทยจากทั่วโลกที่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้
โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เสียสละเวลามาประชุมร่วมกันใน 2- 3 วันนี้ โดยถือเป็นมิติใหม่ของการทำงานในการทำการทูตเชิงรุกในอนาคต และเชื่อว่าแม้การทำงานจะเจออุปสรรค แต่ถ้าเรามีทัศนคติที่ทำได้ (Can Do Attitud) เชื่อว่าศักยภาพไทยจะได้นำมาเผยแพร่ในเวทีโลกอย่างแน่นอน และการมารวมตัวในวันนี้ถือเป็นช่องทางพูดคุยอย่างเปิดเผย นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาล ประสงค์และอยากเห็นกระทรวงการต่างประเทศเป็น กระทรวงเกรด A ช่วยผลักดันและเอื้อให้การปฏิบัติหน้าที่ในเวทีโลกให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และอยากให้มีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำงานช่วยเสริมสร้างศักยภาพ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในการประชุมและรับฟังการนำเสนอ ในการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ ผู้ช่วยทูตฝ่ายพาณิชย์และฝ่ายส่งเสริมการลงทุนในช่วงเวลา 2 วันที่ผ่านมานี้ ทำให้มีความชัดเจนในนโยบายการทำงาน ทำงานร่วมมือกันในหลายภาคส่วน เพื่อนำศักยภาพของไทยไปสู่เวทีโลก จึงขอชื่นชมแนวทางการจัดประชุมร่วมกันของหน่วยงานที่ประกอบเป็นทีมไทยแลนด์ และขอฝากอนาคตของประเทศไทยไว้ในมือทุกคนด้วย
ขณะที่ นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทุกหน่วยเห็นความสำคัญของการที่กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ เป็นประตูหน้าต่างของประเทศไทย จะนำจุดแข็งและสิ่งดีๆของประเทศไทย ไปให้ชาวโลกได้รับทราบ และนำสิ่งที่ดีๆจากข้างนอกเข้ามาสู่ประเทศไทยด้วย นอกจากนี้ยังส่งเสริมการท่องเที่ยว เป็นเรื่องเร่งด่วน และจะผลักดันให้ เป็นรูปธรรมต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ เน้นย้ำการทูตที่จับต้องได้ กินได้ และให้ถามตัวเองอยู่เสมอว่า สิ่งที่ทำอยู่จะเป็นประโยชน์ใดบ้างต่อประชาชน จะช่วยสร้างรายได้ ให้ประชาชน
อย่างไร นางกาญจนา กล่าาวว่าสำหรับกำหนดการการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุสใหญ่ 19-24 พ.ย.นี้ ในช่วงบ่ายวันนี้คณะทูต จะไปทำกิจกรรมจิตอาสาที่โรงเรียนจิตรลดา พรุ่งนี้จะมีการผิดการประชุม โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จากนั้นจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในเวลา 11:00 น. ก่อนที่ในช่วงบ่ายทางคณะทูต กงสุลใหญ่และผู้บริหารกระทรวงการต่างประเทศจะเดินทางไปเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นครั้งแรก หลังจากที่ห่างหายไปนาน ถึง 7 ปี ในช่วงสถานการณ์โควิด.สำนักข่าวไทย