ทำเนียบรัฐบาล 16 พ.ย.-“อนุทิน” ยัน 3 สถาบันหลักเป็นพันธกิจสำคัญของภูมิใจไทยที่ต้องดูแล พร้อมหนุนนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต ถ้าไม่ผิดกม. ไม่ขัดแย้งรธน. ชี้การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน ต้องช่วยเหลือ สนับสนุนกัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรุ่งนี้จะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะมีเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับความรุนแรง ความแตกแยก และทำอย่างไรจะปลูกฝังให้คนไทยเกิดความภาคภูมิใจในประเทศของเรา เกิดความรักชาติ รักพวกพ้องให้เกิดความสามัคคีให้ได้มากที่สุด
“เรื่องนี้ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก ๆ ผมจะไปฟังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการสรุป พร้อมกับเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและรัฐมนตรีแรงงาน ร่วมด้วย เนื่องจากงานเกี่ยวโยงกันหมด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนการทำงานช่วง 2 เดือน ทำอะไรมา ชี้แจงได้ก็ชี้แจง หากอยู่ระหว่างการปฏิบัติจะได้ทำความเข้าใจกับเพื่อร่วมงานและทีมงาน ทั้งข้าราชการฝ่ายประจำฝ่ายการเมืองให้ร่วมมือกันเกิดผลสำเร็จสูงสุดให้ได้
เมื่อถามว่า นโยบายเทิดทูนสถาบันฯ จะเป็นเป้าหมายหลักใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นภารกิจหลัก เรื่องพวกนี้ไม่ต้องมอบหมาย เมื่อเข้ามา เรื่องของ 3 สถาบันหลักของชาติและประชาชนถือเป็นเรื่องพันธกิจ ส่วนจะเลื่อนให้เป็นบรรทัดฐานให้พรรคอื่นทำตามด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละพรรคจะดำเนินการ
นายอนุทิน กล่าวถึงนโยบายดิจิทัล วอลเล็ต หากไม่สามารถไปต่อได้ น่าจะเป็นผลดีต่อพรรคร่วมรัฐบาล โดย นาย อนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้ยิน ยังเห็นความพยายามในการผลักดันให้นโยบายเกิดขึ้น ส่วนที่ไม่สามารถไปต่อได้ มีอยู่อย่างเดียว คือ ผิดกฎหมาย ผิดระเบียบ และขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญเท่านั้น คนที่เป็นเจ้าของนโยบายต้องทำให้ได้ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะดูในข้อกฎหมายเป็นสำคัญ เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกัน หากทุกอย่างมีความถูกต้อง ความชอบธรรม ไม่ผิดหลักเกณฑ์ใดๆ เราต้องสนับสนุนนโยบายซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้นนโยบายก็จะไม่ออกสักอย่าง
ส่วนประเด็นที่นักวิชาการดักคอว่านโยบายไม่ผ่าน นายรัฐมนตรีต้องแสดงความรับผิดชอบ นายอนุทิน กล่าวว่า มันยังไม่ถึงจุดนั้น และทุกอย่างมีกลไกและขั้นตอนของมันอยู่แล้ว และนายกรัฐมนตรีก็ทำงานอย่างเต็มที่
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทย พยายามผลักดันนโยบายของพรรคออกมาหลายอย่าง ทางพรรคภูมิใจไทยเร่งผลักดันนโยบายอะไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกเรื่อง เราไม่แข่งกัน เพราะอยู่ในรัฐบาลเดียวกัน จะแข่งกันไปทำไม เพราะนโยบายของรัฐบาล หลังจากที่นายกรัฐมนตรีแถลงไปแล้ว เป็นนโยบายที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง หากตราบใดที่คิดว่านโยบายเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่ง และหากเป็นอีกพรรคหนึ่งไม่สนับสนุนกัน เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองก็พัง
“เห็นแล้วว่าในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีพรรคที่พังไป เพราะเกิดการขัดแข้งขัดขากัน ซึ่งไม่มีประโยชน์ สิ่งที่สำคัญคือ ประชาชนได้อะไรจากการไม่สนับสนุน ไม่ร่วมงานซึ่งกันและกัน ฉะนั้นต้องทำงานร่วมกัน ส่วนจะชอบหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่ง ส่วนอะไรที่อยู่ในนโยบายรัฐบาล ถือว่ามีความรับผิดชอบร่วมกัน มั่นใจว่าในส่วนที่เป็นนโยบายพรรค ถ้าเสนองบประมาณ ครม.จะผ่านราบรื่น แต่ถ้าไม่ผ่านต้องมีคำอธิบายที่ดีมาก ๆ อาทิ ผิดกฎหมาย ทำไม่ได้ หรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นต้น” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว.-สำนักข่าวไทย
