ก้าวไกล ยันมีเป้าหมายทำ รธน.ใหม่สำเร็จ

พรรคก้าวไกล 14 พ.ย.- “ก้าวไกล” ยันมีเป้าหมายทำ รธน.ใหม่สำเร็จ เสนอ 3 ประเด็น ทำประชามติ 3 ครั้ง ถามยกร่างใหม่ทั้งฉบับโดย ส.ส.ร. หรือไม่ พร้อมเสนอแก้เกณฑ์เสียงโหวตประชามติ


คณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 ที่มีนายนิกร จำนง เป็นประธาน นำคณะเข้าพบพรรคก้าวไกล โดยมีนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ให้การต้อนรับ

นายชัยธวัช กล่าวว่า การแลกเปลี่ยนความเห็นเป็นไปได้ด้วยดี เข้าใจเจตนาและเนื้อหาซึ่งกันและกัน ซึ่งข้อเสนอของพรรคก้าวไกลในวันนี้คงจะมีประโยชน์พอสมควรกับการทำงานของอนุกรรมการและกรรมการชุดใหญ่ โดยพรรคก้าวไกล มีข้อเสนอใน 3 ประเด็น คือ ควรทำประชามติ 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งหลัง เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยครั้งแรกเห็นว่า ควรจะทำประชามติก่อนที่สภาฯ จะมีกระบวนการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลว่า เพื่อทำให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความชอบธรรมทางประชาธิปไตยและทางการเมือง เพื่อแก้ปัญหาการตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในอดีต ที่หากแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับควรจะต้องถามประชาชนหรือไม่ และการทำประชามติตั้งแต่แรกจะเป็นกลไกสำคัญที่จะสามารถหาข้อยุติในความเห็นที่แตกต่างกันได้ในกระบวนการประชาธิปไตยตั้งแต่ต้น และจะทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญมีความราบรื่นและประสบความสำเร็จ 


นายชัยธวัช กล่าวว่า พรรคเห็นควรทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งเมื่อมีความกังวลและมีความเห็นที่ยังแตกต่างกัน ทั้งจากฝั่งรัฐบาล สว. ประชาชน และหลายฝ่ายในบางประเด็นที่สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความคิดเห็นว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะจัดทำจะแก้ไขหมวด 1 หมวด 2 หรือไม่ หรือควรจะล็อกไว้ไม่ให้มีการแก้ไข รวมถึง ส.ส.ร. ควรมาจากการเลือกตั้งโดยตรงทั้งหมดหรือไม่ ยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน ดังนั้น การที่จะทำให้กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญครั้งใหม่กลายเป็นวิธีสำคัญที่ทำให้เราหาฉันทามติใหม่ให้กับสังคมไทยได้ คลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองในรอบเกือบ 20 ปีได้ ก็ควรจะออกแบบคำถาม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น โดยที่ไม่ทำให้มีใครคนใดคนหนึ่งรู้สึกว่าตัวเองถูกกีดกันออกจากกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตั้งแต่ต้น และสามารถทำให้เกิดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เกิดการยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ในที่สุด แม้แต่ละฝ่ายไม่สามารถที่จะผลักดันเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ตามต้องการทั้งหมด

“พรรคก้าวไกลจึงเสนอว่า ควรจะออกแบบคำถามในการจัดทำประชามติครั้งแรก โดยมีคำถามหลักหนึ่งคำถามว่า เห็นชอบหรือไม่ว่าควรจะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. และมีคำถามพ่วง 2 คำถาม เห็นด้วยหรือไม่ที่จะไม่ให้แก้ไขหมวด 1 หมวด 2 โดยคงไว้เหมือนเดิม และเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้ ส.ส.ร. มาจากการเลือกตั้งโดยตรงทั้งหมด ซึ่งคำถามเหล่านี้จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญบรรลุผล” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า ข้อเสนออีกประเด็น คือ เรื่องพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เมื่อบางฝ่ายยังกังวลเรื่องการใช้สิทธิ 2 ครั้ง อาจจะเป็นอุปสรรค จึงเห็นว่าควรจะมีการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ประชามติ อย่างเร่งด่วน เพื่อยกเลิกเงื่อนไขเหล่านี้ โดยคณะกรรมการชุดใหญ่ของรัฐบาลน่าจะหาข้อยุติในประเด็นนี้ให้ได้ก่อน ซึ่งหากได้ข้อยุติร่วมกัน ไม่ว่าฝ่ายค้านหรือรัฐบาล สามารถร่วมมือกันแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ได้ทันทีที่สภาฯ เปิดสมัยประชุม ทั้งนี้ ยืนยันว่า ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลวางอยู่บนเป้าหมายที่จะทำให้การจัดทำรัฐธรรมนูญประสบความสำเร็จและทำได้จริง


ด้านนายนิกร กล่าวว่า การพูดคุยมีความร่วมมือกันเป็นอย่างดี และมีความเห็นตรงกันที่จะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่ง 3 ข้อที่มีการเสนอมานั้น ในข้อแรกสอดคล้องกับคณะกรรมการที่เห็นว่า จะต้องทำประชามติตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากจะยกร่างใหม่ทั้งฉบับ แต่ข้อเสนอในเรื่องคำถามการทำประชามติ หากถามประชาชนควรจะต้องกระชับ เข้าใจง่าย และรัฐบาลได้มีคำแถลงต่อรัฐสภาและมีมติของ ครม.ว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่มีการแก้ไขหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ ซึ่งประเด็นนี้จะต้องนำกลับไปพูดคุยกัน ส่วนเรื่องที่มาของ ส.ส.ร. ที่คณะอนุกรรมการสรุปคือมาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่ที่พรรคก้าวไกลเสนอว่ามาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งหมด ซึ่งต้องไปคุยกันในรายละเอียด เพราะอนุกรรมการมองว่า ควรจะมีนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญเข้าไปร่วมใน ส.ส.ร. โดยคณะกรรมการชุดใหญ่จะเป็นผู้ตัดสิน

ส่วนประเด็นที่เห็นตรงกัน แต่มีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อยเรื่อง พ.ร.บ.ประชามติ ที่ระบุว่า การออกเสียงประชามติต้องให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งต้องมี 26 ล้านเสียง จากผู้มีสิทธิ 52 ล้านคน และต้องมีเสียงที่เห็นด้วยเกินกึ่งหนึ่ง ตรงนี้เป็นประเด็นที่มองว่าจะต้องแก้ไข ซึ่งต้องคุยในรายละเอียด หากทำได้ จะได้กฎหมายดีๆ 2 ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญ และกฎหมายประชามติ ซึ่งก็จะไปคุยและกลับไปเสนอกับทางรัฐบาล ทั้งนี้ ทางฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่า จะทำให้ได้จริง ซึ่งถ้าเป้าหมายตรงกันเช่นนี้ ก็เชื่อว่าน่าจะประสบความสำเร็จ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผนังโรงงานถล่มทับรถยนต์เสียหาย 7 คัน-เจ็บเล็กน้อย 1 คน

ชลบุรี 16 พ.ค. – ผนังอาคารโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถล่มทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้างเสียหายรวม 7 คัน และพนักงานบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ผนังอาคารพังถล่มที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยส่วนที่พังเป็นฝาผนังที่ต่อเติมยื่นออกมาของอาคารชั้น 2 ถล่มลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้าง เสียหายรวม 7 คัน เบื้องต้นมีพนักงานบริษัทเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน บริษัทนำส่งโรงพยาบาล สอบถามพนักงานบริษัทเล่าว่า ได้ยินเสียงตึ้มเลยพากันวิ่งออกมา ตอนแรกนึกว่าเสียงฟ้า โดยตรงนั้นเป็นอาคารฝ่ายบุคคล จะไม่มีคนไปนอน ด้านผู้กำกับการ สภ.พานทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย วิศวกรบริษัทเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และบริษัททำประกันภัยไว้ คงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งต้องประเมินความเสียหายทั้งอาคารและรถยนต์ที่เสียหาย เพื่อชดใช้ตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]