แจ้งทรัพย์สินรอบใหม่ ไม่มีหุ้นไอทีวี-ที่ดินปราณบุรี

สำนักงาน ป.ป.ช. 3 พ.ย.-ป.ป.ช.เปิดทรัพย์สิน “พิธา” ลดลงเหลือ 65.5 ล้าน ได้ที่ดินใหม่ 2 แปลง 11.7ล้าน ไม่มีหุ้นไอทีวี-หนี้ค้ำประกัน-ที่ดินปราณบุรี ด้าน “ชัยธวัช” หัวหน้าก้าวไกลคนใหม่ 14.7 ล้าน


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินหนี้สินผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกรณีเข้ารับตำแหน่งสส.โดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตหัวหน้าพรรค  แจ้งสถานะโสด มีทรัพย์สินรวม 65 ,530,955 บาท และมีหนี้สินรวม 463,263 บาท ทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินสด 180,000 บาทเงินฝาก 2,789,741 บาท เงินลงทุนในกองทุนเปิดและตราสารต่าง ๆ 1,337,777 บาท เงินให้กู้ยืมแก่นายภาษิณ ลิ้มเจริญรัตน์ น้องชาย 15 ล้านบาท ที่ดิน 2 แปลง 11,776,000 บาท ที่อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 22 ตารางวา มูลค่า 7,376,000 บาทได้มาเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 และที่อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 1 ไร่มูลค่า 4.4 ล้านบาทได้มาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย 66

โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 15 ล้านบาท เป็นห้องชุดในเขตคลองตันเหนือกรุงเทพฯ ยานพาหนะ 2,140,000 บาทสิทธิและสัมปทาน 3,650, 446 บาททรัพย์สินอื่น 12,036, 990 บาท เป็นโทรศัพท์ 3 เครื่องเสื้อ 28 ตัวสูตร 16 ตัวเนคไท 76 เส้นรองเท้า 21 คู่อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า 28 ชิ้นชุดเฟอร์นิเจอร์ 1 ชุดนาฬิกา 10 เรือน พระครื่อง 8 องค์ แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 1,362,720 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 2,580,973 บาท


เมื่อวันที่ 5 ก.ค 66 นายพิธาได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง สส.เมื่อ 20 มี.ค.66 ว่ามีทรัพย์สินรวม 85,023,720 บาท มีหนี้สิน 20,740,176 บาท เมื่อเทียบกับการแจ้งบัญชีทรัพย์สินในการรับตำแหน่ง สส.ครั้งนี้ เท่ากับนายพิธามีทรัพย์สินลดลง19,492,765 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่าทรัพย์สินที่มีการแจ้งครั้งนี้ ในรายการเงินลงทุน ไม่มีการแจ้งการถือหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น มูลค่า 44,100บาท และในรายการที่ดินก็ไม่ปรากฏที่ดินต.วังพงก์อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่า 18 ล้านบาท รวมถึงไม่ปรากฎหนี้ค้ำประกันธนาคารยูโอบี จำกัด มูลค่า 19, 932,762 บาท แต่มีการซื้อที่ดินเพิ่ม 2 แปลงในจ.ปทุมธานี และเชียงใหม่

ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล คนใหม่ และ น.ส.งามเพ็ญ ไชยบุรินทร์ คู่สมรส แจ้งมีทรัพย์สินรวม 14,727,352 บาท มีหนี้สินรวม 730,235 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายชัยธวัช 6,014,799 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 352,742 บาทที่ดิน 1,125,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.75 ล้านบาท ยานพาหนะ 1,078,000 บาทสิทธิและสัมปทาน 89,531 บาททรัพย์สินอื่น 1,319,525 บาท   มีหนี้สิน  รวม 711,930 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี 363,183 บาท และเงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น 348,747 บาท และแจ้งมีรายได้ต่อปีจากเงินเดือนประมาณ 1,362,720 บาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 790,651 บาทเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 300,000 บาทค่าผ่อนรถ 248,808 บาทเบี้ยประกันชีวิต 61,843 บาทเงินบริจาค 180,000 บาท

ส่วน น.ส.งามเพ็ญ ประกอบอาชีพอิสระ มีทรัพย์สินรวม 8,640,956 บาทแบ่งเป็นเงินสด 5 แสนบาทเงินฝาก 570,941 บาท เงินลงทุน 112,570 บาท  ที่ดิน1แปลงใน อ.หางดง จ.เชียงใหม่1,125,000 บาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.75 ล้านบาทสิทธิและสัมปทาน 8,795 บาททรัพย์สินอื่น 4,573,650 บาท มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 18,304 บาท แจ้งมีรายได้ต่อปีจากค่าจ้าง 600,000 บาท มีค่าใช้จ่ายต่อปี 607,529 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 240,000 บาทเบี้ยประกันชีวิต 31,529 บาทค่าเช่าคอนโด 330,000 บาท


สำหรับบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีทรัพย์สินรวม 71,596 บาทเป็นเงินฝาก 640 บาท สิทธิและสัมปทาน 54,455 บาททรัพย์สินอื่น 16,500 บาท มีค่าใช้จ่ายต่อปี 243,570 บาทโดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 120,000 บาทเบี้ยประกันชีวิต 23, 570 บาท ค่าเล่าเรียน 100,000 บาท ทั้งนี้ ทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจ อาทิ  ทองคำแท่ง 75 บาทมูลค่า 2,388,750 บาท ทองรูปพรรณมูลค่า 1,500,000 9,990 บาท, ทองคำแท่ง 300 กรัม 6 มูลค่า 660,000 บาท นาฬิกาข้อมือ 6 เรือน 230,000 บาท กระเป๋าและแว่นตา 316,700 บาท คอมพิวเตอร์แท็บเล็ตและโทรศัพท์มือถือ 176,000 บาท เฟอร์นิเจอร์ไม้สักเก่า 300,000 บาท พระเครื่อง เหรียญ วัตถุมงคล ไม่ทราบมูลค่า เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]