รร.ดิ แอทธินีฯ 25 ต.ค.-นายกฯ เล็งให้ “ธ.ก.ส.-ออมสิน“ ปล่อยกู้ให้แรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล ในอัตราดอกเบี้ยต่ำระยะยาว หวังจูงใจให้กลับประเทศ ก่อนสถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม บอกจะรีบหาข้อสรุปโดยเร็ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเรียก 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เข้าหารือ ว่า เบื้องต้นการหารือยังไม่ได้ข้อสรุป เพียงแต่ต้องการพูดเพื่อให้แรงงานที่ยังอยู่ที่อิสราเอลได้คิด เพราะจากการประเมินสถานการณ์ทั่วไปยังเลวร้ายอยู่ และการปฏิบัติการภาคพื้นดินก็เกิดขึ้นได้เร็วๆ นี้ ขณะที่นายจ้างก็ใช้กุศโลบายเพิ่มเงิน และจะจ่ายเงินค่าแรงในวันที่ 10 พ.ย. ตอนนี้ยังรอคำตอบจากเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยว่าจะทำอย่างไรในเรื่องนี้
นายกรัฐมนตรี บอกด้วยว่า เมื่อได้มีการพูดคุยก็ตระหนักดีว่า แรงงานที่ไปทำงานบางคนกู้หนี้ยืมสิน เพื่อจ่ายค่านายหน้า ประมาณ 100,000-150,000 บาท หากกลับมาแล้วไม่ได้เงินจะเป็นปัญหา ซึ่งนายกฤษฎา เสนอว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) จะให้เงินกู้ยืมได้ 150,000 บาท เพื่อไปใช้ให้กับบริษัทนายหน้า หรือคนที่แรงงานติดหนี้อยู่ โดยเป็นการให้เงินกู้แบบผ่อนระยะยาว 10 ปี ดอกเบี้ย 0.1% หากเป็นระยะเวลา 20 ปี หารออกมาแล้วตกเดือนละ 600 กว่าบาท
“จริงๆ เรื่องนี้ผมยังไม่อยากพูด เพราะต้องไปศึกษาเรื่องดอกเบี้ย ระยะเวลา เช่น หากเป็นระยะเวลา 30 ปี จำนวนเงินก็จะยิ่งต่ำลงไป นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง แต่ก็ยังมีคำถามอีกว่า หากเขาไม่ได้ไปทำงานด้านการเกษตร จะทำอย่างไร ธ.ก.ส.จะปล่อยกู้ได้หรือไม่ เพราะไม่เข้าข่าย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง จึงเสนอว่าจะให้ธนาคารออมสินช่วยดูแล ซึ่งเราพยายามทำงานกันมาโดยตลอด ถ้ายังไม่มีคำตอบที่ 100% ตนยังไม่อยากพูด แต่ก็เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ หากแรงงานที่อิสราเอลฟังอยู่ ขอให้สบายใจว่าเราจะไม่ทอดทิ้งท่าน และอยากให้ญาติพี่น้องช่วยพูดว่าให้กลับมาเถอะ เพราะสถานการณ์จะเลวร้ายลงไปอีก อันนี้เป็นนโยบายคร่าวๆ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอีก ตอนนี้ทีมงานพยายามหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย