รัฐสภา 19 ต.ค.- “เบญจา” ฝากถึงเพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” ควรใช้มาตรฐานตรวจสอบทุกพรรค คาดผลสอบ สส.คุกคามทางเพศคืบหน้า 80-90%
นางสาวเบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะทำงานพิเศษ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี สส.และสมาชิกพรรคถูกกล่าวหาว่าคุกคามทางเพศ ว่า ตอนนี้เรื่องของการสอบพฤติกรรมต่างๆ อยู่ในชั้นกระบวนการของคณะกรรมการวินัย ในส่วนของตนทำหน้าที่เป็นประธานคณะทำงานที่ถูกตั้งขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อป้องปรามและแก้ไขปัญหาทางเพศ ไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคตหรือเกิดขึ้นน้อยที่สุด และสร้างความตระหนักรู้ให้กับพรรคก้าวไกล เพื่อยกระดับพรรคการเมืองต่างๆ และมาตรฐานการเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น
“ในส่วนของกรณีคุกคามทางเพศ เป็นหน้าที่ของกรรมการวินัย ตนคิดว่าอย่างที่กรรมการวินัยได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าเรื่องนี้อยู่ในชั้นกรรมการ น่าจะแล้วเสร็จได้ภายในเดือน ต.ค. นี้ โดยประเมินว่า ขณะนี้ น่าจะตรวจสอบไปได้ 80-90% แล้วเหลือเพียงแต่ผู้ร้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าส่วนนั้นจะเป็นเรื่องการอนุญาตที่จะให้ข้อมูลหรือไม่ รวมถึงความพึงพอใจที่ผู้ร้องสะดวกใจในการมาให้ข้อมูล”นางสาวเบญจา กล่าว
นางสาวเบญจา กล่าวว่า เรื่องนี้พอเป็นพรรคก้าวไกล จะถูกคาดหวังจากสังคมแน่นอน เพราะพรรคก้าวไกลยกระดับเรื่องจริยธรรมทางการเมืองและเรื่องเพศ อยู่ในข้อบังคับของพรรคการเมืองด้วย ดังนั้น เราคิดว่าเราอาจถูกคาดหวังจากสังคม แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกัน ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องในทุกๆพื้นที่ ทุกพรรคการเมือง หรือในสังคมไทยยังมีเรื่องแบบนี้อยู่
“แน่นอนพอเป็นพรรคก้าวไกลถูกยกระดับขึ้นมา ต้องถูกคาดหวัง แต่เราจะไม่กลบฝังลงไป จะพยายามเปิดเผยเรื่องนี้ อย่างที่ได้เห็นชัดเจนไป แล้วว่าคุณพริษฐ์ วัชรสินธุ์ ที่เป็นโฆษกพรรคได้ออกมาให้ข้อมูลและสื่อสารผ่านสื่อมวลชน มีการแถลงข่าวไปแล้ว ว่าเราก็ต้องยืนยันว่าเราไม่ได้มีเจตนาปกปิดข้อมูล เราพอที่จะเปิดเผยขั้นตอนการดำเนินการ แต่ต้องเข้าใจด้วยว่ากระบวนการต่างๆ ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนต่อผู้เสียหาย” นางสาวเบญจา กล่าว
เมื่อถามว่าจะคัดกรองอย่างไร นางสาวเบญจา กล่าวว่า เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามีทุกพรรคการเมือง ในสังคมไทยก็มีเรื่องนี้ พอเป็นพรรคก้าวไกลก็ถูกคาดหวัง เราก็เห็นความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก การตั้งคณะทำงานที่เป็นคณะทำงานชุดพิเศษขึ้นมา เพื่อยุติและแก้ไขปัญหาเรื่องความรุนแรงทางเพศ การคุกคาม และการล่วงละเมิดทางเพศ จึงเป็นเรื่องของการที่เราต้องทำงานเชิงรุกด้วย จะต้องมีการอบรมหรือทำไกด์บุ๊ค เพื่อสื่อสารกับสังคมกับสมาชิก รวมถึงเครือข่ายและผู้แทนราษฎรของพรรคก้าวไกล และองคาพยพทั้งหมดว่าสิ่งไหนทำได้สิ่งไหนทำไม่ได้
“บางเรื่องสังคมไทยถูกกดทับเรื่องนี้มานาน และไม่เข้าใจจริงๆ ว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นอ่อนไหวต่อผู้เสียหาย ก็กระทำไปโดยที่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น เรื่องนี้เกิดขึ้นเยอะมาก การที่จะทำให้เรายกระดับเรื่องนี้ไปได้พร้อมกันและป้องปรามไปในตัว เราต้องยกระดับความเข้าใจและทำให้ทุกคนตระหนักรู้ร่วมกันให้ได้ทางสังคม” นางสาวเบญจา กล่าว
นางสาวเบญจา ย้ำว่า คณะทำงานชุดนี้ก็จะทำอย่างดีที่สุด เพื่อยุติปัญหาเรื่องนี้ในอนาคต ส่วนบทลงโทษนั้น ยืนยันว่ามีข้อกำหนดเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ว่าจะมีลงโทษทางวินัยต่อผู้กระทำผิดอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ต้องไปว่ากันตามสัดส่วนของการกระทำความผิดด้วย
ส่วนที่เพจ “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” จับตาอยู่ มีความจำเป็นต้องติดต่อไปสอบถามข้อเท็จจริงหรือไม่ นางสาวเบญจา กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าเพจดังกล่าวจับผิดเกาะติดพรรคการเมืองพรรคเดียวหรือไม่ หากให้สื่อสารกับเพจ ก็คงอยากสื่อสารว่าถ้าเราอยากยกระดับสังคมนี้ไปด้วยกัน อยากยกระดับมาตรฐานเรื่องการยุติความรุนแรงทางเพศไปด้วยกัน เราต้องทำแบบนี้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสังคม ไม่ใช่แค่ตรวจสอบพรรคก้าวไกลอย่างเดียว แต่เราต้องตรวจสอบพรรคการเมืองอื่นด้วย และผู้คนอื่นด้วย ซึ่งหมายรวมไปถึงอาชญากรในสังคมไทย ต้องทำให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
“ดิฉันคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะใช้มาตรฐานเดียวกัน ในการติดตามเรื่องนี้เช่นกัน ก็คือติดตามให้ได้เหมือนที่ติดตามพรรคก้าวไกล จะเป็นประโยชน์มากๆ ในการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะดิฉันเข้าใจว่าพรรคก้าวไกลมีสมาชิกเยอะมาก เกือบ 80,000 คน แล้วเราก็คิดว่าการควบคุมเรื่องนี้ก็อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่เราพยายามอย่างเต็มที่และสุดความสามารถในการคัดกรองคน แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าบางทีเราไม่สามารถคัดกรองพฤติการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้วได้ เพราะเวลาสมัครสมาชิกเราไม่ได้เข้าไปดูถึงพฤติการณ์ต่างๆ ด้วย” นางสาวเบญจา กล่าว
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นการล่าแม่มดหรือไม่ นางสาวเบญจา ระบุว่า ก็มีความเป็นไปได้ เพราะมีการติดตามตรวจสอบแค่พรรคก้าวไกลพรรคเดียว ตนคาดหวังว่าอยากให้ทำการเรื่องนี้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันของสังคม จะได้ไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการล่าแม่มดแค่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือกลุ่มคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น และตนคิดว่าถ้าเราสามารถทำเรื่องนี้ได้ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งสังคม จะสามารถทำให้สังคมนี้ตื่นรู้และตระหนักกับเรื่องนี้เพิ่มมากขึ้นได้เท่าเทียมกันด้วย ไม่ใช่เป็นแค่การเข้าไปล่าแม่มดพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย