พิษณุโลก 14 ต.ค.-“เศรษฐา” นายกฯ ลงพื้นที่บางระกำ เห็นใจชาวบ้านน้ำท่วมซ้ำซาก พร้อมขอโทษ “อนุทิน” รมว.มหาดไทย ที่ไม่ได้เชิญร่วมดูน้ำท่วมพิษณุโลก เหตุนึกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ดูน้ำท่วมจังหวัดพิษณุโลกแล้วไม่ได้เชิญนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปด้วย แต่นายอนุทิน ได้เดินทางตามไปทีหลัง ว่าต้องขอโทษนายอนุทิน ด้วย นึกว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและไม่อยากรบกวนช่วงวันเสาร์ แต่มาเจอปัญหาเรื่องของน้ำประปาที่เป็นท่อระบบเก่าผ่านมา 87 ปี จึงโทรศัพท์ไปปรึกษาซึ่งรองนายกฯ บอกว่าเดี๋ยวจะเดินทางมาเองดีกว่า ซึ่งตนกับนายอนุทิน ก็จะช่วยกันคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไป ซึ่งน้ำประปาในการอุปโภคบริโภค ของ จ.พิษณุโลกเป็นเรื่องใหญ่ แต่ไปถึงประชาชนแค่ 52% ก็น่าเห็นใจ จะไปดูเรื่องการบริหารจัดการน้ำตรงนี้ให้ดี
ส่วนพื้นที่บางระกำ เรื่องคลองส่งน้ำก็ยังไม่ดีพอ พื้นที่นี้ยังมีปัญหา ถึงฤดูฝนน้ำก็ท่วม ฤดูร้อนก็แล้ง หน้าที่เราต้องทำให้ไม่ท่วมไม่แล้ง ซึ่งตนได้มีการสอบถามกรมวิชาการเกษตร เรื่องการให้องค์ความรู้กับเกษตรกร เกี่ยวกับเรื่องความเป็นกรดเป็นด่างปุ๋ยในดินมีมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่จะช่วยเหลือเกษตรกรถ้ามีผลิตภัณฑ์ทางด้านการเกษตรที่มากขึ้นและค่าใช้จ่ายที่น้อยลง
เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่อย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็เห็นใจ เพราะบางพื้นที่ท่วมแล้วท่วมอีก แล้งแล้วแล้งอีก ต้องมีการแก้ไขอย่างบูรณาการ เราก็เพิ่งเข้ามาบริหารจัดการได้เพียงเดือนเดียวก็ต้องทำงานต่อไป
เมื่อถามว่า การมาลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมในครั้งนี้มั่นใจหรือไม่ว่าพื้นที่ภาคกลางจะไม่มีน้ำท่วมยาว นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่มั่นใจเพราะเพิ่งเข้ามาได้เดือนเดียว และเห็นถึงปัญหาว่าสะสมมานาน แต่ก็จะช่วยบรรเทาพื้นที่ที่มีการท่วม ทั้งนี้ต้องคิดระยะกลาง ระยะยาว ว่าปีหน้าจะทำอย่างไร อีกสามปีจะทำอย่างไร ก็คงต้องมีโครงการออกมาอีกพอสมควร
เมื่อถามถึงธนาคารน้ำใต้ดินที่จะป้องกันน้ำแล้ง ที่จะทำได้ภายใน 3 เดือนเป็นอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า ทฤษฎีน้ำใต้ดินเป็นทฤษฎีที่หลายภาคส่วนเห็นด้วย แต่ก็ต้องถามพื้นที่ว่าต้องการธนาคารน้ำใต้ดินเห็นด้วย โดยจะมีการนำร่องที่จังหวัดชัยนาทจะมีการทำธนาคารน้ำใต้ดินทั้งจังหวัด แล้วก็จะดูว่าจะสามารถช่วย ไม่ท่วม ไม่แล้ว ได้จริงหรือเปล่า ทั้งนี้หากจังหวัดและเขตหนึ่งเห็นด้วยก็พร้อมที่จะไปทำได้
เมื่อถามว่า จะมีโอกาสระบบบูรณาการน้ำสำเร็จในวาระรัฐบาล 4 ปีหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็อยากเห็นเพราะระยะเวลา 4 ปี ก็เป็นระยะเวลาที่ยาวพอสมควร บางโครงการก็บอกว่าจะทำในปี 67 ถ้าหลายเรื่องเริ่มต้นได้เร็ว ผ่านงบประมาณแล้วก็อยากให้เร่งทำเพราะเวลาคนเดือดร้อนก็คือเดือดร้อน.-สำนักข่าวไทย