นายกฯ เผยย้ายคนไทยออกจาก Red Zone ในฉนวนกาซาแล้ว

ทำเนียบรัฐบาล 13 ต.ค. – นายก​รัฐมนตรี​ หารือเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย เผย​ย้ายคนไทยออกจาก Red Zone ในฉนวนกาซาแล้ว ขอญาติสบายใจ ขณะที่รัฐบาลพร้อมดูแลค่าใช้จ่ายกรณีเดินทางกลับเองด้วย ยืนยันอิสราเอลพร้อมอำนวยความสะดวกเปิดน่านฟ้า เตรียมขนคนงานพักรอซาอุฯ​-​อียิปต์-​ยูเออี


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังหารือกับนางสาวออร์นา ซากิฟ (H.E.Ms. Orna Sagiv) เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่าได้อัปเดตสถานการณ์และขอร้องอิสราเอลให้พยายามทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ เพื่อให้คนไทยในอิสราเอลเดินทางกลับออกมาถึงประเทศไทยโดยปลอดภัย ซึ่งจากการพูดคุยกับเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ก็มีความสบายใจในระดับหนึ่งว่า ไม่ต้องกังวล ขณะนี้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะให้เครื่องบินลงไปรับคนไทยกลับมา เพราะขณะนี้สามารถขนย้ายคนในพื้นที่อันตราย 0-4 กิโลเมตร หรือ Red Zone ในฉนวนกาซา 99% โดยเป็นคนไทยและชาวต่างชาติอพยพออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว ขอให้ญาติสบายใจได้ ตอนนี้กำลังพยายามดูในพื้นที่ 4-9 กิโลเมตร ว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้เกิดความปลอดภัย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยที่แสดงความจำนงจะเดินทางกลับจำนวนมากเกือบ 6,000 คน แต่จะขนย้ายคนไทยเดินทางออกมาจากอิสราเอลได้วันละประมาณ 200 คน ซึ่งทางเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ยืนยันว่า มีเครื่องบินบินไปถึงเท่าไหร่ก็พร้อมที่จะให้เดินทางออกไปทันที แต่จุดใหญ่คือ เรื่องของเครื่องบินที่จะต้องไปรับ ซึ่งคณะทำงานจะมีการประชุมหารือกับทางสายการบินพาณิชย์ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดูแผนงานทั้งหมดที่จะนำคนไทยกลับมาโดยเร็ว และทางเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ก็ให้ความมั่นใจว่า ทางรัฐบาลอิสราเอลให้ความสำคัญสูงสุดในการลำเลียงคนออกจากจุดต่างๆ มาถึงจุดที่ปลอดภัย และพร้อมที่จะส่งกลับได้


อย่างไรก็ตาม ในการใช้เครื่องบินเพื่ออพยพคนไทยจะต้องขอบินผ่านน่านฟ้าในทุกครั้ง ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศได้พยายามเจรจา และหวังว่านานาชาติจะช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งความสำคัญสูงสุด คือ คนไทยต้องออกมาให้ได้เร็วที่สุด ด้านเอกสารเป็นเรื่องรอง สำหรับความคืบหน้าของประเทศที่ 3 กระทรวงการต่างประเทศกำลังประชุมและเจรจา ซึ่งอาจจะเป็นอียิปต์ ยูเออี และซาอุดีอาระเบีย ยืนยันพยายามอย่างดีที่สุด

ขณะเดียวกัน ในระหว่างนี้หลายคนอาจจะประสบปัญหากระทบกระเทือนทางด้านจิตใจ เอกอัครราชทูตไทยฯ ก็ให้ความมั่นใจว่า รัฐบาลอิสราเอลให้ความสำคัญ โดยมีเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยปลอบโยน ให้การดูแลอย่างดีเท่าที่สามารถทำได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ได้ฝากเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ดูแลกรณีที่มีคลิปออกมาว่า แรงงานไทยถูกบังคับให้ทำงาน ซึ่งเอกอัครราชทูตฯ ก็รับทราบอยู่แล้วและพยายามที่จะหาความจริงให้ได้ และเห็นด้วยกับตน 100% ว่าจะบังคับให้แรงงานทำงานในภาวะสงครามเช่นนี้ไม่ได้ ไม่ควรต้องทำเช่นนี้ ขอให้ลืมเรื่องผลประโยชน์ไปก่อน และขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งทางทูตอิสราเอลก็ยืนยันว่า ขณะนี้ภาวะสงครามไม่ได้ลดความรุนแรงลง มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น จึงต้องขอร้องและวิงวอน และความจริงแล้วคือกดดันว่าคนของไทยไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อพิพาทของใครทั้งนั้น อีกทั้งไทยเป็นชาติที่สูญเสียมากเป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ถ้าไม่นับอิสราเอล ยังไม่แน่ใจว่าจำนวนคนเหล่านี้จะเป็นจำนวนที่จบหรือยัง พร้อมกันนี้ยังได้ขอร้องให้ทางอิสราเอลดูแลเรื่องของตัวประกัน โดยขอให้พยายามเจรจาให้ปล่อยตัวออกมาให้ได้ เพราะตัวประกันไม่ใช่มีเฉพาะคนไทย แต่มีหลายชาติ และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อพิพาทตรงนี้ เป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งดูตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ หรืออะไรก็ตาม คนเหล่านี้ต้องถูกปล่อยตัวออกมา


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ยังได้ขอร้องไปว่าขอให้มีขั้นตอนในการที่จะนำร่างกลับมาประเทศไทยให้เร็วที่สุด แต่ทางอิสราเอลก็ขอความเห็นใจ เพราะมีผู้เสียชีวิตเป็นพันศพ จะต้องมีการชันสูตรและพิสูจน์ทราบ แต่ยืนยันว่าจะให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ ซึ่งขั้นตอนพิสูจน์ทราบถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากผู้เสียชีวิตจะได้ค่าตอบแทนจากทางการอิสราเอล โดยเฉพาะภรรยาที่จะได้รับตลอดชีวิต รวมทั้งบุตรที่ดูแลจนอายุ 18 ปี ดังนั้นจึงต้องทำให้ถูกต้องก่อนที่จะนำศพกลับมา จึงขอร้องว่า ขอให้ใจเย็นกันนิดนึง เพราะเรื่องนี้รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างเต็มที่

พร้อมกันนี้ นายเศรษฐา​ ยืนยันว่า​ แรงงานไทยที่เดินทางกลับมาเองด้วยสายการบินพาณิชย์ รัฐบาลพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด​ ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่ง​ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบ​ ส่วนปัญหาคู่สายไม่เพียงพอ​ อาจเกิดจากการใช้งานพร้อมกันจำนวนมาก ก็ขอให้รอ​

ส่วนจะเดินทางไปรับคนไทยด้วยตัวเองหรือไม่ ขอดูก่อน เนื่องจากติดภารกิจเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนและซาอุดีอาระเบีย ในช่วงสัปดาห์หน้า​ แต่หากมีเวลาก็อยากจะไปเยี่ยมคนเจ็บ

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแล้วเสร็จ​ นายกรัฐมนตรี จะมีการหารือกับส่วนงานราชการและอื่นๆ อีกกว่า 8 คณะ​ เช่น​ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด การก่อสร้างสะพานของกระทรวงคมนาคม​ กระทรวงสาธารณสุข ดูเรื่องเยียวยารักษา ยังมีเรื่องกระบวนการยุติธรรม มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับแต่ละหน่วยงาน และจะมาประชุมร่วมกัน ดังนั้น ขอให้สบายใจว่าทำอย่างเต็มที่​ และตนก็จะพบอีกหลายท่านเพื่อตามงาน พบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ตามเรื่องสะพานที่สุไหงโก-ลก ซึ่งวันนี้จะมีการพบปะถึง 8 คณะ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ป่วนปัตตานี! ลอบบึ้มชุด รปภ.งานกีฬา อบต.น้ำดำ เจ็บ 4 นาย

21 ก.ค.- ป่วนงานกีฬา อบต.น้ำดำ ปัตตานี คนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่อาสาฯ ขณะรักษาความปลอดภัย บาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 21 ก.ค.68 เมื่อเวลา 16.50 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกคอกควาย บ้านบือแนยามู หมู่ที่ 4 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เบื้องต้นแรงระเบิด ทำให้ อส.ชคต.น้ำดำ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 4 นาย อาการหูอื้อ ถูกนำส่งโรงพยาบาลทุงยางแดง จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว กำลังรักษาความปลอดภัยสนามกีฬา งานกีฬา อบต.น้ำดำ ระหว่างทางได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนประเด็นและสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดียทักษิณคิดเพื่อไทยทำ

21 ก.ค.- “แพทองธาร” เหน็บ “ฮุนเซน” เคลมไอเดีย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” ถามเป็นของเขาได้อย่างไร เหมือนตอนปล่อยคลิปเสียงแล้วมาบอกไม่ได้ปล่อย ด้าน “สรวงศ์” ขอสื่อไทยเลิกเป็นกระบอกเสียงกัมพูชา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังร่วมงานแถลงข่าวทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว ปี 2569 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยนางสาวแพทองธาร ตอบสั้นๆ กรณีที่มีรายงานข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมในวันพรุ่งนี้ว่า “ไม่ทราบเลยค่ะ ” ส่วนวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.)ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีอะไรพูดเป็นพิเศษกับผู้เข้าร่วมงานหรือไม่ นางสาวแพทองธารกล่าวว่า “ให้รอฟัง” เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ออกมาระบุว่ามีส่วนร่วมในการคิดนโยบาย “ทักษิณคิดเพื่อไทยทำ” นางสาวแพทองธาร นิ่งคิดก่อนที่จะหันไปถามนายสรวงศ์ ว่า “เป็นของเขาได้อย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเขาเคลมว่าเป็นแบบนั้น นางสาวแพทองธาร ยิ้ม นิ่งคิดก่อนที่นายสรวงศ์จะบอกว่า “สื่อไทยต้องเลิกเป็นกระบอกเสียงให้กัมพูชา” นางสาวแพทองธารจึงพูดต่อว่า “ก็เหมือนที่เขาบอกว่าปล่อยคลิป แล้วก็บอกว่าไม่ได้ปล่อย ใช่ไหม เหมือนกันนั่นแหละ” -สำนักข่าวไทย

มติ มส. เคาะแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง

21 ก.ค.- ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติมกฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง กรณีการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุที่ผิดพระธรรมวินัย พร้อมกำหนดกรอบเวลาวินิจฉัยรู้ผลภายใน 10 วัน หากมีหลักฐานชัด และขั้นตอนการสละสมณเพศของพระที่กระทำผิด ย้ำการปรับครั้งนี้ เพื่อความรวดเร็วในการจัดการ เพิ่มบทบาทสำนักพุทธฯ แสวงหาข้อมูลและร่วมมือกับหน่วยงานอื่น รศ.ดร.ชัชพล ไชยพร ผู้เชี่ยวชาญด้านวิชาการพระพุทธศาสนา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษามหาเถรสมาคม ร่วมแถลงข่าวเปิดเผย ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมวันนี้ โดย รศ.ดร.ชัชพล ระบุว่าที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติแก้ไขเพิ่มเติม กฎมหาเถรสมาคม 2 เรื่อง เพื่อใช้ในการเร่งรัดการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ที่ประพฤติผิดต่อพระธรรมวินัย หนึ่ง เกี่ยวกับการลงนิคหกรรม หรือการลงโทษภิกษุตามพระธรรมวินัย กฎนี้เดิมตราขึ้นปีตั้งแต่ปี 2521 โดยจะมีการเพิ่มเติมที่ให้อำนาจข้าราชการมีส่วนนำเสนอประเด็นได้โดยไม่ต้องรอคณะสงฆ์อย่างเดียว โดยอำนาจวินิจฉัยยังเป็นคณะสงฆ์ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่นๆ จะมีส่วนในการสนับสนุนข้อมูล พยานหลักฐาน ช่วยเร่งรัดกระชับกระบวนการให้จัดการได้ไวขึ้น โดยร่างกฎมหาเถรมาคมเรื่องลงนิคหกรรม ที่จะบังคับใช้เพิ่มเติมใหม่ จะมีการเพิ่มเติมหมวด โดยเฉพาะวิธีการปฏิบัติเมื่อปรากฏหลักฐานพระสงฆ์กระทำผิดชัดแจ้ง เช่น แบ่งเป็นในการพิจารณาพระภิกษุที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระธรรมวินัย เนื่องจากเสพเมถุน หรือต้องอาบัติปาราชิกอื่นๆ […]

“บิ๊กเต่า” เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกาเป็นเหตุให้สึก

บก.ปปป. 21 ก.ค. – รอง ผบช.ก. เผยพบเส้นเงินพระลูกวัดนครสวรรค์-ฆราวาส โยงสีกา 2 ราย เป็นเหตุให้สึก ส่วนการทุจริตก่อสร้างพุทธอุทยาน และ มจร. อยู่ระหว่างตรวจสอบให้ชัด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบข้อมูลการร้องเรียน “ทิดสฤษดิ์” หรือ อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า หลังเกิดกรณีของ “กอล์ฟ” ได้ตรวจสอบเอาผิดพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมถึงชั้นเทพ ส่วนกรณีวัดที่จังหวัดนครสวรรค์ มีสมณศักดิ์สูงกว่าคือชั้นธรรม ซึ่งเรื่องอาญาในการทุจริต โดยมีข้อมูลเชื่อมโยงกันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี วันนี้จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบที่จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดพิจิตร เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน แม้พระจะสึกไปแล้วยังต้องได้รับการตรวจสอบจากตำรวจด้วยว่าจะเข้าข้อหาอาญาทุจริตหรือไม่ จากการตรวจสอบมีเส้นเงินที่ตรวจสอบพบเกี่ยวกับกอล์ฟ หลายเส้นเงิน ทาง ผบช.ก. จึงสั่งให้ตรวจสอบทุกวัด ทุกรูป แม้จะตรวจสอบไม่พบจากคลิปวิดีโอหรือแชตไลน์ ก็ให้ทำการตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วย ส่วนกรณีการตรวจสอบก่อสร้างของพุทธอุทยาน และโครงการในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตนครสวรรค์ หรือ มจร.นครสวรรค์ ที่สร้างมานานแล้วยังไม่แล้วเสร็จนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า […]