“สมศักดิ์” นำ สส.เพื่อไทย ติดตามน้ำท่วมร้อยเอ็ด

ร้อยเอ็ด 8 ต.ค.-“สมศักดิ์” รองนายกฯ ขนทัพ สส.เพื่อไทย ติดตามน้ำท่วมร้อยเอ็ด มอบ “ถุงยังชีพ” ให้แก่ผู้ประสบภัย พร้อมเปิดแข่งขันเรือยาวประจำปี ขอรักษาประเพณีให้ลูกหลานได้เห็น จ่อถกประธานศาลฎีกา ตั้งศาลยาเสพติด

วันที่ 8 ตุลาคม 2566 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายสุธรรม แสงประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายจิระพงศ์ เทพพิทักษ์ รองอธิบดีกรมทางหลวง นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมร่วมพิธีการแข่งขันเรือยาวประเพณี ประจำปี 2566 บริเวณสนามวัดสุปัญญาราม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด นายนรากร นาเมืองรักษ์ สส.ร้อยเอ็ด นายกิตติ สมทรัพย์ สส.ร้อยเอ็ด นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ อดีต สส.ร้อยเอ็ด และนายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล สมาชิกวุฒิสภา ให้การต้อนรับ


โดยนายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานการแข่งขันเรือยาวประเพณี ประจำปี 2566 ว่า ขอชื่นชมการแข่งขันเรือยาวประเพณี เพราะถือว่า เป็นกิจกรรมที่ดี ซึ่งต้องขอขอบคุณสส.และผู้บริหารท้องถิ่นทุกคน ที่ช่วยกันรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีนี้ โดยหวังว่า หลังจากนี้ กิจกรรมแบบนี้ จะยังมีให้ลูกหลานคนไทยได้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง

“ผมในฐานะรองนายกฯ ต้องขอชื่นชม สส.ร้อยเอ็ด ที่ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งได้ถ่ายทอดให้ท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน โดยท่านนายกฯ ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จนประกาศว่า จะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุดด้วยตนเอง โดยผมในฐานะที่เคยอยู่กระทรวงยุติธรรม และได้กำกับงานอยู่ในเวลานี้ ก็กำลังจะเข้าไปพูดคุยกับประธานศาลฎีกา เพื่อขอความเห็นในการตั้งศาลยาเสพติด เพื่อดำเนินการให้ทุกอย่าง มีความเป็นมาตรฐานมากยิ่งขึ้น และจากนี้ ก็ต้องมาดูกันอีกครั้งว่า ความเห็นต่างๆในการตั้งศาลยาเสพติด จะเป็นไปในทิศทางใด”รองนายกรัฐมนตรี กล่าว


จากนั้น นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณตลิ่งลำน้ำชี บ้านคุ้งสะอาด ตำบลนาเลิง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัย

โดยนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว 12 อำเภอ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 23,758 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ซึ่งจากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้น ทำให้ถนนได้รับผลกระทบ 176 สาย สะพาน 14 แห่ง คอสะพาน 3 แห่ง ฝาย 12 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ 2 แห่งบ้านพัก 97 หลัง และคอกสัตว์ 3 แห่ง รวมถึงมีพื้นที่การเกษตร ได้รับผลกระทบเป็นข้าวนาปี 917 ไร่ พืชผัก 130 ไร่ ไม้ยืนต้นอื่นๆ 211 ไร่ รวมพื้นที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 91,858 ไร่ ส่วนด้านปศุสัตว์ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 1,057 ราย แบ่งเป็นโค 888 ตัว กระบือ 299 ตัวรวมทั้งสิ้น 1,187 ตัว ซึ่งการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้า ได้มอบอาหารสัตว์จำนวน 20,000 กิโลกรัม การเสริมสร้างสุขภาพสัตว์ 392 ตัว การรักษาสัตว์ 131 ตัว

ขณะที่ นายนรากร กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยปัญหาเรื่องน้ำเป็นปัญหาที่ยาวนาน ที่ชาวร้อยเอ็ดต้องประสบอยู่ทุกปี ดังนั้น ตนจึงอยากฝากท่านรองนายกรัฐมนตรี ดำเนินการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือชาวร้อยเอ็ด ขณะเดียวกัน ก็อยากให้พิจารณางบประมาณขุดลอกคูคลอง เพื่อที่จะได้มีน้ำเก็บไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้งด้วย


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้พา นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มาลงพื้นที่ด้วย เพื่อมารับฟังปัญหา และนำไปสู่การทำแผนในการแก้ปัญหาน้ำท่วมให้กับพี่น้องประชาชน โดย สส.หลายคนของพรรคเพื่อไทย ก็กำลังหารือว่า เราจะบูรณาการอย่างไร ในการแก้ปัญหาน้ำท่วม ซึ่งต้องคุยกันหลายจังหวัด เพราะมีทั้งโขงชีมูล ขณะเดียวกัน ตนยังพากรมทางหลวง มาลงพื้นที่ด้วย เพื่อมาติดตามแนวทางการแก้ปัญหาถนนทรุด รวมถึงที่ต้องซ่อมแซม

“ผมต้องขอขอบคุณ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่มอบสิ่งของเหล่านี้ มาดูแลพี่น้องประชาชน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาล ไม่ละเลยในเรื่องนี้ และดูแลอย่างเต็มที่ที่สุด โดยก่อนมา ผมได้เดินทางไปดูจุดที่น้ำทะลักเข้ามา จึงเข้าใจความเดือดร้อน ดังนั้น จึงขอฝากไปยังท่านผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ต้องช่วยกันจัดทำงบเข้าสู่ระบบ เพื่อช่วยผลักดันโครงการเข้าสู่ไทยวอเตอร์แพน ซึ่งกระบวนการอาจจะมีมาก แต่เราต้องทำ เพื่อประชาชน จะได้ หลุดพ้นจากเหตุน้ำท่วม นอกจากนี้ เรา ต้องหาแนวทางเฉพาะหน้าด้วย เช่น การสร้างฝายซอยซีเมนต์ รวมถึงการทำธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อช่วยบรรเทาเหตุ โดยตรงกับนโยบายของรัฐบาล ในเรื่องการเพิ่มพื้นที่แหล่งน้ำ ดังนั้น ต้องเดินหน้าอย่างเต็มที่”นายสมศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ พร้อมคณะ ยังได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอีก 2 จุด คือ ตรวจพื้นที่ฝายดินซีเมนต์ลำน้ำยัง บ้านบาก ตำบลวังหลวง และ ตรวจเยี่ยมประตูระบายน้ำลำน้ำชีตอนกลาง โดยนายสมศักดิ์ ได้ลงไปดูผนังกั้นน้ำลำน้ำชี ที่พบว่า พังทุกปี และที่ผ่านมาใช้งบประมาณของ อบต. ซ่อมแซม ซึ่งอาจไม่ได้มาตรฐาน นายสมศักดิ์ จึงได้ประสานให้ผู้ว่าฯนำเข้าสู่การจัดทำงบประมาณ เพื่อแก้ปัญหาแบบระยะยาวด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]

รวมพลัง 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

15 ก.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา จัดพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วย องค์การทางศาสนาทั้ง 15 องค์การ จาก 5 ศาสนา ได้แก่ ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู และศาสนาซิกข์ รวมทั้งหน่วยงานเครือข่าย มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ผู้นำทางศาสนา ศาสนิกชน เครือข่ายสถานศึกษา ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กระทรวงวัฒนธรรม รวมกว่า 1,000 คน ร่วมพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม จัดขึ้น ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เพื่อถวายพระราชกุศลและถวายพระพรชัยมงคล แสดงความจงรักภักดีและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า กิจกรรมประกอบด้วย พิธีถวายพระพรชัยมงคล […]

หน่วยงาน 3 ป. แถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” จ่อขยายผลเส้นเงิน

บก.ป. 15 ก.ค.- ตำรวจแถลงปฏิบัติการจับกุม “สีกากอล์ฟ” ตรวจสอบเงินในบัญชี 3 ปีย้อนหลัง พบมีเงินหมุนเวียน 385 ล้านบาท ส่วนใหญ่โอนไปเว็บพนัน เหลือเงินในบัญชี 8,000 บาท ขณะที่พระผิดธรรมวินัยทยอยลาสิกขาแล้ว 9 รูป จากทั้งหมด 13 รูป พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วยนายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท., นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการคณะกรรมการ ปปง., นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช., พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. ตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร่วมกับ […]