“บิ๊กดุง” แถลงนโยบายกู้ภาพลักษณ์ ทร. หลังมีข่าวลบต่อเนื่อง

หอประชุมกองทัพเรือ 5 ต.ค – “บิ๊กดุง” แถลงนโยบายกู้ภาพลักษณ์ ทร. หลัง 4-5 ปีโดนข่าวลบต่อเนื่อง เผยที่ผ่านมาหย่อนยานในการปฏิบัติ ลั่นบูรณะค่านิยมโยกย้ายเชิดชูอุปถัมภ์มากกว่าคุณธรรม ชอบโชว์คอนเนคชัน ซัดพวกเรียนเก่งแต่โกง พร้อมวางกรอบ ผบ.ทร.คนต่อไป ต้องเก่งและดี ให้นั่งทำงานอยู่กับที่ ไม่ต้องวิ่งเต้น เผยปรับยุทธศาสตร์ -โครงสร้างใหม่ ทร.ตามสถานการณ์โลก เสริมสร้างฝั่งอันดามัน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมกองทัพเรือ พลเรือเอก อะดุง พันธ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้แถลงนโยบายและแนวทางปฏบัติงานประจำปีงบประมาณ2567 โดยระบุว่าในปัจจุบันเราใช้ยุทธศาสตร์เล่มปีที่ 2560-2580 ซึ่งภารกิจกองทัพเรือมี5 ข้อ ได้แก่ 1.การพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.การเตรียมกำลังกองทัพเรือและป้องกันราชอาณาจักร 3.การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล4.สนับสนุนการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยภายในประเท5.สนับสนุนการพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน โดยวิสัยทัศน์คือเป็นหน่วยงานด้านความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาคและเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ซึ่งจะเห็นว่าที่เขียนไว้นั้น โดยเฉพาะทางด้านยุทธศาสตร์โครงสร้างกำลังรบเรายังมีเรือไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่ก็ใกล้จะถึงตามเป้า ส่วนด้านยุทธการและการฝึก ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ (ศปก.ทร.)ใหม่ ซึ่งอาคาร ศร.ชล.ที่มีปัญหาในการก่อสร้างไม่สามารถเสร็จได้ตามเวลา เพราะฉะนั้น ศปก.ใหม่ก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เราต้องแก้ไข

ด้านส่งกำลังบำรุงคาดหวังว่าอยากพัฒนาฐานทัพท่าเรือต่างๆไปถึงฝั่งอันดามันให้ซึ่ง พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ผบ.ทร.ท่านที่แล้วได้ให้ความสำคัญกับฝั่งอันดามัน จนได้จัดทำเป็นแผนชัดเจน ตนก็จะต้องเดินตามที่ท่านได้วางไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับปัญหาด้านความมั่นคงในภูมิภาค จากสถานการณ์ของ จีน ยูเครน สหรัฐฯ และจากสภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไป มีเทคโนโลยีใหม่ด้านการรบใหม่ๆเข้ามา จึงเป็นที่มาของวิสัยทัศน์ที่ที่เราจะใช้ต่อไปโดยดูว่าบทบาทนำในภูมิภาคตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ควรจะเป็นอย่างไร


พลเรือเอก อะดุง กล่าวอีกว่า จะมีการทบทวนปรับปรุงโครงสร้างกองทัพเรือใหม่ทั้งระบบในปีนี้ทั้งกำลังรบทางบกและทางเรือโดยลดหน่วยเฉพาะกิจที่หมดความจำเป็นลง ทบทวนกำลังรบให้สอดคล้องกับ ปัจจัยต่างๆ ส่วนรูปแบบและประเภทกำลังรบ ต้องบูรณาการร่วมกับ ศร.ชล. ให้จับต้องให้ได้ พร้อมทั้งใช้ เทคโนโลยีปรับรูปแบบการปฎิบัติ เมื่อปรับโครงสร้างแล้วกำลังพลก็จะลดลง อีกทั้งจะกำหนดเป้าหมายงบประมาณอย่างเหมาะสมที่สำคัญคือเราจะพัฒนาฝั่งทะเลอันดามันมากขึ้น บรรจุกำลังพลในหน่วยกำลังรบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทดลองการใช้ระบบบริหารจัดการสอบ ศปก.ทร. ใหม่โดยทำการทดสอบให้เกิดประสิทธิภาพได้ภายในปีนี้ พัฒนาศักยภาพกองทัพเรือทางฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งเป็นไปตามโรดแม็ป ที่ พลเรือเอกเชิงชาย ได้ทำไว้ อีกทั้งเพิ่มอัตราให้ศูนย์ทุนระเบิด ศูนย์สงครามใต้น้ำใน ศปก.ทร. ศูนย์ละ 10 อัตรา ให้กับ 2กองเรือ

“ที่มีคำถามต่อมาคือกองทัพเรือมีภาพลักษณ์อย่างไรต่อคนไทย เดิมทหารเรือเป็นสุภาพบุรุษ เป็นคนดี รักษาคำพูดคนเคยชื่นชมเพราะเราเคยช่วยเหลือประชาชนและชุมชน เป็นมิตรในยามทุกข์ยามสุข เคยแสดงผลงานระดับประเทศในการที่เราเอานำเรือออกไปปราบโจรสลัดที่โซมาเลีย ทหารไม่ค่อยยุ่งการเมือง ในอดีตทหารเรือจัดซื้ออาวุธยุทธโทรปกรณ์ไม่เคยถูกลงหนังสือพิมพ์กระหน่ำเหมือนทุกวันนี้ เราเคยจะซื้ออะไรเป็นหมื่นล้านสังคมก็ยินดีและยอมรับและเข้าใจตอบรับการจัดหาของเรา อีกทั้งคนในองค์กรกองทัพเรือก็มีความสามัคคี แต่ปัจจุบันนี้กองทัพเรือเกิดอะไรขึ้น มีแต่ข่าวการจัดซื้อจัดจ้าง กระสุน นย.หายมหาศาล มีข่าวกำลังพลเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เรือรบเกิดอุบัติเหตุ มีข่าวธำรงวินัยแม้แต่ผู้บัญชาการทหารเรือเองก็เคยถูกธำรงวินัย ตอนผมเป็นเจ้ากรมสื่อสารทร. ก็ถูกธำรงวินัยด้วย มีข่าวผู้บังคับบัญชาเอาเปรียบลูกน้อง เบียดบังสิทธิ์ผู้ใต้บังคับบัญชา มีข่าวการลงโทษที่เขาห้ามทำกัน และมีข่าวเรือดำน้ำที่ไม่จบไม่สิ้นสักที เป็นเพราะอะไร”

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวว่า ตนเองได้วิเคราะห์แล้วพบว่าระเบียบกฎเกณฑ์ข้อบังคับที่กองทัพเรือนำมาใช้กับทุกคนไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม และยุทธศาสตร์กองทัพเรือก็ไม่ได้เปลี่ยนมากนัก แต่สิ่งที่เปลี่ยนก็คือค่านิยมกำลังพลของเราที่ยึดติดกับเงินทอง ความร่ำรวย การใช้ชีวิตที่รู้หรา ซึ่งอดีตบรรพบุรุษของเราอยู่อย่างแบบพอเพียง ปัญหาอีกประการคือการปกครองบังคับบัญชาที่เป็นกันเองเกินไป เพราะเราอยู่แบบพ่อลูก พี่น้อง แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาก็ดีใจที่นายใจดี จึงไม่ทำผิดให้นายเสียใจ แต่ปัจจุบันความใจดีของผู้บังคับบัญชากลับทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่เชื่อถือ ไม่ยอมทำตาม ไม่ตอบรับความใจดี ดังนั้นเราต้องกลับมาทบทวนว่าคนเป็นนายควรจะใจดีกับทุกคนหรือไม่ อีกประการหนึ่งคือการเติบโตในชีวิตรับราชการ เราามีวิธีขึ้นสู่การเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพมากมาย จนน้องๆ ไม่รู้จะเดินตามทิศใด แต่ทิศที่ถูกต้องต้องได้รับการบูรณะ และยืนหยัดในกองทัพเรือให้ได้ ที่ผ่านมาความไม่ชัดเจนของผู้บังคับบัญชา และความไม่จริงจัง โดยเมื่อขึ้นเป็นนายคนแล้วไม่ทำหน้าที่นายให้สมบูรณ์แบบ สังไม่รู้เรื่อง ไม่กล้าตัดสินใจ ไม่มีองค์ความรู้ ลังเล แก้ไขคำสั่งบ่อยครั้งจนผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติตามไม่ถูก


“อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นคือการเลื่อนไหลของการรับราชการที่มีระบบอุปถัมภ์ มากเกินกว่าคุณธรรม ผบ.ไม่เคยรังเกียจระบบอุปถัมภ์เพราะก็โตมาในจุดที่มีระบบอุปถัมภ์เหมือนกัน แต่ให้บาลานซ์ พอเหมาะพอสม และต้องอุปถัมภ์คนดีโดยปัจจุบันความเชื่อในเรื่องคอนเน็คชั่นส์มากกว่าจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ ผบ.จึงขอให้ทุกคนนั่งอยู่กับที่ และทำหน้าที่ของตัวเองมากกว่าจะไปวิ่งเต้นโดยบอกให้รู้ว่าฉันจะต้องรู้จักใคร เพราะไม่ได้ประโยชน์ จงตั้งไจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และเราจะต้องกลับมาอยู่ในองค์กรที่เป็นพี่เป็นน้อง เป็นครูและเป็นสิทธิ์ ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี ให้ความสำคัญในเรื่องสวัสดิการ ไม่ใช่พร่ำพูดหน้าแถวให้เขาตั้งไจทำงาน มีอุดมการณ์ เสียสละ ทุ่มเทแต่สวัสดิการที่พึงมีพึงได้ เขากลับไม่ได้รับ ซึ่งก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่เขาก็ไม่สามารถที่จะตอบความปรารถนาความต้องการของเราได้”

ผบ.ทร. กล่าวว่า เรายังพบว่าปัจจุบันกำลังพลหย่อนยานในวินัย และขาดอุดมการณ์ทหารอาชีพ เพราะกองทัพเรือไทยไม่ใช่กองทัพเรือที่รบจริงเพราะไม่ได้มีภัยคุกคามที่รบจริง ทำให้เราเลยประมาท และไม่เข้าใจว่าการเตรียมพร้อมที่จะรบเป็นอย่างไรจึงจึงมีปัญหาทุกวันนี้ เช่น ก่อนออกเรือ ต้นหน ต้นกล เครื่องจักร มีบรรยายตามระเบียบให้ผู้การฯฟัง หรือแม้กระทั่งงานสรรพาวุธลูกปืนอยู่ในคลัง ต้องตรวจวันละกี่รอบ มีกล้องวงจรปิดในการตรวจสอบการนำอาวุธ มีการเซ็นต์รับออกตามระเบียบทุกอย่าง หรือ เรื่องการซ่อมทำเรือตอนเข้าอู่จะต้องมีแนวทางปฏิบัติเขียนไว้หมดแล้ว หรือเรื่องการรักษาวินัยเอกสารลับแต่ทำไมเอกสารรับถึงหลุดไปถึงมือสื่อมวลชนได้ หรือ ทำไมเรื่องที่คุยกัน5คนในห้องถึงออกไปถึงหูคนอื่นได้ เหตุเพราะพวกเราไม่จริงจังต่อเรื่องที่ควรจริงจัง ปีนี้จะขอแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ซึ่งจะแก้ได้ก็คือทุกคนต้องช่วยกันทำตั้งแต่พลเรือเอกจนถึงพลทหารครั้งคนสุดท้าย โดยเราต้องภูมิใจในตัวเองและสัญญากับเสด็จเตี่ยว่าจะทำหน้าที่ที่รับผิดชอบให้ดีที่สุด โดยทุกคนกลับไปถามตัวเอง I will do my best

“มอตโต้สมัยที่ พลเรือเอกกำธร พุ่มหิรัญ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือให้ไว้ คือคนเก่งคนดีในการทำงาน แต่จะต้องเป็นคนดีคนเก่งในสายตาทุกคนด้วย ไม่ใช่แค่คนใดคนหนึ่ง คนเก่งไม่ใช่คนที่เอาพระสมเด็จฯมาให้ผบ. หน่วย แล้วบอกเขาว่าเป็นคนดี แต่ต้องตั้งไจทำงาน และเมื่อหากแยกเป็นคนเก่งอยู่ซ้ายมือ คนดีอยู่ฝั่งขวามือ บางคนสมองไม่ดี ไม่ว่ากัน แต่เอาคะแนนฝั่งคนดีมาบวก ส่วนบางคนเรียนเก่ง แต่ขี้โกง เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน หรือ สังคม ทำให้คะแนนฝั่งคนดีก็ลดลงไป แต่คนที่จะเป็นผู้นำกองทัพต้องเก่ง บวกดี กองทัพเรือจะได้เจริญก้าวหน้า วิธีจะดูแม้จะยาก สิ่งที่เราจะประเมินก็คือการแสดงออกของพี่น้องกัน ซึ่งเราเห็นกันมาตั้งแต่เป็นนักเรียนนายเรือจนถึงวันที่อายุ56 ปี มันโกหกกันไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมจะใช้วิธีการประเมินเป็นหลัก ในการดูว่าใครควรจะอยู่ที่ไหน บวกกับผลงานที่ทุกท่านทำงานในปีนี้ให้ประจักษ์”

โดยย้ำด้วยว่า กองทัพเรือจะบริหารแบบรวดเร็ว สั่งผ่านเสนาธิการทร. เพื่อให้เจ้ากรม รองเสธ.จะได้ดำเนินการไอย่างรวดเร็ว สุดท้ายคืออยากให้กำลังพลทุกคนอยู่กันด้วยความสามัคคี ต้องได้รับการปกครองบังคับบัญชาอย่างถ้วนหน้าด้วยความยุติธรรม ผู้บังคับบัญชาจะต้องให้ทุกคนได้รับสิทธิและโอกาสสวัสดิการที่ทุกคนพึ่งได้ให้ดีที่สุด ตนได้ให้กรมฝ่ายอำนวยการไปรับข้อมูลจากหัวหน้าหน่วยราชการ เพื่อนำบัญชีการซ่อมทำหน่วยมาให้ดู เช่นเรื่องห้องน้ำต่างๆ ตนจะจัดงบฯ ไปให้ซ่อมทำ และปีใหม่จะไปตรวจเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่กับทุกคน ของขวัญอีกอย่างคือ ยกเลิกการจูงจักรยานและจักรยานยนต์ทุกประตูของกองทัพเรือ ให้ขับมาได้เลยอย่างช้าๆ จะไม่มีการตรวจเครื่องหมายผู้ใต้บังคับบัญชาที่ประตู แต่ให้หัวหน้าหน่วยไปตรวจกันเองในการตรวจแถววันพุธพฤหัสเป็นการรับผิดชอบกันไปเอง และปีนี้จะงดทำไดอารี่แจก เพราะส่วนใหญ่ก็ดูจากโทรศัพท์ หรือคอมพิวเตอร์กันหมดแล้ว แล้วจะนำงบฯมาซ่อมห้องน้ำ และซ่อมทุกอย่าง เพื่อให้ลูกน้องเราให้กินดีอยู่ดี และจะแจกแจงเงินก้อนนี้ให้โปร่งใสว่าหน่วยใดได้อะไรบ้างได้ และจำนวนเท่าไหร่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]