รัฐบาลเดินหน้าแก้วิกฤติสิ่งแวดล้อม

ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 5 ต.ค.- นายกฯ ร่วมงาน ESG Symposium 2023 รับฟังความคิดเห็น “ร่วม เร่ง เปลี่ยนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” ลั่น ขอมั่นใจรัฐบาลพร้อมเดินหน้าลดก๊าซเรือนกระจก แก้วิกฤติสิ่งแวดล้อม


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมรับฟังความคิดเห็น “ร่วม เร่ง เปลี่ยนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ” และแสดงวิสัยทัศน์การขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ESG (Environmental, Social and Governance) เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ในงาน ESG Symposium 2023 ภายใต้งาน Sustainability Expo 2023 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้การต้อนรับ

นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า รู้สึกประทับใจที่ได้เห็นคนไทยทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ร่วมกันหาแนวทางทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ เรื่องภาวะโลกเดือด ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของทุกชีวิตบนโลก สภาพอากาศสุดขั้วส่งผลต่อสุขภาพ ภัยแล้งรุนแรงมากขึ้น อาหารขาดแคลน ซึ่งนำไปสู่ปัญหาเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับครัวเรือนจนถึงระดับมหภาค ขณะเดียวกันตนเชื่อมั่นเช่นเดียวกับทุกคนว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือกันตามกลยุทธ์ ESG ที่เน้นสร้างเศรษฐกิจ ควบคู่กับสมดุลทางสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างโปร่งใส มุ่งสู่เป้าหมาย SDGs ของสหประชาชาติ เราช่วยกันจะกู้โลกให้กลับมาดีขึ้นได้


“เมื่อเดือนที่ผ่านมา ผมได้ร่วมประชุมระดับผู้นำว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็นทศวรรษแห่งการลงมือทำ เพราะเรารอช้ากันอีกไม่ได้แล้ว ประเทศไทยสนับสนุนกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศให้มีความเข้มแข็ง โดยเฉพาะความร่วมมือในการจัดสรรแหล่งทรัพยากรและเงินทุน ซึ่งจะช่วยให้ทุกประเทศรับมือกับความท้าทาย และร่วมกันขับเคลื่อน SDGs เป็นรูปธรรม” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลออกมาตรการทางการเงินกว่า 450,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในเศรษฐกิจสีเขียว และ Thailand Green Taxonomy เพื่อส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจไทย โดย Global Compact Network Thailand กว่า 100 บริษัททั่วประเทศ พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และตั้งเป้าลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ SDGs ภายในปี พ.ศ.2573 ส่วนการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ต้องมีแนวทางที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนผ่านที่ชัดเจน โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งประเทศไทยได้มีแนวทาง ได้แก่ มุ่งมั่นการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ผ่านหลักการไปให้ถึงและช่วยเหลือกลุ่มที่รากหญ้า ส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ สำหรับประชากรทุกคนในประเทศ และให้ความสำคัญกับสิทธิด้านสุขภาพ ผลักดันความร่วมมือทุกระดับ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงส่งเสริมการเข้าถึงบริการพลังงานสะอาด ในราคาที่เหมาะสมและมีความน่าเชื่อถือภายในปี ค.ศ 2030

“ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า วันนี้ประเทศไทยพร้อมเดินหน้าแก้วิกฤติสิ่งแวดล้อม โดยรัฐบาลบรรจุอยู่ในนโยบายและมีแผนที่นำทางการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ (Nationally Determined Contribution : NDC) เพื่อให้ทุกภาคส่วนดำเนินงานอย่างบูรณาการร่วมกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอการบูรณาการ ร่วมเปลี่ยนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ที่คุณธรรมศักดิ์ได้เป็นผู้แทนเสนอมานั้น ต้องขอชื่นชมความตั้งใจที่จะทำโมเดลสระบุรีแซนด์บ็อกซ์ ท่านได้เลือกโจทย์ที่ยากพอสมควร เพราะสระบุรีเองเป็นจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่อยู่มาก เช่น โรงงานปูน เป็นต้น รวมถึงการดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจก ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งจากเอกชนรายใหญ่และประชาชน ดำเนินมาตรการต่างๆมากมาย และต้องใช้เงินทุน ขอชื่นชม SCG ที่มาผลักดันเรื่องนี้ และขอเชิญชวนบริษัทใหญ่อื่นๆ มาร่วมกันเป็นพลังเสริมด้วย และขอให้ทำให้สำเร็จ จะได้เป็นตัวอย่างให้เมืองอื่นๆ และภาคอุตสาหกรรมอื่นๆในประเทศได้ การผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เป็นวาระแห่งชาติ

“ผมชื่นชมทั้ง 3 อุตสาหกรรมนำร่องระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อขยายผลความสำเร็จนี้ รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการกำหนดนโยบายจัดการขยะและเปิดให้จัดหาสินค้ากรีน เพื่อสร้าง eco-system ที่เอื้อต่อระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน เป็นต้น การส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ถือเป็นการสร้างความมั่นคงทางพลังงาน เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในอนาคต และช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตแบบคาร์บอนต่ำ รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดให้เต็มประสิทธิภาพ และศึกษาการเปิดให้สามารถซื้อ-ขายไฟฟ้าจาก Renewable Source ได้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดแข็งของประเทศไทยในการดึงดูดนักลงทุน และบริษัทต่างชาติในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือการเปลี่ยนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ต้องยอมรับว่ายังมีประชาชนอีกมาก โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก เกษตรกร และชุมชน ที่ยังไม่ตระหนักถึงวิกฤตนี้ หรือยังไม่พบทางออกเพื่อรับมือ เราควรสนับสนุนการเข้าถึงความรู้ เทคโนโลยี และการเข้าถึงเงินทุน แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ให้สามารถปรับตัวอยู่รอดได้ ฉะนั้นตนขอฝากให้ธุรกิจขนาดใหญ่เป็นพี่เลี้ยงผู้ประกอบการขนาดเล็กและชุมชน รวมทั้งผนึกกำลังกับภาคส่วนต่างๆ อย่างในวันนี้ โดยข้อเสนอต่าง ๆ ดังกล่าวจะมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป มั่นใจว่าเป็นจริงได้แน่นอน หากทุกภาคส่วนมาร่วมบูรณาการ โดยเห็นประโยชน์ของประเทศและของโลกเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือนายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข