สนามบินน้ำ 2 ต.ค. – “ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. สอบจริยธรรม “ก้าวไกล-หมออ๋อง” ฉ้อฉล นิติกรรมอำพราง เหตุขับพ้นพรรค กระทบความสง่างามในการทำหน้าที่ของพรรคก้าวไกล-หมออ๋อง สัปดาห์หน้าเตรียมนำหลักฐานยื่น ป.ป.ช.เพิ่ม กรณีโฆษณาเบียร์
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ดำเนินการไต่สวนและมีความเห็น กรณีที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลและ สส. พรรค มีมติให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้สามารถยังคงทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรและพรรคก้าวไกลสามารถมีตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรได้ ซึ่งเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อฉลหรือนิติกรรมอำพราง เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรา 234 (1) ของรัฐธรรมนูญ ประกอบพระราชบัญญัติว่าด้วย ป.ป.ช. 2561 อีกทั้งการกระทำดังกล่าวอาจขัดหรือแย้งต่ออุดมการณ์ของพรรคที่เคยจดทะเบียนไว้กับนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าจะยึดมั่นในหลักนิติรัฐ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ไว้อย่างชัดเจน
นายศรีสุวรรณ ระบุว่าการที่นายปดิพัทธ์ไม่แสดงเจตจำนงค์ลาออก เป็นเหตุสำคัญที่ทำให้พรรคก้าวไกลใช้อำนาจขับนายประดิพัทธ์พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพเพื่อรักษาไว้ซึ่งตำแหน่งรองประธานสภาฯและพรรคจะได้สิทธิ์เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสังคมวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่ผิดปกติของพรรคที่เคยหาเสียง ว่าจะทำการเมืองแบบคนรุ่นใหม่ แบบตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องมีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ แต่พฤติการณ์ของพรรคก้าวไกลและนายปดิพัทธ์ ไม่ต่างจากพรรคการเมืองเดิมๆที่ผ่านมา ยังอยู่ในวังวนน้ำเน่าที่ชาวบ้านตั้งฉายาไว้ และอาจเป็นเรื่องของการใช้เล่ห์ ใช้มติเลี่ยงกฎหมาย อาจจะไม่ถูกต้องนัก และพฤติกรรมแบบนั้นอาจสร้างความเสื่อมเสียให้กับสภาผู้แทนราษฎร ให้กับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและพรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคการเมืองต้นสังกัด แม้ว่าเรื่องดังกล่าวกฎหมายอาจจะเอื้อมไม่ถึง
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตามข้อบังคับพรรคก้าวไกลที่ กกต. รับรองไว้เมื่อปี 2563 จะพบว่าการจะคัดชื่อออกจากการเป็นสมาชิกพรรคต้องเข้าข่ายละเมิดวินัยพรรค หรือผิดจรรยาบรรณของพรรค เมื่อดูข้อบังคับพรรค 119 ประกอบ 121 ไม่ได้ระบุเรื่องดังกล่าวไว้อย่างชัดเจน และการที่นายปดิพัทธ์ ยังคงรักษาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เรื่องความผิดวินัยอย่างร้ายแรง หรือผิดจรรยาบรรณอย่างร้ายแรง ดังนั้นการใช้อำนาจของกรรมการบริหารพรรค และ สส.พรรคก้าวไกล น่าจะเข้าข่ายการฝ่าฟื้นจะจริยธรรม ซึ่งเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จึงขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ หากพบเข้าข่ายฝ่าฝืน ป.ป.ช. ต้องส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาให้วินิจฉัยหรือพิพากษาลงโทษ
เมื่อถามว่ากรณีนี้จะส่งผลต่อความสง่างามในการทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรของนายปดิพัทธ์หรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่าตนเชื่อว่าจะกระทบอย่างแรงและคงจะถูกการตีรวนในการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรของ สส.พรรครัฐบาล หรือพรรคอื่นๆ ที่ตั้งป้อมว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
“เรื่องความสง่างามของพรรคก้าวไกลที่เคยหาเสียง ที่เคยพูดมาก่อนหน้านี้จะหายไปโดยทันที เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องได้ อาจไม่เท่าเสียของหมออ๋องและพรรคก้าวไกล” นายศรีสุวรรณ กล่าว
นายศรีสุวรรณ ยังกล่าวว่าสัปดาห์หน้าตนจะนำพยานหลักฐานกรณีที่นายปดิพัทธ์โชว์กระป๋องเบียร์และโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มายื่นเพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ช. ซึ่งเคยได้ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบจริยธรรมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว โดยหลักฐานที่สำคัญ คือการที่นายปดิพัทธ์ ไปยอมรับสารภาพต่อคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับ ซึ่งมีสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกเป็นประธาน และได้เปรียบเทียบปรับจำนวน 50,000 บาท ถือเป็นการยอมรับความผิดของตัวเอง ทั้งนี้ตนจะยื่นหลักฐานให้ ป.ป.ช. เพื่อเป็นการยืนยันว่ากรณีการไปโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการผิดกฎหมายอย่างชัดเจน มีหลักฐานยืนยัน และเข้าข่ายที่เคยร้องความผิดตามประมวลจริยธรรม.-สำนักข่าวไทย