กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 25 ก.ย.- “ชาดา” เผย เตรียมพูดคุยวัดบางคลาน ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเจรจา ลั่นต่อให้เป็น สว.ก็ไม่เกรงใจ แย้มทะเบียนผู้มีอิทธิพลใกล้แล้วเสร็จ ใครไม่เลิกเจอแน่
นาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง การขัดแย้งผลประโยชน์ที่วัดบางคลาน จ.พิจิตร ที่มีการนำเอาผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง ว่า วัดที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนมักจะมีปัญหาในลักษณะนี้ เมื่อวานนี้เจ้าคณะจังหวัดได้โทรติดต่อมาแล้ว เบื้องต้นตนขอดูเรื่องราวก่อน และตนสามารถเดินทางไปได้ถ้าคณะสงฆ์ให้ไป ซึ่งวัดบางคลาน เป็นเรื่องของผลประโยชน์และเป็นเรื่องที่ซับซ้อนมานานพอสมควร
“จริงๆแล้ว นี่เป็นเรื่องของคนในพื้นที่ คนนอกพื้นที่ไม่ควรจะยุ่ง ก็ต้องว่ากันไปตามระบบ ประเทศไทยวุ่นวายมากพอสมควรแล้ว พระเข้าวัดไม่ได้ เป็นความรู้สึกที่กระทบกระเทือนจิตใจคนไทยทุกคน ท่านอนุทิน สั่งดำเนินการแล้ว ก็จะมีการเข้าไปดู ตอนนี้มีหลายเรื่อง เช่น เรื่องของผู้มีอิทธิพลตามต่างจังหวัดก็กำลังดำเนินการอยู่” นายชาดา กล่าว
ส่วนตัวละครที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีตำแหน่งเป็นถึง สว.จะมีการเกรงใจหรือไม่ นาย ชาดา ตอบว่า ไม่มีแน่นอน ทุกคนอยู่ใต้กฎหมายเดียวกัน รัฐมนตรีก็อยู่ภายใต้กฎหมาย ซึ่งต้องทำความเข้าใจและพูดคุยกัน ว่าเหตุผลคืออะไร แต่จะมาปิดบัง ไม่ได้
“คุณต้องการอะไร สิ่งที่คณะสงฆ์ต้องการคืออะไร ต้องมีการเจรจากัน คณะสงฆ์เขาก็มี พ.ร.บ.สงฆ์อยู่แล้ว ถ้าขัดแย้งกับคนในชุมชนก็ต้องมาคุยกัน ต้องเอาปัญหาออกมาแฉ คุณอ้างนู่นอ้างนี่ แต่มีเงินเข้ากระเป๋า ปัญหามันก็ไม่จบ” นายชาดา กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนผู้มีอิทธิพลดำเนินการไปถึงไหนแล้ว นาย ชาดา กล่าวว่า ตอนนี้ทางอธิบดีกรมการปกครองให้จังหวัดทำบัญชี มาแล้ว และมีความคืบหน้ามาก หลังจากนี้จะมีการ แยกสี แยกรูปแบบ ว่าแต่ละคน แต่ละสีเป็นอย่างไร ถ้าไม่เลิกเจอแน่ เราไม่ทำแบบไฟไหม้ฟาง ไม่ใช่ว่าตัวอยู่ในเรือนจำ หรือหนีไปแล้ว แต่อาณาจักรยังอยู่
เมื่อถามต่อว่า พอจะเห็นตัวเลขบ้างไหมว่ามีจำนวนเท่าใด นายชาดา กล่าวว่า 76 จังหวัดก็ต้องเยอะเป็นธรรมดา แต่ไม่ใช่ปัญหา กำลังปรับข้อมูล บางคนก็เสียชีวิตไปแล้ว บางคนก็เลิกไปแล้ว ถ้าคนไหนยังไม่เลิกก็ต้องปรับตัวเองใหม่
ทั้งนี้ ปัญหาส่วนหนึ่งคือเรื่องของอาวุธปืน ต้องมีการทบทวนมาตรการในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ต้องมีการทบทวน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโบายไว้แล้วเรื่องปืน ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ทำความเข้าใจแล้ว ผู้มีอิทธิพลเราตรวจหมด หลักเกณฑ์ต้องเข้มงวดขึ้น
“ก็ขึ้นกับว่า คิดว่าพอได้แล้วหรือยัง เยอะเกินไปไหม ปืนสวัสดิการอะไรพวกนี้ อันนี้ผมไม่กล้าก้าวล่วง แต่ปืนทุกกระบอกต้องเก็บนิติวิทยาศาสตร์ ปืนทุกกระบอกออกมาจากร้านค้าต้องมีรอยหัวกระสุน มีการเก็บข้อมูลไว้ มีการก่อเหตุอาชญากรรมที่ไหนรู้ได้เลย” นายชาดา กล่าว
เมื่อถามต่อว่าในกรณีของเจ้าหน้าที่ตำรวจมียศใหญ่ เข้ามาเกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายอย่างไรในการจัดการเรื่องนี้ นายชาดา กล่าวว่า มหาดไทยมีเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวง เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตอนนี้เรามีขั้นตอนแล้ว ต่อไปปัญหาการพนัน หรือ บ่อนข้างบ้านต่างๆ ขายยาเสพติดในหมู่บ้าน แล้วผู้ใหญ่บ้านไม่รู้ ก็ต้องมีมาตรการจัดการ เรื่องเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องจัดการให้เด็ดขาด “เรื่องยาเสพติด เป็นเรื่องที่ผมถือมาก เป็นใคร อ้าย อี คนไหน ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เราไม่ละเว้นแน่นอน” .-สำนักข่าวไทย