สถ. 25 ก.ย.-รมว.มท.มอบโนยายกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น” ย้ำ 10 ข้อที่ต้องทำ เร่งให้ครัวเรือนเข้าถึงน้ำประปาดื่มได้ หนุนกิจกรรมตลาดนัดให้มีเงินหมุนเวียนในชุมชน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้ตรวจเยี่ยมและเป็นประธานมอบนโยบายการขับเคลื่อนงานกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น(สถ.) และการกำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ โดยนายอนุทิน กล่าวว่า ตั้งแต่เข้าปฏิบัติหน้าที่ ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากชาวกระทรวงมหาดไทยและกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ขอให้รับนโยบายจากส่วนกลางไปปฏิบัติ และขอให้ยึดหลักการทำงานต้องทันโลก ทันสมัย ทันท่วงที โลกเปลี่ยนไป ไทยต้องตามให้ทัน และที่สุดแล้ว ประชาชนต้องได้รับการบำบัดทุกข์บำรุงสุข ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นและชาวกระทรวงมหาดไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นโยบายที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกัน และต้องอาศัยกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยในการผลักดัน มีดังนี้ 1. การพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ 2. น้ำดื่มสะอาดฟรี ลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน 3. การลดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าและน้ำมันขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4. พลังงานสะอาด ส่งเสริมให้ครัวเรือนและชุมชนสร้างรายได้จากพลังงานสะอาด 5. จัดระเบียบสังคม ปราบปรามผู้มีอิทธิพล 6. บริการประชาชนแบบ One Stop Service 7. อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว 8. ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาด และการจำหน่าย 9. แก้ไขปัญหายาเสพติด ขอให้ส่งเสริมและสนับสนุนกระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟู 10. สนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณสุขปฐมภูมิ และการเตรียมความพร้อมท้องถิ่นรองรับสังคมผู้สูงอายุ
“ที่เร่งด่วน และต้องเน้นย้ำ คือ เรื่องน้ำประปาดื่มได้ ที่เราต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีค่าครองชีพสูงขึ้นจากการซื้อน้ำดื่ม โดยขอให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นขยายผลให้มีจำนวนครัวเรือนเข้าถึงน้ำสะอาดอย่างครอบคลุมที่สุด อุดช่องโหว่ที่หน่วยงานอื่นไปไม่ถึง นอกจากนั้นถึงเวลาที่เราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชน ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนการจัดกิจกรรมตลาดนัดชุมชน เพื่อเปิดโอกาสให้คนในชุมชนสามารถนำสินค้ามาจำหน่าย และแสวงหาช่องทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเพิ่มโอกาสการจัดจำหน่ายด้วย” นายอนุทิน กล่าว.-สำนักข่าวไทย
