ตั้ง “พิธา” เป็นประธานที่ปรึกษาฯ นำทีมนอกสภาฯ

อาคารไทยซัมมิท 23 ก.ย.- ที่ประชุมพรรคก้าวไกล เคาะ “ชัยธวัช” นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตั้ง “พิธา” เป็นประธานที่ปรึกษาฯ นำทีมนอกสภาฯ ยันปรับทัพชั่วคราว รอ “พิธา” กลับมานั่งหัวหน้าพรรค เตรียมคุย “หมออ๋อง” สัปดาห์หน้า หาข้อสรุปตำแหน่งรองประธานสภาฯ


การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนี้
1.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค
2.นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค
3.นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค
4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
5.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร
6.นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหาร
7.นายเบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร
8.นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร (สัดส่วนปีกแรงงาน)

จากนั้นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้มีมติแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล 3 คน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน ส่วนที่ปรึกษาอีก 2 คน ประกอบด้วย นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต


กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ตั้งนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, พลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เป็นรองหัวหน้าพรรค และตั้งนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นรองเลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ยังมีมติปรับกองโฆษกพรรค แต่งตั้งนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นโฆษกพรรคคนใหม่ โดยมีรองโฆษก 2 คน ได้แก่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และนางสาวภคมน หนุนอนันต์

นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ามีการปรับองคาพยพในหลายส่วน ภาพรวมถือว่าเป็นการปรับทัพชั่วคราวของพรรคก้าวไกล เนื่องจากนึกถึงความจำเป็นทางด้านกฎหมายที่ทำให้นายพิธา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและ สส. ในสภาผู้แทนราษฎรได้ในขณะนี้


นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ ยินดีที่จะลงจากตำแหน่งเมื่อนายพิธาได้กลับมาทำหน้าที่ สส. ในสภาฯ ได้อีกครั้ง ดังนั้น เมื่อเป็นการปรับทัพชั่วคราวในคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมใหญ่ได้เน้นที่จะสลับบทบาทภายในของคณะกรรมการบริหารพรรคเดิมเป็นหลัก มีในส่วนของกรรมการบริหารพรรคดูแลภาคเหนือแทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ได้ลาออกไปทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เท่านั้น ซึ่งตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่จะไปรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพื่อขับเคลื่อนร่วมกับเลขาธิการพรรคคนใหม่

ส่วนการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เพื่อขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุก และขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงนโยบายร่วมกับพี่น้องประชาชนนอกสภาฯ นำโดยนายพิธา กับที่ปรึกษาอีก 2 คน โดยในสภาฯ ตนจะรับภารกิจหลักในฐานะผู้นำฝ่ายค้านคู่ขนานไปกับการทำงานนอกสภาฯ ของนายพิธา ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค

นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อพรรคก้าวไกลตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ให้ได้ ดังนั้น อนาคตของนายปดิพัทธ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธานสภาฯ และเป็น สส.ของพรรคก้าวไกลอยู่นั้น พรรคเข้าใจดีว่าด้วยข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทำให้พรรคไม่สามารถที่จะมี สส. ที่ดำรงตำแหน่งทั้งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาฯ ในเวลาเดียวกันได้

โดยหลังจากนี้ภายในสัปดาห์หน้า ทางคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะหารือในเรื่องนี้กับนายปดิพัทธ์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยจะใช้เวลาให้เร็วที่สุด

ขณะที่นายพิธา กล่าวแสดงความยินดีกับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรคคนใหม่ ตนยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะใช้เวลาเพียงชั่วคราว แต่คิดว่าบริบทและสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีความสำคัญ

“ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่และตนจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน และจะใช้เวลาที่มีลงพื้นที่นอกสภาฯ ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะในประเทศไทย หรือพบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากต่างประเทศ รอเวลาที่จะกลับเข้าสภาฯ และเป็นผู้แทนให้กับประชาชนต่อไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในตนและพรรคก้าวไกล ยืนยันยังทำงานกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเปลี่ยนตำแหน่งแต่ความเข้มข้นของเนื้อหาในการทำงานยังเข้มข้นเหมือนเดิม ขอให้ทุกคนมั่นใจไปกับพรรคก้าวไกล” นายพิธา กล่าว

เลขาธิการพรรค ระบุว่า แม้เป็นการปรับทัพชั่วคราว แต่ประชาชนรอคอยการทำงานของพรรคก้าวไกลอยู่ ดังนั้น ในฐานะฝ่ายค้านเรามีความจำเป็นต้องจัดทัพให้เกิดความเข้มแข็ง วางยุทธศาสตร์ในการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่ทำงานเพื่อประชาชนให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทางพรรคได้วางยุทธศาสตร์การเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกไว้บนพื้นฐานข้อมูลที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ถูกต้อง บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของสมาชิกและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สส.ของพรรคทุกคนรับผิดชอบประเด็นแต่กระทรวง ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น เชื่อว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในการเป็นฝ่ายค้านที่เป็นที่พึ่งของประชาชน และยืนยันตนจะทำงานให้ดีที่สุด

สำหรับภารกิจแรกของการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า จะต้องเชิญพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมาหารือวางแนวทางในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ รวมถึงภารกิจจำเป็นเฉพาะหน้า คือการเสนอชื่อแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน เพื่อให้ประธานสภาฯ ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ให้การทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมีการประสานงานกันอย่างสมบูรณ์ โดยจะเสนอชื่อนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการยอมรับจากฝ่ายค้าน เพราะได้ทำหน้าที่ในการประสานงานในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันการที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าว ประกาศยุติการวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลเป็นสิทธิที่ทุกคนทำได้ และตนในฐานะผู้นำพรรคคนหนึ่ง อยากเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ ติชม หากพรรคก้าวไกลยังมีข้อบกพร่องหรือความผิดพลาดตรงไหน ให้ทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีความกังวล เพราะการติชมและวิพากษ์วิจารณ์จะนำไปสู่การปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น

“มองว่านายปิยบุตร เป็นกำลังสำคัญของการเมืองไทยที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ได้อีกจนกว่าจะครบกำหนด 10 ปี คงต้องพยายามที่จะมีการพูดคุยและอยากให้นายปิยะบุตรใช้ศักยภาพของตัวเองในการเข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไป” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไม่มีรายชื่อคนใหม่เข้ามาแทน ยกเว้นคนที่มาแทนนายปดิพัทธ์ ถือว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะโดนยุบพรรคก็หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีความเสี่ยง เพราะเห็นว่าควรทำการปรับเล็กไปก่อนชั่วคราว ด้วยเหตุจำเป็นของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีการปรับใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน ในการประชุมใหญ่สามัญ ปี 2567 เนื่องจากจะครบ 4 ปี ของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกในหลายขั้นตอน เนื่องจากในครั้งนี้ไม่อยากให้มีการเสนอชื่อในที่ประชุม และต้องการให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับการเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ของนายปดิพัทธ์ พรรคก้าวไกลมีการตรวจสอบให้เกิดความรัดกุมรอบคอบแล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดทางกฎหมาย นายพริษฐ์ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานในฐานะรองประธานสภาฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค โดยนายปดิพัทธ์มีการเชิญในหลายพรรคการเมืองไปร่วมด้วย และนายปดิพัทธ์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายหลังเสร็จสิ้นการดูงานแล้วจะกลับมาชี้แจงถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด เนื่องจากเอกสารที่ออกไปถูกกำหนดระเบียบเพดานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระเบียบของกระทรวงการคลัง ส่วนค่าใช้จ่ายจริงไม่ถึงตัวเลขที่ออกไป เชื่อว่านายปดิพัทธ์จะชี้แจงทั้งหมด ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานที่ดีของการศึกษาดูงานของหน่วยงานภาครัฐ จะต้องชี้แจงทุกบาททุกสตางค์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็น และทางคณะมีความตั้งใจจะสรุปผลการศึกษาดูงานและแผนการดำเนินงานว่าจะนำสิ่งที่ไปศึกษาดูงานมาดำเนินการต่อรัฐสภาอย่างไร เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณที่ใช้ไป

เมื่อสื่อถามย้ำว่าการไปดูงานของนายปดิพัทธ์ได้รับการมอบหมายจากประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกการทำงานของรองประธาน จะได้รับการอนุมัติของจากประธานสภาฯ อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]