ตั้ง “พิธา” เป็นประธานที่ปรึกษาฯ นำทีมนอกสภาฯ

อาคารไทยซัมมิท 23 ก.ย.- ที่ประชุมพรรคก้าวไกล เคาะ “ชัยธวัช” นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตั้ง “พิธา” เป็นประธานที่ปรึกษาฯ นำทีมนอกสภาฯ ยันปรับทัพชั่วคราว รอ “พิธา” กลับมานั่งหัวหน้าพรรค เตรียมคุย “หมออ๋อง” สัปดาห์หน้า หาข้อสรุปตำแหน่งรองประธานสภาฯ


การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนี้
1.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค
2.นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค
3.นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค
4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
5.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร
6.นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหาร
7.นายเบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร
8.นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร (สัดส่วนปีกแรงงาน)

จากนั้นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้มีมติแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล 3 คน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน ส่วนที่ปรึกษาอีก 2 คน ประกอบด้วย นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต


กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ตั้งนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, พลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เป็นรองหัวหน้าพรรค และตั้งนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นรองเลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ยังมีมติปรับกองโฆษกพรรค แต่งตั้งนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นโฆษกพรรคคนใหม่ โดยมีรองโฆษก 2 คน ได้แก่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และนางสาวภคมน หนุนอนันต์

นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ามีการปรับองคาพยพในหลายส่วน ภาพรวมถือว่าเป็นการปรับทัพชั่วคราวของพรรคก้าวไกล เนื่องจากนึกถึงความจำเป็นทางด้านกฎหมายที่ทำให้นายพิธา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและ สส. ในสภาผู้แทนราษฎรได้ในขณะนี้


นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ ยินดีที่จะลงจากตำแหน่งเมื่อนายพิธาได้กลับมาทำหน้าที่ สส. ในสภาฯ ได้อีกครั้ง ดังนั้น เมื่อเป็นการปรับทัพชั่วคราวในคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมใหญ่ได้เน้นที่จะสลับบทบาทภายในของคณะกรรมการบริหารพรรคเดิมเป็นหลัก มีในส่วนของกรรมการบริหารพรรคดูแลภาคเหนือแทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ได้ลาออกไปทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เท่านั้น ซึ่งตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่จะไปรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพื่อขับเคลื่อนร่วมกับเลขาธิการพรรคคนใหม่

ส่วนการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เพื่อขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุก และขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงนโยบายร่วมกับพี่น้องประชาชนนอกสภาฯ นำโดยนายพิธา กับที่ปรึกษาอีก 2 คน โดยในสภาฯ ตนจะรับภารกิจหลักในฐานะผู้นำฝ่ายค้านคู่ขนานไปกับการทำงานนอกสภาฯ ของนายพิธา ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค

นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อพรรคก้าวไกลตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ให้ได้ ดังนั้น อนาคตของนายปดิพัทธ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธานสภาฯ และเป็น สส.ของพรรคก้าวไกลอยู่นั้น พรรคเข้าใจดีว่าด้วยข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทำให้พรรคไม่สามารถที่จะมี สส. ที่ดำรงตำแหน่งทั้งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาฯ ในเวลาเดียวกันได้

โดยหลังจากนี้ภายในสัปดาห์หน้า ทางคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะหารือในเรื่องนี้กับนายปดิพัทธ์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยจะใช้เวลาให้เร็วที่สุด

ขณะที่นายพิธา กล่าวแสดงความยินดีกับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรคคนใหม่ ตนยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะใช้เวลาเพียงชั่วคราว แต่คิดว่าบริบทและสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีความสำคัญ

“ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่และตนจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน และจะใช้เวลาที่มีลงพื้นที่นอกสภาฯ ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะในประเทศไทย หรือพบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากต่างประเทศ รอเวลาที่จะกลับเข้าสภาฯ และเป็นผู้แทนให้กับประชาชนต่อไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในตนและพรรคก้าวไกล ยืนยันยังทำงานกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเปลี่ยนตำแหน่งแต่ความเข้มข้นของเนื้อหาในการทำงานยังเข้มข้นเหมือนเดิม ขอให้ทุกคนมั่นใจไปกับพรรคก้าวไกล” นายพิธา กล่าว

เลขาธิการพรรค ระบุว่า แม้เป็นการปรับทัพชั่วคราว แต่ประชาชนรอคอยการทำงานของพรรคก้าวไกลอยู่ ดังนั้น ในฐานะฝ่ายค้านเรามีความจำเป็นต้องจัดทัพให้เกิดความเข้มแข็ง วางยุทธศาสตร์ในการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่ทำงานเพื่อประชาชนให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทางพรรคได้วางยุทธศาสตร์การเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกไว้บนพื้นฐานข้อมูลที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ถูกต้อง บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของสมาชิกและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สส.ของพรรคทุกคนรับผิดชอบประเด็นแต่กระทรวง ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น เชื่อว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในการเป็นฝ่ายค้านที่เป็นที่พึ่งของประชาชน และยืนยันตนจะทำงานให้ดีที่สุด

สำหรับภารกิจแรกของการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า จะต้องเชิญพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมาหารือวางแนวทางในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ รวมถึงภารกิจจำเป็นเฉพาะหน้า คือการเสนอชื่อแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน เพื่อให้ประธานสภาฯ ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ให้การทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมีการประสานงานกันอย่างสมบูรณ์ โดยจะเสนอชื่อนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการยอมรับจากฝ่ายค้าน เพราะได้ทำหน้าที่ในการประสานงานในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันการที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าว ประกาศยุติการวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลเป็นสิทธิที่ทุกคนทำได้ และตนในฐานะผู้นำพรรคคนหนึ่ง อยากเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ ติชม หากพรรคก้าวไกลยังมีข้อบกพร่องหรือความผิดพลาดตรงไหน ให้ทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีความกังวล เพราะการติชมและวิพากษ์วิจารณ์จะนำไปสู่การปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น

“มองว่านายปิยบุตร เป็นกำลังสำคัญของการเมืองไทยที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ได้อีกจนกว่าจะครบกำหนด 10 ปี คงต้องพยายามที่จะมีการพูดคุยและอยากให้นายปิยะบุตรใช้ศักยภาพของตัวเองในการเข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไป” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไม่มีรายชื่อคนใหม่เข้ามาแทน ยกเว้นคนที่มาแทนนายปดิพัทธ์ ถือว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะโดนยุบพรรคก็หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีความเสี่ยง เพราะเห็นว่าควรทำการปรับเล็กไปก่อนชั่วคราว ด้วยเหตุจำเป็นของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีการปรับใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน ในการประชุมใหญ่สามัญ ปี 2567 เนื่องจากจะครบ 4 ปี ของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกในหลายขั้นตอน เนื่องจากในครั้งนี้ไม่อยากให้มีการเสนอชื่อในที่ประชุม และต้องการให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับการเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ของนายปดิพัทธ์ พรรคก้าวไกลมีการตรวจสอบให้เกิดความรัดกุมรอบคอบแล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดทางกฎหมาย นายพริษฐ์ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานในฐานะรองประธานสภาฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค โดยนายปดิพัทธ์มีการเชิญในหลายพรรคการเมืองไปร่วมด้วย และนายปดิพัทธ์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายหลังเสร็จสิ้นการดูงานแล้วจะกลับมาชี้แจงถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด เนื่องจากเอกสารที่ออกไปถูกกำหนดระเบียบเพดานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระเบียบของกระทรวงการคลัง ส่วนค่าใช้จ่ายจริงไม่ถึงตัวเลขที่ออกไป เชื่อว่านายปดิพัทธ์จะชี้แจงทั้งหมด ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานที่ดีของการศึกษาดูงานของหน่วยงานภาครัฐ จะต้องชี้แจงทุกบาททุกสตางค์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็น และทางคณะมีความตั้งใจจะสรุปผลการศึกษาดูงานและแผนการดำเนินงานว่าจะนำสิ่งที่ไปศึกษาดูงานมาดำเนินการต่อรัฐสภาอย่างไร เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณที่ใช้ไป

เมื่อสื่อถามย้ำว่าการไปดูงานของนายปดิพัทธ์ได้รับการมอบหมายจากประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกการทำงานของรองประธาน จะได้รับการอนุมัติของจากประธานสภาฯ อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ลิณธิภรณ์” แจงปมสะกดคำผิด ยอมรับผิดพลาดพร้อมแก้ไข

กระทรวงวัฒนธรรม 4 ก.ค.- “ลิณธิภรณ์” ยอมรับดรามาใช้ภาษาไทยสะกดคำผิด พร้อมแก้ไขปรับปรุงตัว รับปากจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก บอก บางครั้งรีบพิมพ์ไม่ได้ตรวจทาน ทำเกิดผลเสียทุกวันนี้ แจงมีปัญหาสุขภาพ อาจทำให้ออกเสียงควบกล้ำไม่ได้ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ถึงดรามาเรื่องการใช้ภาษาไทยในโซเชียลมีเดีย ว่า ตนขอยอมรับอย่างซื่อตรง ว่าบางครั้งในการสะกดคำของตนเองก็มีความผิดพลาด ซึ่งบางครั้งใช้การพิมพ์ด้วยเสียงผ่านโทรศัพท์มือถือ และได้โพสต์ข้อความไปแล้ว ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีก็ผ่านไป 2-3 ชั่วโมง มันเป็นความผิดพลาด อันนี้ตนยอมรับด้วยความจริงใจ และวันนี้ตนก็เข้าใจดีว่าเมื่อมานั่งตำแหน่งตรงนี้ สิ่งที่จำเป็นต้องทำ คือต้องปรับปรุง และคิดว่าหลังจากนี้ความผิดพลาดเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะตนก็อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ของประเทศเหมือนกัน รวมถึงอีกสิ่งที่ตนอยากจะบอกคือการออกเสียงควบกล้ำ ซึ่งเป็นผลกระทบ จากปัญหาสุขภาพ แต่ส่วนหนึ่งตนก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในภาพนโยบายใหญ่ คงต้องขึ้นอยู่กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยใน รายละเอียดที่ชัดเจน และจะเข้ากระทรวงพร้อมกันในวันที่ 8 กรกฎาคม สำหรับตนหากใครที่เคยติดตาม ก็เคยเป็นคนหนึ่งที่ พูดเรื่องการศึกษาในส่วนของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นโฆษกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะเรื่องการลดค่าสอบทีแคส (TCAS) รวมถึงเรื่องการทำโครงการ ด้านสุขภาพภาวะจิต และอาจจะเป็นโครงการหนึ่งที่ตนจะสานต่อ […]

มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ที่บราซิล

ทำเนียบ 3 ก.ค.-มอบ “จิราพร” เข้าร่วมประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 17 ที่บราซิล 6-7 ก.ค.นี้ นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 6 – 7 กรกฎาคม 2568 ร่วมกับผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิกกลุ่ม BRICS และประเทศหุ้นส่วนจากหลากหลายประเทศ ที่นครรีโอเดจาเนโร สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล โดยไทยเข้าร่วมในฐานะประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS (Partner Country) สำหรับการประชุมผู้นำกลุ่ม BRICS จะจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “เสริมสร้างความร่วมมือโลกใต้เพื่อการสร้างธรรมาภิบาลที่ครอบคลุมและยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยบราซิลในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ปีนี้ ให้ความสำคัญกับประเด็นหลัก 6 ด้าน ได้แก่ (1) สาธารณสุข (2) การค้า การลงทุน และการเงิน (3) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (4) ธรรมาภิบาลของปัญญาประดิษฐ์ […]

Hun Sen, at event marking ruling party's 74th founding anniversary

ฮุน เซน เรียกร้องปั๊ม ปตท. งดนำเข้าน้ำมันจากไทย

พนมเปญ 3 ก.ค.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ยังคงเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเรียกร้องให้เจ้าของปั๊ม ปตท.เลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน สื่อของกัมพูชารายงานว่า นายฮุน เซน พูดถึงเรื่องนี้ในระหว่างการประชุมกับครูและนักเรียนที่ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมในจังหวัดไพรแวงในวันนี้ เรียกร้องให้เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท.ทุกแห่งในกัมพูชาเลิกนำเข้าน้ำมันจากไทย และหันไปนำเข้าน้ำมันจากประเทศอื่น ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นจากเวียดนาม  มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อปั๊ม แม้ว่า ปตท.จะเป็นรัฐวิสาหกิจของไทยก็ตาม นอกจากนี้นายฮุน เซนยังพูดถึงเรื่องที่ไทยเคยขู่ว่าจะตัดไฟฟ้า ตัดอินเทอร์เน็ต ห้ามขายเชื้อเพลิง และอื่นๆ ให้กัมพูชาด้วยว่า เมื่อไทยขู่มากัมพูชาก็ตอบโต้ทันที กัมพูชาต้องพึ่งพาตนเองให้ได้เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในอนาคตเหมือนกับที่กำลังเผชิญจากไทยในเวลานี้ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากไทย แต่กัมพูชาก็ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองได้ของกัมพูชา ประธานวุฒิสภากัมพูชาเน้นย้ำว่า มาตรการทั้งหมดที่กัมพูชาได้ดำเนินไปนั้นเป็นการตอบโต้โดยตรงกับภัยคุกคามจากฝ่ายไทย รวมทั้งการที่ไทยปิดด่านพรมแดนแต่เพียงฝ่ายเดียว เขาแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า การเจรจากับไทยจะเริ่มขึ้นได้ ต่อเมื่อฝ่ายไทยจะต้องยอมเปิดด่านทุกจุดอย่างเต็มรูปแบบเหมือนที่เคยทำก่อนวันที่ 7 มิถุนายนแล้วเท่านั้น.-816(814).-สำนักข่าวไทย

เปิด 7 จุดยืน “ปชน.” ทางออกประเทศหาก “แพทองธาร” พ้นเก้าอี้

กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “แพทองธาร” พ้นตำแหน่ง เปิดเงื่อนไขโหวตนายกฯ คนใหม่ พรรคประชาชนโพสต์เฟซบุ๊กแสดง 7 จุดยืน หาก “นายกฯ แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง เพื่อนำพาประเทศไปสู่ทางออกที่จะเป็นประโยชน์ที่สุดสำหรับประชาชนทุกคน ดังนี้ 1.สิ่งที่ประเทศต้องการมากที่สุด คือรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ มีความชอบธรรม และสามารถตั้งทีมบริหารจากความรู้ความสามารถ ไม่ใช่จากการต่อรองผลประโยชน์ทางการเมือง2.รัฐบาลที่จะมีคุณสมบัติดังกล่าวจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้จากสภาชุดปัจจุบัน ทางออกสำหรับประเทศจึงเป็นการจัดให้มี “การเลือกตั้งใหม่” โดยเร็ว3.รักษาการนายกฯ ควรประกาศให้ชัดเจนว่าจะใช้อำนาจที่ตนเองมี ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชนผ่านคูหาเลือกตั้ง4.หากรักษาการนายกฯ ไม่ทำ และมีเหตุใดที่ทำให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พ้นจากตำแหน่ง กระบวนการในการเลือกนายกฯ คนใหม่ จะต้องนำไปสู่การได้มาซึ่งนายกฯ ที่พร้อมเดินหน้าสู่การยุบสภา5.เพื่อให้ประเทศไม่ถูกบีบไปสู่ทางตันหรือการใช้อำนาจนอกครรลองประชาธิปไตย เราพร้อมจะพิจารณาลงมติให้กับผู้เสนอตัวเป็นนายกฯ คนใหม่คนใดก็ตาม ที่ยอมรับ “เงื่อนไข” ในการเป็นรัฐบาลชั่วคราว โดยทางพรรคประชาชนจะไม่เข้าร่วมรัฐบาลและจะไม่มีใครจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรี 6.“เงื่อนไข” ในการเดินหน้าสู่การยุบสภา สำหรับนายกฯ คนใหม่ จะต้องประกอบไปด้วยอย่างน้อย6.1 การประกาศเส้นตายว่าจะยุบสภาภายในสิ้นปี6.2 การยืนยันภารกิจเฉพาะหน้าที่จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว (เช่น การดำเนินการให้มีการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้ง เพื่อถามประชาชนเรื่องการมี […]

ข่าวแนะนำ

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

เด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่

กทม. 5 ก.ค. – สั่งเด้ง 5 เสือ สน.บางเขน เซ่นจับบ่อนสะพานใหม่ ขณะที่เช้านี้เจ้าหน้าที่คุมตัว 72 นักพนัน ไปฝากขังศาลแขวงดอนเมือง พบส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ สุภาอ้วน รอง ผบก.น.2 รรท.ผบก.น.2 ลงนามในคำสั่ง กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ที่ 183/2568 เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเมื่อวันที่ 4 ก.ค.68 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าทำการสืบสวนสถานที่ต้องสงสัย ซึ่งคาดว่าเป็นบ่อนการพนัน บริเวณอาคารพาณิชย์ กลางซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 แขวงคลงถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร และได้จับกุมผู้ต้องหากับพวกในข้อหา “ร่วมกันเป็นผู้จัดให้มีการเล่นการพนันไฮโล เพื่อพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยไม่ได้รับอนุญาต”และ “ร่วมกันเข้าเล่นหรือเล่นการพนันโฮโลเพื่อพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของสน.บางเขน เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และเรียบร้อย […]

ค้นบ้านพักสีกา คนสนิท “ทิดอาชว์” พบจีวรหลายผืน

กทม. 5 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” รับเมื่อวาน ปปป. พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลค้นบ้านพักสีกา ก.ไก่ คนสนิท “ทิดอาชว์” อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ พบภายในบ้านมีจีวรหลายผืน เวลา 10.00 น. พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้า การสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับวัดตรีทศเทพ ว่าเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านดังของสีกาไฮโซ อักษรย่อ ก.ไก่ หญิงสาวคนสนิทของทิดอาชว์ เพื่อค้นหาพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำสีกาคนดังกล่าว จากการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบพยานหลักฐานจำนวนหนึ่ง โดย 1 ในนั้นเป็นจีวรพระหลายพื้น แต่จะเป็นของพระรูปไหนอย่างไร ยังไม่ทราบ เพราะเจ้าตัวยังไม่เปิดเผย จากการสอบปากคำสีกา ก. ให้การเป็นประโยชน์เป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายผลนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนคดีทุจริตในอนาคตได้ นอกจากนี้ สีกาไฮโซ ก. ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นให้ความร่วมมือในทิศทางที่ดี อย่างไรก็ตาม หลังหมดเวลาตรวจค้น 18.00 น. เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว […]

‘ทรัมป์’ ฉลองวันชาติสหรัฐด้วยการลงนามร่างกฎหมายสำคัญ

วอชิงตัน 5 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เมลาเนีย ทรัมป์ ได้ร่วมฉลองวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐเมื่อวานนี้ ด้วยการแสดงพลุไฟตระการตาเหนือน่านฟ้ากรุงวอชิงตัน นายทรัมป์จัดพิธีฉลองวันชาติที่สนามหญ้าด้านทิศใต้ของทำเนียบขาวในวันหยุดเพื่อรำลึกวันประกาศอิสรภาพ 4 กรกฎาคม โดยมีการแสดงการบินของเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหนและเครื่องบินขับไล่ คล้ายกับที่เครื่องบินที่ใช้ในการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้สนับสนุนนายทรัมป์หลายร้อยคนเข้าร่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว สมาชิกสภาคองเกรส และครอบครัวทหาร ก่อนหน้านั้น นายทรัมป์ลงนามบังคับใช้ แพ็กเกจกฎหมายขนาดใหญ่ว่าด้วยการลดภาษีและการใช้จ่าย ในพิธีที่จัดขึ้นที่ทำเนียบขาว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ได้อนุมัติร่างกฎหมายสำคัญนี้ไปอย่างฉิวเฉียด ซึ่งถือเป็นกฎหมายสำคัญประจำวาระที่สองของรัฐบาลทรัมป์ ร่างกฎหมายฉบับนี้จะใช้เพื่อเป็นเงินทุนสำหรับการปราบปรามการเข้าเมืองของนายทรัมป์ ทำให้การลดภาษีในปี 2017 ของเขาเป็นไปแบบถาวร และคาดว่าจะทำให้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนถูกตัดสิทธิ์จากการประกันสุขภาพ โดยร่างกฎหมายผ่านสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 218 ต่อ 214 หลังจากการอภิปรายที่เข้มข้นในสภา การผ่านร่างกฎหมายนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับทรัมป์และพันธมิตรพรรครีพับลิกัน ซึ่งโต้แย้งว่ากฎหมายจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็มองข้ามการวิเคราะห์ที่เป็นกลางซึ่งคาดการณ์ว่ากฎหมายจะเพิ่ม หนี้ของประเทศอีกกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ จากหนี้ปัจจุบันที่ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าสมาชิกสภาบางคนจากพรรคของนายทรัมป์จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนของร่างกฎหมายและผลกระทบต่อโครงการดูแลสุขภาพ แต่สุดท้ายแล้วมีเพียง ส.ส. รีพับลิกันเพียงสองคนจากทั้งหมด 220 […]