ตั้ง “พิธา” เป็นประธานที่ปรึกษาฯ นำทีมนอกสภาฯ

อาคารไทยซัมมิท 23 ก.ย.- ที่ประชุมพรรคก้าวไกล เคาะ “ชัยธวัช” นั่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ ตั้ง “พิธา” เป็นประธานที่ปรึกษาฯ นำทีมนอกสภาฯ ยันปรับทัพชั่วคราว รอ “พิธา” กลับมานั่งหัวหน้าพรรค เตรียมคุย “หมออ๋อง” สัปดาห์หน้า หาข้อสรุปตำแหน่งรองประธานสภาฯ


การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคก้าวไกล วาระสำคัญคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ลาออกจากหัวหน้าพรรค เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมมีมติเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ดังนี้
1.นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค
2.นายอภิชาติ ศิริสุนทร เลขาธิการพรรค
3.นางสาวณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ เหรัญญิกพรรค
4.นายณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล นายทะเบียนสมาชิกพรรค
5.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร กรรมการบริหาร
6.นายอภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์ กรรมการบริหาร
7.นายเบญจา แสงจันทร์ กรรมการบริหาร
8.นายสุเทพ อู่อ้น กรรมการบริหาร (สัดส่วนปีกแรงงาน)

จากนั้นกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้มีมติแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล 3 คน โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นประธาน ส่วนที่ปรึกษาอีก 2 คน ประกอบด้วย นายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร ทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และนายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการศูนย์นโยบายเพื่ออนาคต


กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ได้ตั้งนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์, นายณัฐวุฒิ บัวประทุม, พลตำรวจตรีสุพิศาล ภักดีนฤนาถ นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล เป็นรองหัวหน้าพรรค และตั้งนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ, นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นรองเลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ยังมีมติปรับกองโฆษกพรรค แต่งตั้งนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นโฆษกพรรคคนใหม่ โดยมีรองโฆษก 2 คน ได้แก่ นายกรุณพล เทียนสุวรรณ และนางสาวภคมน หนุนอนันต์

นายชัยธวัช กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ามีการปรับองคาพยพในหลายส่วน ภาพรวมถือว่าเป็นการปรับทัพชั่วคราวของพรรคก้าวไกล เนื่องจากนึกถึงความจำเป็นทางด้านกฎหมายที่ทำให้นายพิธา แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล ยังไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านและ สส. ในสภาผู้แทนราษฎรได้ในขณะนี้


นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ ยินดีที่จะลงจากตำแหน่งเมื่อนายพิธาได้กลับมาทำหน้าที่ สส. ในสภาฯ ได้อีกครั้ง ดังนั้น เมื่อเป็นการปรับทัพชั่วคราวในคณะกรรมการบริหารพรรค ที่ประชุมใหญ่ได้เน้นที่จะสลับบทบาทภายในของคณะกรรมการบริหารพรรคเดิมเป็นหลัก มีในส่วนของกรรมการบริหารพรรคดูแลภาคเหนือแทนนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ได้ลาออกไปทำหน้าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 1 เท่านั้น ซึ่งตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่จะไปรับตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ เพื่อขับเคลื่อนร่วมกับเลขาธิการพรรคคนใหม่

ส่วนการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เพื่อขับเคลื่อนการทำงานเชิงรุก และขับเคลื่อนวาระการเปลี่ยนแปลงนโยบายร่วมกับพี่น้องประชาชนนอกสภาฯ นำโดยนายพิธา กับที่ปรึกษาอีก 2 คน โดยในสภาฯ ตนจะรับภารกิจหลักในฐานะผู้นำฝ่ายค้านคู่ขนานไปกับการทำงานนอกสภาฯ ของนายพิธา ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค

นายชัยธวัช กล่าวว่า เมื่อพรรคก้าวไกลตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอย่างสมบูรณ์ให้ได้ ดังนั้น อนาคตของนายปดิพัทธ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองประธานสภาฯ และเป็น สส.ของพรรคก้าวไกลอยู่นั้น พรรคเข้าใจดีว่าด้วยข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ทำให้พรรคไม่สามารถที่จะมี สส. ที่ดำรงตำแหน่งทั้งผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาฯ ในเวลาเดียวกันได้

โดยหลังจากนี้ภายในสัปดาห์หน้า ทางคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะหารือในเรื่องนี้กับนายปดิพัทธ์ เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยจะใช้เวลาให้เร็วที่สุด

ขณะที่นายพิธา กล่าวแสดงความยินดีกับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค โฆษกพรรคคนใหม่ ตนยินดีที่จะสนับสนุนการทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะใช้เวลาเพียงชั่วคราว แต่คิดว่าบริบทและสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้มีความสำคัญ

“ขอให้ทุกคนทำงานอย่างเต็มที่และตนจะสนับสนุนอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน และจะใช้เวลาที่มีลงพื้นที่นอกสภาฯ ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะในประเทศไทย หรือพบปะกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากต่างประเทศ รอเวลาที่จะกลับเข้าสภาฯ และเป็นผู้แทนให้กับประชาชนต่อไป ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในตนและพรรคก้าวไกล ยืนยันยังทำงานกันเป็นทีม ไม่ว่าจะเปลี่ยนตำแหน่งแต่ความเข้มข้นของเนื้อหาในการทำงานยังเข้มข้นเหมือนเดิม ขอให้ทุกคนมั่นใจไปกับพรรคก้าวไกล” นายพิธา กล่าว

เลขาธิการพรรค ระบุว่า แม้เป็นการปรับทัพชั่วคราว แต่ประชาชนรอคอยการทำงานของพรรคก้าวไกลอยู่ ดังนั้น ในฐานะฝ่ายค้านเรามีความจำเป็นต้องจัดทัพให้เกิดความเข้มแข็ง วางยุทธศาสตร์ในการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่ทำงานเพื่อประชาชนให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยทางพรรคได้วางยุทธศาสตร์การเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกไว้บนพื้นฐานข้อมูลที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลที่ถูกต้อง บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของสมาชิกและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สส.ของพรรคทุกคนรับผิดชอบประเด็นแต่กระทรวง ติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มข้น เชื่อว่าจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในการเป็นฝ่ายค้านที่เป็นที่พึ่งของประชาชน และยืนยันตนจะทำงานให้ดีที่สุด

สำหรับภารกิจแรกของการเป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า จะต้องเชิญพรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคมาหารือวางแนวทางในการทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ รวมถึงภารกิจจำเป็นเฉพาะหน้า คือการเสนอชื่อแต่งตั้งวิปฝ่ายค้าน เพื่อให้ประธานสภาฯ ได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ให้การทำงานในสภาผู้แทนราษฎรมีการประสานงานกันอย่างสมบูรณ์ โดยจะเสนอชื่อนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล เป็นประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งเชื่อว่าจะได้รับการยอมรับจากฝ่ายค้าน เพราะได้ทำหน้าที่ในการประสานงานในช่วงที่ผ่านมา แต่ต้องรอการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันการที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าว ประกาศยุติการวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช กล่าวว่า การวิพากษ์วิจารณ์พรรคก้าวไกลเป็นสิทธิที่ทุกคนทำได้ และตนในฐานะผู้นำพรรคคนหนึ่ง อยากเชิญชวนให้ทุกคนช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ ติชม หากพรรคก้าวไกลยังมีข้อบกพร่องหรือความผิดพลาดตรงไหน ให้ทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีความกังวล เพราะการติชมและวิพากษ์วิจารณ์จะนำไปสู่การปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น

“มองว่านายปิยบุตร เป็นกำลังสำคัญของการเมืองไทยที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในอนาคต แม้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ได้อีกจนกว่าจะครบกำหนด 10 ปี คงต้องพยายามที่จะมีการพูดคุยและอยากให้นายปิยะบุตรใช้ศักยภาพของตัวเองในการเข้าร่วมการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต่อไป” นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนที่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ไม่มีรายชื่อคนใหม่เข้ามาแทน ยกเว้นคนที่มาแทนนายปดิพัทธ์ ถือว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่จะโดนยุบพรรคก็หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่มีความเสี่ยง เพราะเห็นว่าควรทำการปรับเล็กไปก่อนชั่วคราว ด้วยเหตุจำเป็นของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ส่วนจะมีการปรับใหญ่อีกครั้งในช่วงเดือนเมษายน ในการประชุมใหญ่สามัญ ปี 2567 เนื่องจากจะครบ 4 ปี ของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกในหลายขั้นตอน เนื่องจากในครั้งนี้ไม่อยากให้มีการเสนอชื่อในที่ประชุม และต้องการให้สมาชิกได้มีส่วนร่วมให้มากที่สุด เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับการเดินทางไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ของนายปดิพัทธ์ พรรคก้าวไกลมีการตรวจสอบให้เกิดความรัดกุมรอบคอบแล้วหรือไม่ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดทางกฎหมาย นายพริษฐ์ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานในฐานะรองประธานสภาฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรค โดยนายปดิพัทธ์มีการเชิญในหลายพรรคการเมืองไปร่วมด้วย และนายปดิพัทธ์ได้ให้คำมั่นสัญญาว่าภายหลังเสร็จสิ้นการดูงานแล้วจะกลับมาชี้แจงถึงรายละเอียดค่าใช้จ่ายทั้งหมด เนื่องจากเอกสารที่ออกไปถูกกำหนดระเบียบเพดานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับระเบียบของกระทรวงการคลัง ส่วนค่าใช้จ่ายจริงไม่ถึงตัวเลขที่ออกไป เชื่อว่านายปดิพัทธ์จะชี้แจงทั้งหมด ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานที่ดีของการศึกษาดูงานของหน่วยงานภาครัฐ จะต้องชี้แจงทุกบาททุกสตางค์ให้พี่น้องประชาชนได้เห็น และทางคณะมีความตั้งใจจะสรุปผลการศึกษาดูงานและแผนการดำเนินงานว่าจะนำสิ่งที่ไปศึกษาดูงานมาดำเนินการต่อรัฐสภาอย่างไร เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณที่ใช้ไป

เมื่อสื่อถามย้ำว่าการไปดูงานของนายปดิพัทธ์ได้รับการมอบหมายจากประธานสภาฯ ใช่หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ทุกการทำงานของรองประธาน จะได้รับการอนุมัติของจากประธานสภาฯ อยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย