ถกแบ่งโควตา “กมธ.” 35 คณะลงตัว ไม่ต้องจับสลาก

รัฐสภา 21 ก.ย.- จบแล้ว! แบ่งโควตา “กมธ.” 35 คณะลงตัว ไม่ต้องจับสลาก ทุกพรรคการเมืองยอมถอยคนละก้าว ประชุมนัดแรก 28 ก.ย.นี้


ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 13.40 น. มีการประชุมร่วมผู้แทนพรรคการเมือง ในพิจารณาการตั้งกรรมาธิการสามัญ ประจำสภาผู้แทนราษฎร โดยนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นประธานในการประชุม บรรยากาศในการประชุมเป็นไปด้วยความตึงเครียด ผู้แทนของแต่ละพรรคได้เสนอแนวทางต่างๆ โดยในที่ประชุมประธานได้เตรียมกล่องสุ่ม 2 ใบ ที่บรรจุลูกบอล 8 ลูก เพื่อเป็นทางออก หากไม่สามารถหาข้อยุติในการแบ่งกรรมาธิการฯ อย่างไรก็ตาม การแบ่ง กมธ. ทั้ง 35 ชุด ก็ผ่านไปได้ด้วยการถอยคนละก้าวของแต่ละพรรคการเมือง

โดยนายนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ได้พูดคุยกันนอกรอบ วันนี้ตนอยากจะให้ทุกพรรคถอยกันคนละก้าว ถ้าเราถอยกันก็จะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้


ขณะที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคก้าวไกลกล่าวเห็นด้วยกับนายวิสุทธิ์ ว่าเราควรถอยกันคนละก้าว แต่อยากให้สมาชิกย้อนไปดูเอกสารที่เจ้าหน้าที่ได้จัดทำไว้ เพื่อเป็นการยืนยันจำนวน สส.ของพรรคก้าวไกล ในการคำนวณ จำนวนคณะกรรมาธิการที่พรรคก้าวไกลจะได้รับ โดยยังมีชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ยังไม่ถูกตัดสิทธิ และสส.ระยอง คือนายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ที่เป็น สส.ใหม่ จึงยืนยันว่าตัวเลขกรรมาธิการของพรรคก้าวไกลจะต้องมี 11 คณะ

ภายหลังจากที่ได้มีการประชุมผ่านไปประมาณ 30 นาที ก็ได้มีการพักการประชุม เนื่องจากพรรคการเมืองไม่อยากใช้วิธีการจับสลากตำแหน่งประธานกรรมการ จึงเปิดโอกาสให้ พรรคการเมืองที่จะตกลงประธานกรรมาธิการกันไม่ได้ ประกอบด้วยพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาปัตย์ ได้พูดคุยตกลงกัน

จากนั้นภายหลังจากที่มีการพูดคุยของแต่ละพรรคการเมือง เกือบ 1 ชั่วโมง และยังไม่ได้ข้อสรุป ในเวลา 15.17 น. นายพิเชษฐ์ ได้เข้าไปร่วมวงการพูดคุยด้วย จนถึงเวลา 15.35 น.ได้ยุติการพูดคุย แล้วกลับเข้าไปในห้องประชุมเพื่อประชุมต่อ หลังจากพักการมาประชุมให้มีการพูดคุยกัน กว่า 1 ชั่วโมง


นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึง การพูดคุยกัน ว่า บรรยากาศในการพูดคุยเป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งมี กมธ. 2 คณะที่ยังตกลงกันไม่ได้ระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทย คือ กมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ และกมธ.แรงงาน ส่วน กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้แสดงเจตจำนงว่าต้องการที่จะได้ประธานใน กมธ.นี้

จากนั้นพรรคภูมิใจไทยและพรรคก้าวไกล ได้ออกมาพูดคุยเพิ่มเติมกันอีกครั้ง ซึ่งใช้เวลาไม่นานก่อนจะกลับเข้าไปประชุมต่อ

หลังประชุมกรรมาธิการจบลง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เรื่องแบ่งคณะกรรมาธิการจบด้วยดี ทุกพรรคการเมืองถอยคนละก้าว ในวันที่ 27 ก.ย. ทุกพรรคจะเสนอรายชื่อเข้าทั้ง 35 คณะ ในการจัดตั้งกรรมาธิการ หลังจากนั้น ในวันที่ 28 ก.ย. จะเป็นการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการ ตั้งแต่ประธาน รองประธาน เลขาธิการ โฆษก และอื่นๆ ถือว่าสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

“กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เป็นของพรรคเพื่อไทย กมธ.แรงงาน เป็นของพรรคภูมิใจไทย พรรคภูมิใจไทยได้ กมธ. 5 ชุด พรรคก้าวไกลได้ กมธ. 11 ชุด ตนเชื่อ กมธ. ในแต่ละชุด ทุกพรรคการเมืองจะสามารถทำงานร่วมกันได้” นายพิเชษฐ์ กล่าว

ขณะที่นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ 2 คณะครึ่ง คือกมธ.พลังงาน และกมธ.อุตสาหกรรม ส่วนอีก 1 กมธ.คือ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชนและกองทุน ซึ่งต้องแบ่งกับพรรคก้าวไกล คนละครึ่ง เนื่องจากติดในเรื่องข้อกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม คือจะเป็น กมธ.คนละ 2 ปีหรือปีเว้นปี ซึ่งจะต้องมาพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานผลสรุปออกมาดังนี้

  • พรรคก้าวไกล จำนวน 11 คณะ
  1. กมธ.ศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ
  2. กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
  3. กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ
  4. กมธ.การสวัสดิการสังคม
  5. กมธ.การทหาร
  6. กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย
  7. กมธ.ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ
  8. กมธ.ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
  9. กมธ.การวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม
  10. กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน
  11. กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภค
  • พรรคเพื่อไทย จำนวน 10 คณะ
  1. กมธ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ
  2. กมธ.การคมนาคม
  3. กมธ.การท่องเที่ยว
  4. กมธ.การสาธารณสุข
  5. กมธ.การต่างประเทศ
  6. กมธ.การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม
  7. กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร
  8. กมธ.การสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
  9. กมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด
  10. กมธ.การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน
  • พรรคภูมิในไทย จำนวน 5 คณะ
  1. กมธ.การศึกษา
  2. กมธ.การกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น และการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ
  3. กมธ.การปกครอง
  4. กมธ.การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย
  5. กมธ.การแรงงาน
  • พรรคพลังประชารัฐ จำนวน 3 คณะ
  1. กมธ.การกีฬา
  2. กมธ.แก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ
  3. กมธ.แก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม
  • พรรครวมไทยสร้างชาติ จำนวน 2 คณะ
  1. กมธ.การพลังงาน
  2. กมธ.การอุตสาหกรรม
  • พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 2 คณะ
  1. กมธ.การพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา
  2. กมธ.การตำรวจ
  • พรรคชาติไทยพัฒนา จำนวน 1 คณะ
  1. กมธ.กิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ
  • พรรคประชาชาติ จำนวน 1 คณะ
  1. กมธ.การกฏหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

“นายกฯ หนู” ล้อมวงเพื่อนทหารกินร้านโปรดหน้าวัดไตรมิตรฯ

กทม 10 ก.ย.- “นายกฯ หนู” ควงภรรยา กินร้านโปรด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หน้าวัดไตรมิตรฯ ล้อมวงเพื่อนทหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยภรรยา เดินทางไปรับประทานร้านโปรด ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา หน้าวัดไตรมิตรฯ โดยมี พล.ท.สุเมธ พรหมตรุษ ผบ.ศตก. ว่าที่ ผบ.ศรภ. ที่ต้องรับผิดชอบการดูแล รปภ. นายกฯ ตามระเบียบ และพลตรี สราวุธ ไชยสิทธิ์ รองแม่ทัพภาค1 ว่าที่ แม่ทัพน้อย1 ที่สนิทสนมกันมานาน และ “นายกฯ ด๊อยซ์” อัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ร่วมโต๊ะด้วย -สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]

นายกฯ บอกไม่รู้ “สันติ” ขาดคุณสมบัตินั่งรัฐมนตรี

พรรคภูมิใจไทย 9 ก.ย.-นายกฯ บอกไม่รู้ “สันติ” ขาดคุณสมบัตินั่งรัฐมนตรี ส่วน “วรภัค” ถูก ป.ป.ช.กล่าวหา ขอรอฟัง เลขาฯ ครม. ยันถ้าเป็นไม่ได้ ก็เป็นไม่ได้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี นั้น นายอนุทิน ถึงกับร้องหึ้ย ตนยังไม่ทราบ ท่านเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะแจ้งมาหากใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ และชัดเจนว่าหากใครมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ ก็จะนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯ ไม่ได้ พร้อมย้ำว่า ไม่ต้องกังวล เพราะนี่คือเหตุผลที่เสนอรายชื่อไปเกิน 36 รายชื่อ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายวรภัค ธันยาวงษ์ ที่มีชื่อเป็นว่าที่รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวหา จะถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า อยู่ที่การตรวจสอบ เราส่งรายชื่อทุกคนไปให้ เลขาฯ ครม.ตรวจสอบ เราต้องเชื่อการตรวจสอบ จะไปด่วนสรุปก่อนหรือไปเชื่อหน่วยงานที่ไม่เกี่ยวข้องไม่ได้.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พนังกั้นน้ำขาด ทะลักท่วมนาข้าว-ถนนถูกตัดขาด

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – ผลพวงอุทกภัยจากพายุหนองฟ้า ทำพนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ทรุดตัวและขาด ส่งผลมวลน้ำทะลักท่วมนาข้าวเกือบพันไร่ เส้นทางสัญจรถูกตัดขาด ภาพนาทีน้ำจากตอนบนในพื้นที่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ไหลทะลักท่วมพื้นที่ ทำให้พนังกั้นลำน้ำยัง บ้านทรายมูล ต.ขวาว อ.เสลภูมิ ถูกน้ำกัดเซาะจนทรุดและขาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร และเอ่อเข้าท่วมนาข้าวของชาวบ้าน 3 ตำบล คือ ต.ขวาว, ต.นางาม และ ต.นางาม ชาวบ้านและผู้นำชุมชนต้องระดมเครื่องจักรกล ถุงบิ๊กแบ็ก เข้าอุดพนังที่ขาด เพราะวิตกว่ามวลน้ำจำนวนมากจะทำให้นาข้าวที่กำลังหว่านปุ๋ยรับรวง จำนวนเกือบ 1,000 ไร่ เสียหาย จนไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด ได้สั่งการให้ ปภ. ประสานนำเครื่องจักรกลหนักเข้าเสริมกั้นน้ำ นำถุงบิ๊กแบ็ก 280 ถุง เข้า จัดวาง […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

“พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลประชุม GBC สมัยพิเศษ

เกาะกง 10 ก.ย. – “พล.อ.ณัฐพล” แถลงผลหารือ GBC สมัยพิเศษ ที่เกาะกง มุ่งแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากนี้จะมีการดำเนินการถอนอาวุธหนักภายใน 4 สัปดาห์ โดยให้คณะกรรมการไอโอที ร่วมสังเกตการณ์ด้วย และเก็บกู้ทุ่นระเบิดใน 1 สัปดาห์ ต้องแล้วเสร็จใน 1 เดือน ซึ่งเป็นการตกลงกันระหว่างไทย-กัมพูชา .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” จ่อเข้าเยี่ยม “ทักษิณ” ยกเป็นวีรบุรุษ ปชต.

มหาดไทย 10 ก.ย.- “ภูมิธรรม” เผยเตรียมไปเยี่ยม “ทักษิณ” มองไม่ได้ทำผิดมาตั้งแต่ต้น เป็นเพราะอำนาจจัดการจนเป็นรัฐบาลนอกระบบ รับเห็นภาพนายใหญ่ในชุดนักโทษ แล้วสะเทือนใจ ยกเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย คนหนึ่ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกจำคุกในเรือนจำคลองเปรม ซึ่งจากนี้จะมีกรอบเวลาให้เข้าเยี่ยมได้ มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่าใครจะเข้าไปเยี่ยมบ้าง ว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน แต่ความรู้สึกส่วนตัว ตนต้องไปเยี่ยมนายทักษิณแน่นอน เพราะตนไม่ได้รู้สึกว่าท่านได้ทำอะไรผิดมาตั้งแต่ต้นทาง ตลอดจนถึงปัจจุบัน ถูกกระทำโดยอำนาจการจัดการ ในการเข้าสู่การเป็นรัฐบาลนอกระบบ เพราะฉะนั้นหลายสิ่งหลายอย่างที่ตั้งขึ้นมา รอวันพิสูจน์ ซึ่งในสายตาตนนายทักษิณเป็นนักสู้คนหนึ่ง และเมื่อวานเห็นภาพนายทักษิณ สวมชุดคอกลมสีฟ้า และดูเหมือนจะกล้อนผมด้วยก็สะเทือนใจ ตนคิดว่าท่านพิสูจน์ให้เห็นว่า ถ้าจะหนีไปเลยก็ไปได้ เพราะอยู่นอกประเทศอยู่แล้ว และก็อยู่เมืองนอกไม่ได้ลำบาก ซึ่งการที่ตัดสินใจกลับมา ถือว่าเป็นคนที่รับผิดชอบต่อตัวท่านเอง และประชาชนที่เคารพนับถือท่าน ในสายตาตนนายทักษิณเป็นวีรบุรุษประชาธิปไตยคนหนึ่ง เมื่อถามว่า เรื่องนายทักษิณจะกระทบกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะการที่นายทักษิณยอมรับโทษนั้นอาจจะมีทั้งกระแสเห็นใจและตีกลับหรือชื่นชมว่าได้ทำตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นความรู้สึกต่างๆของผู้คน จะรู้สึกอย่างไรก็เป็นไปตามความรู้สึกของคนเหล่านั้น แต่ตนเชื่อว่าคนที่เห็นใจและเข้าใจมีเยอะอยู่ และเรื่องพรรคเพื่อไทยไม่ต้องกังวล เราก็จะอยู่ […]