fbpx

นักวิชาการ คาดเพื่อไทยคุมกระทรวงเศรษฐกิจ

นิด้า 19 ส.ค.- นักวิชาการ คาดเพื่อไทยคุมกระทรวงเศรษฐกิจ “คลัง-มท.-คมนาคม” แต่ต้องสละ “ก.สธ.-ก.ท่องเที่ยว” ให้ “ภูมิใจไทย” ส่วน”รวมไทยสร้างชาติ” นั่ง ก.พลังงาน มองแคนดิเดตนายกฯ อาจเป็น “แพทองธาร” หาก “เศรษฐา” ถูก “ชูวิทย์” แฉ รอดู 21ส.ค.

รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต กล่าวถึงการจัดสรรเก้าอี้คณะรัฐมนตรีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยว่า การจัดสรรตามโควตา และความสามารถในการต่อรอง ซึ่งโดยหลักแล้วพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลต้องมีเก้าอี้ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม แต่ภายใต้สถานการณ์พิเศษบางอย่างอาจทำให้พรรคที่เข้าร่วมรัฐบาลอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรีบางเก้าอี้ตามความ ถนัดหรือความต้องการ เช่น ความต้องการกระทรวงกลาโหม และอาจเป็นไปได้ว่าพรรคที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลอาจยอมสละเก้าอี้นี้จัดสรรให้ไป


รศ.ดร.พิชาย ยังกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมองว่า ตัวเองมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ถ้าต้องการทำภารกิจนี้ให้บรรลุก็ต้องคุมกระทรวงเศรษฐกิจหลักเอาไว้ เช่นกระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

โดยกระทรวงเหล่านี้ถูกมองจากพรรคการเมืองแบบเก่าว่าเป็นกระทรวง เกรด A ทำให้มีการแย่งชิงกัน เช่น กระทรวงคมนาคม ที่พรรคภูมิใจไทยเคยคุมก็อาจอยากสานต่อ แต่เท่าที่ดูตอนนี้พรรคภูมิใจไทยน่าจะยอมให้กับพรรคเพื่อไทย เพราะกระทรวงคมนาคม แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เคยประกาศเอาไว้ว่าพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นผู้ดูแล จึงอาจมีการต่อรองกระทรวงที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้กับพรรคภูมิใจไทย


ส่วนอีกหนึ่งกระทรวงที่พรรคเพื่อไทยน่าจะอยากดูแล คือกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสานต่อนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค แต่ พรรคภูมิใจไทยน่าจะยังอยากคุมกระทรวงนี้ต่อ เนื่องจากต้องการขับเคลื่อนนโยบายกัญชา จึงมองว่าพรรคภูมิใจไทยน่าจะต่อรองเพื่อให้ได้คุมกระทรวงนี้ต่อไป
เช่นเดียวกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่พรรคภูมิใจไทยจะต่อรองนั่งกระทรวงนี้ด้วย เพื่อให้แกนนำคนสำคัญของพรรคในพื้นที่ภาคใต้

“หากเป็นเช่นนี้เท่ากับว่า กระทรวงสำคัญทางเศรษฐกิจ 2 กระทรวง คือกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยอาจไม่ราบรื่นเท่าที่ควร”

สำหรับกระทรวงที่มีข่าวว่าแย่งชิงกันอย่างมากนั้นก็คือกระทรวงพลังงาน เพราะเดิมทีอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเขามีผู้สนับสนุนหลักด้านทุนพลังงาน จึงน่าจะอยากได้กระทรวงนี้มาครองต่อ และพรรคเพื่อไทยก็อยากได้กระทรวงนี้ แต่หลังจากที่พรรครวมไทยสร้างชาติประกาศชัดเจนว่าจะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยก็มีความเป็นไปได้ว่าพรรคเพื่อไทยยอมให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ดูแลกระทรวงนี้ต่อ


เมื่อถามว่าสัดส่วนการมีพรรคร่วมรัฐบาลจำนวนมากจะก่อให้เกิดปัญหาหรือไม่ รศ.ดร.พิชาย ประเมินว่าน่าจะมีการคุยกันลงตัวแล้วก่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าคุยกันไม่ลงตัวก็คงไม่มีพรรคใดประกาศที่จะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีให้ ถึงแม้ว่าบรรดาแกนนำพรรคจะออกมาระบุว่าไม่เกี่ยวกับการต่อรองตำแหน่ง แต่ในมิติการเมืองคงเป็นไปไม่ได้ เชื่อว่าจะมีการตกลงกันระดับหนึ่ง แต่คงไม่ใช่ความแน่นอน อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน เพียงแต่การตกลงเป็นที่ยอมรับระดับหนึ่ง จึงนำไปสู่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ขณะที่ความขัดแย้งก็อาจมีขึ้นได้บ้างภายหลังการต่อรอง แต่ในสถานการณ์เช่นนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้

ส่วนกระแสภายในของพรรคเพื่อไทย จะมีการสั่นไหวหรือไม่ เพราะมีบางกลุ่มที่มีกระแสข่าวการต่อรองตำแหน่งเกิดขึ้น รศ.ดร.พิชาย กล่าวว่าในกลุ่มย่อยๆ ของแต่ละพรรคก็มีกันอยู่ ว่าต้องการจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอะไรบ้าง อย่างพรรคเพื่อไทยก็มี ซึ่งต้องเป็นเรื่องของความสามารถของแกนนำพรรคว่าจะจัดการอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความแตกแยกขึ้นมาก่อนจัดตั้งรัฐบาล สิ่งสำคัญคือต้องประคับประคองสถานการณ์ให้นิ่งก่อนจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 22 ส.ค. และไม่ใช่เพียงแต่พรรคเพื่อไทย เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติเองก็มีหลายกลุ่ม ที่แต่ละกลุ่มก็อยากได้ตำแหน่งทั้งนั้น ถึงที่สุดแล้วก็น่าจะหาข้อยุติกันได้

เมื่อถามถึงการประกาศกลับประเทศไทย ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งตรงกับวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี นั้น รศ.ดร.พิชาย กล่าวว่า หากจะเชื่อมโยงกับเรื่องการประกาศกลับไทยของนายทักษิณ กับการจัดตั้งรัฐบาล ก็จะเป็นหลักฐานชิ้นหนึ่งที่จะทำให้เป็นเครื่องมือในการสร้างหลักประกันว่าในวันที่ 22 ส.ค.นี้ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มีโอกาสที่จะได้รับเลือก เพียงแต่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ที่ประกาศออกมาว่าจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน และหลายพรรคการเมืองให้การยอมรับ แต่ติดปัญหาที่ สว.จำนวนหนึ่ง ที่ตั้งคำถามเรื่องคุณสมบัติ จากกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแฉ ทำให้ไม่แน่ใจว่าในวันที่ 22 ส.ค. จะเป็นนายเศรษฐาหรือ แต่ถ้าจะให้มั่นใจก็ต้องรอดูวันที่ 21 ส.ค. ที่นายชูวิทย์ จะออกมาแถลงข่าวว่า จะสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อความคิดของ สว. ได้มากน้อยขนาดไหน พร้อมมองว่าแกนนำของพรรคเพื่อไทยคงจะมีการประเมินกันก่อนอีกครั้งในวันที่ 21 ส.ค. ถ้าประเมินว่านายเศรษฐา ยังพอไปได้ก็จะเสนอชื่อ แต่ถ้ามีแรงต้านเยอะ ก็อาจนำเสนอ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งโอกาสที่จะได้รับเลือกก็มีสูงกว่านายเศรษฐา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นบุตรสาวของนายทักษิณ แม้จะไม่มีประสบการณ์ทางการเมืองมาก แต่ก็ถือว่าเป็นผู้ที่มีบารมีในพรรคเพื่อไทย รวมถึงความนิยมของ น.ส.แพทองธาร ในช่วงเลือกตั้งก็มีสูง ดังนั้นก็ต้องมีการประเมินสถานการณ์กันอีกครั้งก่อนวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Made in Thailand แดนไทยเท่ : เสน่ห์ผ้าทอชาวเขา สู่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำของเชียงใหม่

ผ้าทอชาวเขาและเครื่องแต่งกายชนเผ่าต่างๆ ของไทยที่มีลวดลายสวยงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ทำให้ดีไซเนอร์ชาวเชียงใหม่ นำมาออกแบบตัดเย็บ กลายเป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่ทันสมัย

ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้องกรณีนักศึกษาไม่ได้รับเงิน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-ศาลปกครองอุบลราชธานี ไม่รับฟ้อง กรณีนักศึกษา ไม่ได้รับเงิน ยืนยันโอนเงินให้เแล้ว 

พายุฤดูร้อนถล่ม 31 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 5 ฝนฟ้าคะนอง-ลมกระโชกแรง วันนี้ (3 พ.ค.) ได้รับผลกระทบ 31 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง

ข่าวแนะนำ

เปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำ เล็งประมูลสัปดาห์หน้า

“ภูมิธรรม” พาสื่อเปิดโกดังข้าวโครงการรับจำนำรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พิสูจน์ข้าว 10 ปี ยังกินได้ เป็นที่ต้องการแถบแอฟริกา พร้อมจัดเมนูพิเศษตามคำขอ ข้าวกะเพราไข่เจียว ให้ผู้สังเกตการณ์ทดสอบ เล็งเปิดประมูลสัปดาห์หน้า

นายกฯ ปัดแนวคิดแก้ พ.ร.บ. ลดอำนาจผู้ว่าฯ ธปท.

นายกฯ ยันเสียงแข็ง ไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. ยังไงท่านก็ยังอยู่ตรงนี้ รับเห็นต่างเรื่องลดดอกเบี้ย มองเป็นเรื่องธรรมดา โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ ย้ำชัดไม่เคยมีแนวคิดแก้ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย

“บิ๊กโจ๊ก” ร้องคัดค้านกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 ใน 14 คน

รรท.ผบ.ตร. ยอมรับ “บิ๊กโจ๊ก” ร้องคัดค้านกรรมการสอบวินัยร้ายแรง 9 ใน 14 คน อ้างเป็นคู่ขัดแย้ง กำชับให้ผลตรวจสอบคุณสมบัติกรรมการเสร็จก่อนการสอบ “บิ๊กโจ๊ก”

กปน.-กรมชลประทาน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนรอบใหม่ 5-15 พ.ค.นี้

กปน.-กรมชลประทาน เตรียมแผนรับมือน้ำทะเลหนุนรอบใหม่วันที่ 5-15 พ.ค.นี้ หลังช่วงปลายเดือน เม.ย. ทำให้น้ำเค็มเกินมาตรฐาน ส่งผลให้น้ำประปาอาจมีรสชาติเปลี่ยนแปลงบ้าง มั่นใจทุกขั้นตอนผลิตน้ำประปาที่ต้นสถานีสูบน้ำดิบสำแลถึงผลิต 3 แห่ง น้ำประปามีคุณภาพสูง ขอให้ประชาชนสบายใจ และขอให้ตามข้อมูลคุณภาพน้ำสม่ำเสมอ