รัฐสภา 17 ส.ค.-“วิทยา” แนะปธ.สภาฯ ไม่ต้องรีบนัดโหวตนายกฯ รอให้เพื่อไทยรวมเสียงตั้งรัฐบาลให้เสร็จก่อน ย้ำแบ่งเก้าอี้ต้องชัดเจนก่อนวันเลือกนายกฯ หวั่นยืดเยื้อไหลไปพรรคอันดับ 3 จวก MOU หมดสมัยแล้ว เอาไว้หลอกเด็ก ชี้ “เศรษฐา” ควรเข้าสภาฯ แสดงวิสัยทัศน์
นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยนัดหารือพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐบาล ว่า ได้ยินเรื่องนี้จากสื่อ และยังไม่ทราบว่าจะเจอในส่วนไหนของสภาฯ เพราะสภาฯใหญ่มาก สื่อมวลชนจะรู้เรื่องก่อน พรรคเพื่อไทยไม่ได้ประสานที่ตน โดยพรรคมอบหมายหัวหน้าพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ ดำเนินการเรื่องนี้ โดยสรุปวันนี้ยังไม่คืบหน้า ส่วนพรุ่งนี้ (วันที่ 18 ส.ค.) ประธานรัฐสภานัดหารือตัวแทนทุกฝ่าย และจะนัดประชุมรัฐสภาในวันที่ 22 ส.ค.นี้ วาระหลักคือการเลือกนายกรัฐมนตรี
“ขณะนี้จึงเป็นภารกิจของพรรคเพื่อไทยที่รับช่วงต่อจากพรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรทำภารกิจให้จบวันจันทร์ที่ 21 ส.ค.นี้ ไม่ใช่ไปคุยนอกรอบ ซึ่งการตั้งรัฐบาลร่วมกันจะมีนโยยายหลักที่ทุกพรรครับได้หรือไม่ รวมถึงการแบ่งหน้าที่ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องแบ่งกันให้เสร็จ หากไปร่วมรัฐบาลกันไม่แบ่งงานกันจะร่วมอย่างไร ถ้าจะตั้งรัฐบาลร่วมกัน ไม่แบ่งงานกันก่อน ก็ทำไม่ได้ นี่คือหลักธรรมชาติ แต่ตอนนี้การพูดคุยยังไม่จบ ถ้าเขาบอกแล้วว่าจบก็คือจบ ตอนนี้ MOU มันหมดสมัยแล้ว เอาไว้หลอกเด็ก” นายวิทยา กล่าว
เมื่อถามย้ำว่าหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคมีสิทธิตัดสินใจเลยใช่หรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ถูกต้อง ให้รอการรายงานของทั้งสองคน ขณะนี้เวลาเหลือน้อย เพราะล็อกวันแล้วว่าเป็นวันที่ 22 ส.ค. ดังนั้น พรรคเพื่อไทยต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่มั่นใจว่าต้องเป็นตัวจริง โหวตครั้งเดียวจบ และต้องผ่าน ทุกฝ่ายรับได้ ไม่มีสิทธิแก้ตัว เพราะกฎหมายค้ำคอไว้แล้ว
“จะได้ข้อสรุปวันนี้หรือไม่ ผมไม่รีบ เป็นวันจันทร์ก็ได้ เพื่อให้รอบคอบ แต่หากให้ดีประธานรัฐสภาควรฟังสักนิดว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมวันไหนค่อยนัด อย่าเพิ่งกำหนดกดดันว่าต้องเป็นวันที่ 22 ส.ค. ดังนั้นต้องรอพรรคเพื่อไทยว่าพร้อมตกลงเลือกนายกฯ วันไหน ประธานรัฐสภาค่อยนัดทีเดียว เพราะหากไม่จบขึ้นมาจะยุ่งยากไปกันใหญ่ การเมืองจะเปลี่ยนไป ถ้าไหลจากคนที่เสนอชื่อคนแรก มาคนที่สอง คนที่สาม จะเอาอยู่หรือไม่ แล้วมันก็จะไปถึงพรรคที่ 3 อีก จึงต้องรอความพร้อมพรรคเพื่อไทย” นายวิทยา กล่าว
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยต้องได้กระทรวงเศรษฐกิจ และมีกระแสข่าวว่ารวมไทยสร้างชาติต้องการกระทรวงพลังงาน เป็นเหตุให้ยังพูดคุยไม่จบหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า ไม่ทราบ เวลาพูด พูดอะไรก็ได้ แต่ถึงเวลาจริงต้องมาเปิดอกคุยกัน คิดอะไรก็ได้
“ความจริงถ้าจะเอาอย่างที่คิด คงไม่มีใครร่วมกับคุณ พรรคผมหิ้วกระเป๋าไป แต่จะได้หรือไม่ได้ก็ต้องคุยกัน ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ถนัดด้านไหน ตนไม่ทราบ และไม่กล้ายืนยัน ก่อนการโหวตนายกฯ เพื่อไทยและรวมไทยสร้างชาติควรตั้งโต๊ะแถลงอย่างเป็นทางการ หารือจบแล้วค่อยแถลงดีกว่า ไม่ใช่นัดกันตอนเช้า แล้วตอนสายไปกินกาแฟโชว์ ชาวบ้านรำคาญ เมื่อไหร่จะจบสักที เอาให้จบ แล้วค่อยมาเถอะ ดังนั้นประธานสภาฯ ควรรอให้เพื่อไทยพร้อมก่อน แล้วค่อยนัด ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุเหมือนที่ผ่านมา เราเจอมาพอแล้ว ชาวบ้านเวียนหัวแล้ว ประธานสภาฯ ต้องตั้งหลัก” นายวิทยา กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะไม่โหวตให้หากการเจรจายังไม่จบใช่หรือไม่นายวิทยา กล่าวว่า วันนี้ทุกอย่างยังไม่จบว่าเขาจะเอาหรือไม่เอาเรา จึงไปพยากรณ์ว่าจะโหวตหรือไม่โหวต แต่ถึงเวลาตนก็ตัดสินใจได้ว่าจะทำอย่างไร อย่าไปแถลงข่าวบ่อย ๆ ต้องรอให้ทุกอย่างจบก่อน
“ไม่ใช่เจอกันทีก็แถลงที อย่างนี้เป็นนัดแถลงข่าวไม่ใช่นัดมาทำงานกัน ผมว่าถ้าให้ดี 3-4 วันนี้มีเวลาก็หาที่เงียบ ๆ คุยกัน ไม่ต้องบอกซื่อก็ได้ คุยให้จบแล้วมาทีเดียว แล้วสื่อก็ไม่ต้องไปตาม ให้เขาหายใจกันหน่อย หายใจยาวๆ สบาย ๆ แล้วแถลงทีเดียวจะได้จบ” นายวิทยา กล่าว
เมื่อถามว่าสถานการณ์ขณะนี้คุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเหมาะสมหรือไม่ นายวิทยา กล่าวว่า มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยต้องรับฟัง ต้องรอบคอบ เพราะไม่มีโอกาสแก้ตัว ส่วนนายเศรษฐาควรมาแสดงวิสัยทัศน์ในวันโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่มองว่าเป็นเรื่องปกติ
“การจะปลุกเสกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เห็นรูปลอยก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ถ้ามีเวลาจริง ๆ ไม่ถึงกับเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ควรมาแสดงวิสัยทัศน์ แม้ไม่ได้เป็นส.ส. ที่ผ่านมาข้าราชกา ซึ่งไม่ได้เป็นส.ส.ก็มาชี้แจงเรื่องต่าง ๆ ได้ อยู่ที่อำนาจของประธาน เชื่อว่าประธานไม่ขัดข้อง แต่เรื่องที่น่าเกลียดก็คือ คนมาตะลุมบอนเบื้องหลังกัน ก็ไม่สง่าสำหรับคนพูด และไม่สง่าสำหรับคนถูกเลือกด้วย ดีที่สุด ผมว่าให้เตรียมตัวมาชี้แจง” นายวิทยา กล่าว.-สำนักข่าวไทย