เพื่อไทยแถลงตั้งรัฐบาลกับภูมิใจไทย โวได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว

พรรคเพื่อไทย 7 ส.ค.- “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” แถลงจัดตั้งรัฐบาล โวได้ 212 เสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว “อนุทิน” ไม่เกี่ยงหากไร้พรรคสองลุงก็พร้อมจับมือต่อ ลั่นถอนฟ้อง “เศรษฐา” โจมตีนโยบายกัญชาแล้ว “ภูมิธรรม” เผยสัปดาห์นี้มีพรรคการเมืองตบเท้าร่วมตั้งรัฐบาลเพิ่ม


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับแกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.)​ ประกอบไปด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และนายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย ลูกชายนายเนวิน ชิดชอบ เข้าหารือกับแกนนำพรรคเพื่อไทยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จากนั้นเวลา 16.35 น. แกนนำทั้งสองพรรคได้ร่วมกันแถลงจัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ตนและผู้บริพรรคภูมิใจไทย มาที่พรรคเพื่อไทยอีกครั้งหนึ่ง เพื่อหารือจัดตั้งรัฐบาล จากการหารือกันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว พรรคภูมิใจไทยมีเงื่อนไข 3 ข้อ 1.ไม่ขัดข้องร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยโดยไม่แตะต้องมาตรา 112 ข้อ 2.ไม่เป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และ 3.ต้องไม่มีพรรคก้าวไกล ร่วมรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้เห็นพ้องในแนวทางเดียวกัน


นายอนุทิน กล่าวว่า เพื่อการเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ พรรคภูมิใจไทย ให้คำยืนยันว่า ถ้ายังไม่เชิญพรรคอื่นมาหารือ ให้ถือว่าพรรคเพื่อไทยสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยมี 212 เสียง คือ พรรคเพื่อไทย 141 เสียง และพรรคภูมิใจไทย 71 เสียง มั่นใจมีเสียงรัฐบาลเกินกึ่งหนึ่งแล้วแน่นอน ถ้าได้รับสัญญาณจากพรรคเพื่อไทยจะหาเสียงจาก สส. และ สว. เพื่อให้ทุกอย่างเป็นกระบวนการเพื่อได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งในรัฐสภา ส่วนการเสนอชื่อนายกฯ พรรคภูมิใจไทยจะยึดตามแนวทางของพรรคเพื่อไทยที่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ

เมื่อถามว่า ที่ระบุว่าไม่มี 188 เสียงแล้ว หมายความว่าอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า คำตอบอยู่ในตัวอยู่แล้ว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายร่วมจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะไม่มีความมั่นคง ไม่มีประโยชน์ คำว่า 188 เสียง จึงไม่มีในสมการจัดตั้งรัฐบาล

เมื่อถามว่า การจับมือกับพรรคเพื่อไทยจะมีพรรคลุงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีเพียง 3 เงื่อนไข ส่วนอื่นเป็นดุลพินิจของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อะไรที่นอกเหนือจาก 3 ประการ เราคงไม่มีปัญหาอะไร


เมื่อถามว่า การร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้จะจับมือกันจนกว่าจะได้นายกฯ ไม่มีการเปลี่ยนขั้วแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง เพื่อประเทศชาติ การพูดอะไรผูกมัดเกินไปอาจทำให้เกิดทางตัน วันนี้เอาบ้านเมืองเป็นหลัก เชื่อว่าจะเดินไปได้

เมื่อถามว่าได้มีการถอนฟ้องกรณีพรรค ภูมิใจไทย ฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน กรณีที่ปราศรัยโจมตีนโยบายกัญชาว่ามอมเมาประชาชน นายอนุทิน กล่าวว่า “ถอนไปแล้วครับ”

ด้าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณหัวหน้าพรรคภูมิไทยใจที่รับคำเชิญมาจัดตั้งรัฐบาล โดยมาเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยเรารับได้ทั้งหมด ขอขอบคุณคำว่า 212 เสียงของนายอนุทินในวันนี้ จะเป็นเสียงตั้งต้นในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยการสนับสนุนจากพรรคการเมืองต่างๆ และ สส. จากหลายพรรคการเมือง ขณะนี้มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังคงต้องการเสียงสนับสนุนจาก สส. และ สว.เพื่อให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ สามารถบริหารประเทศ และเร่งแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้โดยเร็ว

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า รัฐบาลที่จะจัดตั้งขึ้นในครั้งนี้ แม้จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งแล้ว แต่เรายังต้องการการสนับสนุนจากทุกฝ่าย เนื่องจากปัญหาของประเทศชาติ และพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญอยู่นี้มีความเดือดร้อนรุนแรง การประวิงเวลาออกไปยิ่งทำให้เกิดความเสียหายยิ่งขึ้น การจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วเท่าไรจะยิ่งแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เรามีความประสงค์จะทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ทางการเมืองที่มีความพิเศษ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งในสังคม และวิกฤติรัฐธรรมนูญก่อตัวเป็นปัญหาของประเทศ และประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เราจึงต้องการเสียงสนับสนุนจากทุกพรรคการเมืองให้มาสนับสนุนนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย โดยยึดถือประโยชน์ของประเทศ และประชาชนเป็นหลัก อาทิ เมื่อฝ่ายค้านเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม รัฐบาลพร้อมจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้จะเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลได้อย่างเต็มที่

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ร่วมกับพรรคภูมิใจไทยเห็นว่าทุกฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันได้ จึงกำหนดแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาล ดังนี้ 1.ยึดวาระของประเทศ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และประชาธิปไตย นำความปรองดองสมานฉันท์กลับคืนสู่ประเทศ 2.จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวาระแรก จะมีมติให้ทำประชามติขอจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยกระบวนการจัดตั้ง สสร.

3.ดำเนินงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่ สิ่งใดที่เป็นประโยชน์จะร่วมกันผลักดันให้สำเร็จ สิ่งใดที่เป็นปัญหาจะต้องถูกตรวจสอบและเร่งแก้ไขให้ถูกต้อง 4.จัดตั้งรัฐบาลที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และ 5.การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้เปิดกว้างให้ สส. และ สว.มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อผ่าทางตันระบบการเมืองของประเทศ และฝ่าวิกฤติรัฐธรรมนูญที่สร้างปัญหาอยู่ในปัจจุบัน

“หลังจากนี้เราจะเดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้ง สส. สว. เพื่อแสวงหาความร่วมมือ และกำหนดเจตนารมณ์ในการบริหารประเทศ จึงร้องขอการสนับสนุนจากทุกพรรคการเมือง ทุกฝ่าย ทุกคน มาร่วมกันกอบกู้วิกฤติของประเทศในครั้งนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่าจะมีพรรคไหนร่วมรัฐบาลอีกบ้าง และมีเงื่อนไขอะไรอีกหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สัปดาห์นี้จะพบปะกันทั้งหมด จะมีการทาบทามพรรคอื่นๆ มาร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่าโฉมหน้ารัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลสนามฉันท์หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่สามารถทำตามเจตนารมณ์ประชาชนได้ การหันมาเข้าหากันตั้งรัฐบาลจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

เมื่อถามว่าจะมีการจับมือกับพรรคสองลุง และให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในแถลงการณ์บอกชัดเจนว่าไม่มีสองลุง แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไข ถ้าจะ สส. และ สว. เป็นบุคคลหรือกลุ่มบุคคลมาสนับสนุนนายกฯของพรรคเพื่อไทยถือเป็นเอกสิทธิของแต่ละบุคคล

เมื่อถามว่าจะอธิบายให้ประชาชนเข้าใจได้อย่างไรถึงการจับมือร่วมกันระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยจะต่อรองขอคุมกระทรวงเดิมหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการลงรายละเอียดเรื่องการต่อรองกระทรวงแต่ทุกฝ่ายต้องกันหน้าเข้าหากัน ส่วนที่ผ่านมาในการหาเสียงที่พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง เช่น กรณีไล่หนูตีงูเห่า ถือเป็นวิถีการหาเสียง แต่พรรคเพื่อไทยไม่เคยประกาศเป็นศัตรูกับใคร เป็นเทคนิคการหาเสียงที่ทุกพรรคเป็นคู่แข่งทางการเมือง หลังจากประชาชนมอบอำนาจให้เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องมาทำตามมติของประชาชน ถ้าสามาถร่วมทำงานกันได้ก็มาเป็นรัฐบาลร่วมกันได้

เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกฯ ยังเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน อยู่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สื่อรับรู้ทั่วไปว่าเป็นเช่นนั้น และยืนยันว่ายังเป็นนายเศรษฐาอยู่

เมื่อถามว่า จะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยจับมือด้วยกันไปได้ตลอด ถ้าเทียบการจับมือของพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมา นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การตั้งรัฐบาลมีข้อกำจัดตามรัฐธรรมนูญที่ไม่ยึดเอาเสียงของประชาชนเป็นหลัก เพราะการเลือกนายกฯ ต้องอาศัยเสียง สว. ทำให้ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลจากพรรคก้าวไกลได้ เพราะเราไม่ได้เสียงสนับสนุนจาก สว. และพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นของประชาชน ส่วนการจับมือกับพรรคภูมิใจไทยนั้น พรรคภูมิใจไทยได้เสียงจากประชาชนมาเป็นอันดับสาม และพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย มีเสียงสนับสนุนจากประชาชน ถือเป็นความเชื่อมั่นในระดับหนึ่ง เราเชื่อมั่นในการจับมือกับพรรคภูมิใจไทยว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ เชื่อมั่นว่าจับมือกับพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสสูงที่จะจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ

ด้านนายภูมิธรรม กล่าวว่า ในเกือบทุกวันของสัปดาห์นี้ จะเห็นภาพการจับมือตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองเพิ่มขึ้น และไม่ได้ปิดโอกาสเสียงจากรายบุคคลที่จะสนับสนุนนายกฯ พรรคเพื่อไทย ขอให้มั่นใจว่าจะมีเสียง สส. สนับสนุนเกินครึ่ง ส่วนการขอเสียง สว. อยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีทุกส่วน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

The Ministry of National Defence claims Cambodia has not withdrawn troops from its sovereign territory

กห.กัมพูชายืนยันไม่ได้ถอนทหารจากดินแดนอธิปไตย

พนมเปญ 9 มิ.ย. – กระทรวงกลาโหมแห่งชาติ เน้นย้ำว่า กัมพูชาไม่ได้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชายึดครองมายาวนาน เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชา เผยแพร่แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมกัมพูชาวันนี้ มีเนื้อหาดังนี้ “ตามแถลงข่าวจากกระทรวงกลาโหมแห่งชาติในวันนี้ กระทรวงฯ ขอชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวล่าสุดในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ดังต่อไปนี้: 1.ไม่มีการถอนกำลังทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองทัพกัมพูชาได้ประจำการมาเป็นเวลานาน 2.การดำเนินการทั้งหมดของกองทัพกัมพูชาประกอบด้วยการประจำการ การจัดวางกำลัง การปรับเปลี่ยน และการเคลื่อนย้าย อยู่ภายในอำนาจอธิปไตยของกัมพูชาและมีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมความพร้อมในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา 3.กองทัพกัมพูชาสนับสนุนความพยายามในการหาทางออกอย่างสันติสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พร้อมที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนจากการรุกรานทุกรูปแบบ 4.กองทัพกัมพูชาพร้อมที่จะสนับสนุนกลไกการเจรจาเขตแดนกับประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะกรรมการเขตแดนร่วมหรือเจบีซี (JBC) เพื่อดำเนินการวัดแนวเขตแดนและจัดทำเส้นเขตแดนในส่วนที่เหลือระหว่างสองประเทศ รวมถึงจุดที่กัมพูชาจะยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ (ICJ) กระทรวงกลาโหมแห่งชาติขอให้เพื่อนร่วมชาติและสื่อมวลชนใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น โดยเฉพาะแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชาและกระทรวงกลาโหมแห่งชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง แท้จริง และเชื่อถือได้” .-814.-สำนักข่าวไทย