พรรคก้าวไกล 7 ส.ค.-“ชัยธวัช” ห่วง “เพื่อไทย” ตั้งรัฐบาลไม่ราบรื่น รับตั้งแต่ฉีก MOU ยังไม่เคยคุยกันอีก ยังมีเวลา อะไรก็เกิดขึ้นได้ ชี้ถ้าประชาธิปไตยปกติ พรรคอันดับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว
นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงแนวโน้มที่พรรคเพื่อไทยจะกลับมาร่วมจับมือตั้งรัฐบาล 8 พรรคเดิม ว่า เรื่องนี้เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย แต่พรรคก้าวไกลยังไม่ได้คุยกัน ตอนนี้พรรคก้าวไกลเตรียมทำงานไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหนก็ตาม เป็นช่วงที่เตรียมตัวให้กับส.ส.ใหม่ เพิ่มศักยภาพในการทำงานให้มากขึ้น ส่วนที่ก้าวไกลถูกผลักให้ไปเป็นฝ่ายค้าน ถือว่าเรื่องนี้ผ่านไปแล้ว ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่ยังไม่ราบรื่น เสียงส.ว.ที่อาจจะได้ก็อาจจะมีปัญหา
เมื่อถามว่ากังวลใจเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ แม้จะไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งแล้ว นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน คิดว่าไม่ใช่เฉพาะพรรคก้าวไกล ประชาชนจำนวนมากไม่อยากเห็นการพลิกขั้วรัฐบาล ในความหมายที่ว่านายกรัฐมนตรีกลายเป็นขั้วอำนาจเดิม ยอมรับว่าตั้งแต่ฉีก MOU กับพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้คุยกันอีก
“ยังไม่ได้พูดคุยกันถึงทิศทางการโหวตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีเวลาอีกเยอะ คงจะใกล้กำหนดการโหวต จึงจะพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ก็มีการเตรียมงานสภาฯ และเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดระยอง พรรคก้าวไกลจะส่งคนลงเลือกตั้งเหมือนเดิม กำลังเตรียมการกันอยู่” นายชัยธวัช กล่าว
เมื่อถามว่าหากกลับไปจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยจะมีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องคุยกับกรรมการบริหารพรรคและส.ส. ซึ่งยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ ไม่สามารถตอบได้
สำหรับกรณีที่ส.ส.ในพรรคหลายคน เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศรระบุว่า อยากให้กลับมาจับมือกันจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนใหญ่คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลที่มีหลากหลาย ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ประสานงานจากพรรคเพื่อไทยมาพูดคุยกันเรื่องนี้ ขอให้เป็นประเด็นก่อนมองว่าทุกอย่างเป็นไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ต้องมีคุณสมบัติแบบไหนถึงจะพาประเทศก้าวข้ามทุกปัญหาในช่วงนี้ไปให้ได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า คุณสมบัติเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ความปกติของการเมืองคือพรรคที่ชนะได้อันดับที่หนึ่งรวบรวมเสียงข้างมากได้ควรได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแค่นั้นเอง จบง่ายที่สุด ถ้าเราไปตั้งเงื่อนไขเยอะจะทำให้เกิดความขัดแย้งและวุ่นวาย
“ถ้าฝ่ายโน้น ฝ่ายนี้มาตั้งแง่ พิจารณานโยบายด้วย ซึ่งนโยบายประชาชนเขาตัดสินมาแล้ว ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งมันจบแล้ว พรรคไหนได้รับคะแนนนิยมเยอะแสดงว่าประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายของเขาเยอะ พรรคไหนได้รับคะแนนความนิยมน้อยแสดงว่าเห็นด้วยกับคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีของเขาน้อยนะครับ” นายชัยธวัช กล่าว
สำหรับกรณีที่ผ่านมาก็มีพรรคการเมืองที่ไม่ได้อันดับหนึ่ง แต่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในสถานการณ์การเมืองที่ปกติ เป็นช่วงประชาธิปไตยครึ่งใบบ้าง ช่วงเผด็จการยังสืบทอดอำนาจบ้าง แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาสู่ประชาธิปไตยที่ปกติ
เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนพิจารณาคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน สอดคล้องกับการเลื่อนเดินทางกลับของนายทักษิณหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะยังมีความเห็นที่แตกต่างกัน จึงยังไม่มีมติออกมา ส่วนเรื่องนายทักษิณคงตอบแทนไม่ได้.-สำนักข่าวไทย