สภาฯ ถกตีความเสนอญัตติชื่อนายกฯ คนเดิม 

รัฐสภา 19 ก.ค. – สภาฯ ถกตีความข้อบังคับ 151 พิจารณาข้อบังคับ 41 ทำได้หรือไม่ ในการเสนอญัตติชื่อนายกฯ คนเดิม ขณะที่ตัวเลขรวมสมาชิกรัฐสภาลดลงเหลือ 748 คน คาดหลังศาล รธน. รับคำร้อง “พิธา” ถือหุ้นสื่อฯ


การประชุมรัฐสภา วาระเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยภายหลังจากที่นายสุทิน คลังแสง สส.พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดข้อถกเถียงในที่ประชุมรัฐสภาว่าขัดกับข้อบังคับข้อที่ 41 หรือไม่ ทำให้นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นทักท้วง พร้อมเสนอญัตติให้พิจารณาว่าการเสนอชื่อนายพิธา ขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 41 หรือไม่ ซึ่งเป็นการเสนอญัตติซ้ำ ซึ่ง สส.ฝั่งพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเห็นว่าการเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ใช่ญัตติ เป็นการเสนอตามรัฐธรรมนูญ 

จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่า หากใช้ข้อบังคับ 151 ก็สามารถอภิปรายต่อไปได้ แต่ต้องอภิปรายภายใต้ข้อบังคับ 151 เพื่อตีความข้อบังคับที่ 41 ที่นายอัครเดชเสนอ ดังนั้น ประธานจึงเสนอให้ใช้ข้อบังคับ 151 เพื่อตีความข้อบังคับที่ 41


และการประชุมรัฐสภา วาระเลือกผู้สมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงบ่ายที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม แจ้งให้ที่ประชุมอภิปรายต่อไป โดยนายอนุศักดิ์ คงมาลัย สว. อภิปรายว่าหากมีการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีคนเดิมจากครั้งที่แล้ว คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งถ้าดูตามข้อบังคับที่ 41 ก็ชัดเจนว่าไม่สามารถเสนอญัตติเดิมได้อีกแล้ว และไม่ต้องมีการตีความอะไรเพิ่มเติม

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบบุคคลที่ได้สมควรที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159  และมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ญัตติ จึงไม่สามารถนำเข้าบังคับเข้าที่ 41 ของการประชุมรัฐสภา มาบังคับใช้ได้ เพราะการเสนอชื่อบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นการปฏิบัติตามมาตรา 159 และมาตรา 272 ของรัฐธรรมนูญ และสอดคล้องกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 136 ในหมวด 9 การพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรี ระบุไว้ว่าให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภา และไม่ได้อยู่ในหมวดที่ 2 ของการประชุมรัฐสภาแต่อย่างใด โดยในหมวดที่ 2 มีการเขียนชัดเจนว่า การเสนอญัตติจะต้องทำอย่างไร ซึ่งในข้อ 41 ญัตติใดตกไปแล้ว ห้ามนำญัตติซึ่งมีหลักการเช่นเดียวกันขึ้นมาเสนอใหม่ ในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ญัตติที่ยังไม่ได้มีการลงมติหรือญัตติที่ประธานรัฐสภาจะอนุญาต ในเมื่อพิจารณาเห็นว่าเหตุการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป

นายฐากร ยังกล่าวว่า หลักทั่วไปของกฎหมาย ในเมื่อกฎหมายใดกำหนดบทเฉพาะไว้อยู่แล้วไม่สามารถที่จะนำบทบัญญัติทั่วไปของกฎหมายมาบังคับใช้กับบทเฉพาะที่เขียนไว้อย่างชัดเจน ในหมวดที่ 9 ดังนั้น การเสนอชื่อนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้ไม่ใช่ญัตติ เพราะถ้าหากเป็นญัตติแล้วจะต้องเขียนในหมวดที่ 2 และอีกเหตุผลคือข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ไม่ได้เกี่ยวข้องกลับมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญและมาตรา 272  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแต่อย่างใด ดังนั้น จะเสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าวจำนวนกี่ครั้งก็ได้ แต่ต้องเป็นบุคคลที่ กกต. หรือรัฐธรรมนูญให้การรับรองไว้ จนกว่าจะมีการสรรหานายกรัฐมนตรีได้ ส่วนการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีและชื่อจึงเป็นญัตติ


ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายไม่เห็นด้วยในการใช้ข้อบังคับข้อที่ 41 เพราะการเลือกนายกฯ ไม่ใช่ญัตติทั่วไปเป็นกระบวนการเฉพาะที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และหากตีความตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ไม่มีคำว่าจะติดแต่อย่างใด ในกรณีแบบนี้ควรตีความตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และควรตีความตามบทบัญญัติของกฎหมายถ้ารัฐธรรมนูญมีเจตนารมณ์ไม่ให้เสนอซ้ำต้องบัญญัติไว้เป็นลายลักษณ์อักษร ดังนั้น ถ้าไม่มีข้อห้ามก็สามารถเสนอซ้ำได้ และยังเกรงว่าการลงมติในเรื่องนี้ อาจเป็นการการลงมติไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วยซ้ำ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมรัฐสภา ตัวเลขรวมของสมาชิกรัฐสภามีการลดลง จากเดิมมี 749 เป็น 748 คน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต

พ่อผู้ต้องหาชนไรเดอร์ กราบขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต เปิดใจกับสื่อ ลูกชายยังอยู่ในอาการช็อก เชื่อเสียใจและอยากมาขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง