พรรคก้าวไกล 7 ก.ค.- “ศิริกัญญา” มองเป็นสิทธิ “ศรีสุวรรณ” ร้อง ป.ป.ช. สอบปมปฏิญาณตน บอกเรื่องจริยธรรมไม่ได้พูดถึงปฏิญาณ แต่หมายถึงการทำหน้าที่ ยินดี หากถูกตรวจสอบ บอก “พิธา-หมออ๋อง” เป็นพยานได้ ย้ำ เสนอตัวมาเป็นฝ่ายบริหาร พร้อมให้สอบทุกอิริยาบถ เชื่อไม่กระทบพรรค “ก้าวไกล”
นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้ที่เรียกตัวเองว่า “ประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน” ยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สอบจริยธรรม นางสาวศิริกัญญา ว่าได้มีการกล่าวปฏิญาณตนหรือไม่ นั้น เป็นสิทธิของนายศรีสุวรรณ แต่ที่อ้างว่าเรื่องจริยธรรม ไม่ได้พูดถึงการปฏิญาณตน แต่หมายถึงการประพฤติตนหลังจากเป็น ส.ส. โดยได้แสดงความพร้อมให้ตรวจสอบ
ขณะเดียวกันนางสาวศิริกัญญา ได้ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันดังกล่าวว่า การที่ส.ส.จะปฏิญาณตน คือประธานจะเป็นผู้กล่าวนำและให้ ส.ส.พูดตามทีละวรรค ตนยอมรับว่าตกใจ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ผิดคิว เพราะในช่วงที่มีการกล่าวคำปฏิญาณ เจ้าหน้าที่ยกมือส่งสัญญาณให้หยุดรอ เมื่อตนเห็นจึงหันไปหานายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อจะบอกว่ารอให้ประธานพูดก่อนแล้วค่อยพูดตาม
แต่ในขณะนั้น ส.ส.ในที่ประชุมได้กล่าวกันไปแล้ว ทำให้ต้องพูดตามไปเรื่อยๆจนจบ และได้พูดทวนอีกครั้งให้ครบ ถือว่าได้ปฏิญาณตนครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมแสดงความเห็นว่า หาก ป.ป.ช.ต้องตรวจสอบการกล่าวปฏิญาณตน ส.ส.ทั้ง 498 คน เป็นเรื่องที่ยากลำบาก เนื่องจากกล้องไม่ได้จับที่หน้าทุกคน
นางสาวศิริกัญญา มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาภายหลังจากคำร้องดังกล่าว เนื่องจากสามารถอธิบายได้และมีพยานที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ รับทราบว่าตนเองได้กล่าวคำปฏิญาณครบถ้วนเรียบร้อยแล้ว โดยข้างซ้ายมีนายพิธา และข้างขวาเป็นนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่รองประธานสภาฯคนที่ 1 ตนเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยมาก และเห็นใจ ป.ป.ช.ที่ต้องมาตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมกล่าวย้ำว่ายินดีให้ตรวจสอบ เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อพรรคก้าวไกล
“ในวันนี้ได้เสนอตัวมาเป็นฝ่ายบริหาร การตรวจสอบย่อมเข้มข้นกว่าตอนที่เป็นฝ่ายค้าน จึงไม่ได้กังวลใจ คิดว่าจะเป็นไปตามกระบวนการ ขณะเดียวกันก็ต้องปรับตัวที่ต้องถูกตรวจสอบทุกอิริยาบถท่าทางที่แสดงออกไป” นางสาวศิริกัญญากล่าว.-สำนักข่าวไทย