รัฐสภา 23 มิ.ย.-“สุชาติ” ชี้ ปธ.สภา ต้องเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของ ส.ส. มอง “สุชาติ” เหมาะ มีประสบการณ์ ถ้าต้องเลือกนายกฯ ระหว่าง “พิธา-พล.อ.ประวิตร” ขอเทคะแนนให้ “พล.อ.ประวิตร”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงกระแสข่าวนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ จะลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปฏิเสธแทนได้เลย เพราะเมื่อเช้าก็คุยกับนายพีระพันธุ์อยู่ จึงอาจเป็นแค่ข่าวลือจากคนไม่หวังดี ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติจะเดินหน้าอย่างไรต่อนั้น ยืนยันว่า แม้เป็นพรรคเกิดใหม่ แต่มีส ส.36 คน ถือว่าไม่น้อย มีคะแนน 4-5 ล้านเสียง ก็ทำต้องทำพรรคให้แข็งแรงต่อไป
ส่วนแนวทางโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสุชาติ กล่าวว่า รอดูความชัดเจนว่าพรรคไหนจะเสนอรายชื่อประธานสภาฯ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะเสนอใคร แต่พรรครวมไทยสร้างชาติมีความสามัคคีในพรรคอยู่แล้ว ต้องหารือในพรรคก่อนจะโหวตให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด เพราะการโหวตประธานสภาฯ เป็นการกดปุ่มเริ่มเปิดสภา
ส่วนปัญหาการแย่งชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องถามจาก 2พรรค เพราะตนไม่เคยเข้าประชุมกับพรรคที่ตั้งรัฐบาล เราอยู่กันคนละข้างอยู่แล้ว แต่มองว่าตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นเรื่องสำคัญ จึงต้องมีความเหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะเอาหน้าตาไปมองประเทศอื่นอย่างไร สำหรับความเหมาะสมของตำแหน่งประธานสภาในที่นี้คือ ควรจะเป็นที่ยอมรับของส.ส.ทั้ง 500 คน ขณะที่เรื่องของพรรษาทางการเมือง ตนไม่ได้มอง ขึ้นอยู่กับคะแนนโหวตมากกว่า เรายึดมั่นในกติกาของสภา
ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเสนอชื่อประธานสภาฯ แข่งด้วยหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เรามีมารยาทพอ คงไม่ทำอย่างนั้น และคาดการณ์ว่าจะเป็นแบบนั้น
เมื่อถามว่า หากมีการเสนอชื่อนายสุชาติ ตันเจริญ ชิงตำแหน่งประธานสภาฯ มีความเหมาะสมหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า เป็นผู้แทนจังหวัดติดกัน รู้จักกัน เรื่องนี้ตอบในนามส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค มองว่าคุณวุฒิ วัยวุฒิ และประสบการณ์ของนายสุชาติ ตันเจริญ ก็มีสูง เป็นผู้แทนมาหลาย 10 ปี เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของสภาฯ ของบ้านเมือง ถ้าเป็นประธานสภาฯ ตนก็ยอมรับ เพราะตนมาเป็นส.ส. หลังนายสุชาติ ตันเจริญ ซึ่งผ่านอะไรมาเยอะกว่า
เมื่อถามถึงสูตรการจัดตั้งรัฐบาลสูตรที่ 4 คือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เลิกเล่นการเมือง จะรวมพรรคระหว่าง พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ เพื่อไทย และภูมิใจไทย กระแสนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า การคิดสูตรคำนวนต่าง ๆ เขาจับมาผสมกันว่าใครได้มากกว่าคือตั้งรัฐบาล ซึ่งก็คิดได้หลายมุม แต่มันเป็นแค่กระแส ความจริงยังไม่ใช่ ต้องอยู่กับปัจจุบันก่อน
เมื่อถามย้ำว่าหากต้องโหวตให้นายพิธาลิ้มเจริญรัตน์หรือพล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีจะโหวตให้ใคร นายสุชาติ กล่าวว่า ตนอยู่กับพล.อ.ประวิตรที่พรรคพลังประชารัฐมาก่อนแล้ว ตนจะไปโหวตให้นายพิธาได้อย่างไร ซึ่งความคิดคนละมุมกัน เขาสุดโต่งอยู่แล้ว เราคิดไม่เหมือนกับ เราจะอยู่กับเขาได้อย่างไร การเลือกตั้งครั้งนี้มีคนมาใช้สิทธิ์เกือบ 40 ล้านคน แล้วจะให้ตนไปอยู่ในฝั่ง 14 ล้านคนหรือ แล้วฝั่ง 27 ล้านคน จะไม่โกรธตนหรือตนขออยู่ฝั่ง 27 ล้านคน
ส่วนกระแสข่าวการเมืองอีกขั้วจะรวบรวมเสียงเพื่อดันพล.อ.ประวิตรเป็นนายกรัฐมนตรีนายสุชาติ มองว่า การตั้งรัฐบาลตามกรอบรัฐธรรมนูญ ใครที่รวมเสียงได้มากกว่าก็เป็นรัฐบาล แต่ใครจะรวมเสียงได้มากกว่า ตนไม่ได้อยู่ในวงนั้น ถือว่าข่าวก็มีคนชาวยคิดสูตรคำนวณหลายสูตร เป็นสมการได้ทั้งหมด แต่เราไม่สามารถตอบแทนคนอื่นได้ แต่ในส่วนตัวอยู่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันเราต้องยึดมั่นในกฎหมายมากกว่า
ส่วนที่เริ่มมีการพูดว่าฝั่ง 181 เสียง จะจับมือกับ 250 ส.ว. เพื่อพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะ มองสูตรนี้อย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า สูตรคำนวนตั้งรัฐบาลมีหลายสูตร ก็อยู่ที่จะดีไซน์แบบไหน ตนจึงไม่กล้าพูด เพราะเราต้องให้พรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ จัดตั้งให้ได้ก่อน.-สำนักข่าวไทย
