กระทบทั้งเก้าอี้นายกฯ -รับรองผู้สมัครส.ส.

ทำเนียบรัฐบาล 1 มิ.ย.-นักวิชาการ ชี้ถ้า “พิธา” ถือหุ้นสื่อเป็นความผิด มีผลทั้งตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ – การรับรองให้ผู้สมัครส.ส. เพราะกฎหมายเชื่อมโยงกัน มองไม่เห็นทางตั้งรัฐบาลแห่งชาติ


นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น จะเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลหรือครอบคลุมไปถึงการรับรองส.ส.ของพรรคก้าวไกล ว่า คงไม่มีใครสามารถตอบได้ ต้องย้อนไปว่า เมื่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตั้งเรื่องเสร็จ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งหากมองไปไกลถึงขนาดนั้นแปลว่าเรากำลังมองว่าเมื่อคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคผู้รับรองบรรดาผู้สมัครทั้งหลายขาดตกบกพร่อง หรือทำให้ขาดจากความเป็นผู้สมัครส.ส.หรือ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงต้องมาดูว่าสิ่งที่เราประสงค์จะให้รับรองคุณสมบัติ จะส่งให้หัวหน้าพรรครับรองหรือประสงค์ให้ผู้มีคุณสมบัติเป็นส.ส.หรือผู้มีคุณสมบัติที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีรับรอง

“ถ้าบอกว่าให้หัวหน้าพรรครับรอง สมมุติว่าหัวหน้าพรรคนั้นไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ ทั้งการเลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้ง คำถามคือหัวหน้าพรรคนั้นสามารถรับรองคุณสมบัติของผู้สมัครได้หรือไม่ ซึ่งต้องไปดูว่าสิ่งที่เราต้องการจากหัวหน้าพรรคคือคุณสมบัติอะไร ถ้าสิ่งที่เราต้องการคือคุณสมบัติส.ส.หรือคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.หรือคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี อันนั้นต้องเอาเกณฑ์มาพิจารณาว่าเมื่อขาดคุณสมบัติของการเป็น ผู้สมัครส.ส.หรือขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคนั้น ย่อมไม่สามารถรับรองบุคคลอื่นได้” นายเจษฎ์ กล่าว


นายเจษฎ์ อธิบายต่อว่า ถ้าบุคคลนั้นขาดคุณสมบัติและไปรับรองบุคคลอื่นจะมีผล 2 ประการ คือ 1. การรับรองเสียไป 2. บรรดาผู้ถูกรับรองทั้งหมดเสียสถานการณ์เป็นผู้สมัคร หากลากกันไปไกลอย่างนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ บรรดาผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้งหมดทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อขาดสถานการณ์เป็นผู้สมัครก็จะมีอีก 2 นัย คือ การพิจารณาว่าผู้ใดจะได้รับการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต ผู้ที่ได้ลำดับที่ 2 ส่วนในบัญชีรายชื่อต้องมาเกลี่ยร้อยละกันใหม่กับพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ ส่วนนัยที่ 2 อาจไปไกลถึงขั้นให้ถือว่าผู้สมัครส.ส.ขาดคุณสมบัติการลงสมัครและผ่านการเลือกตั้ง เมื่อได้รับการเลือกตั้งมาจะเกิดผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ก่อให้ผลการเลือกตั้งสิ้นผลไปกลายเป็นโมฆะ ต้องเลือกตั้งกันใหม่ อันนี้เป็นกรณีที่ลากไปไกล ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวนายพิธา

“หากเฉพาะตัวของนายพิธา การพิจารณาจะแคบลงไป ทั้งนี้ เมื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ถูกเอาไปใช้กับผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้น หากขาดคุณสมบัตินั้นก็จะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.และขาดจากการถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 วรรค 3 ห้ามให้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด รวมถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 และ มาตรา89 เรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติตามมาตรา 160 ซึ่งมาตรา 160 ก็นำเอามาตรา 98 มาใช้แปลว่ากลับมาที่จุดเดิม”  นายเจษฎ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ต้องดูการบรรยายคำฟ้องจึงจะทราบว่าจะมีผลอย่างไรหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า การบรรยายคำฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาให้ครอบคลุมถึงสภาวะการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ต้องรื้อฟ้องร้องกันใหม่ ต่างจากศาล ปกครองที่เป็นเรื่องเฉพาะหน่วยงาน อาจกำหนดตามคำขอ กรณีศาลรัฐธรรมนูญอาจพิจารณาในสิ่งที่เกี่ยวข้องกันได้ แต่ไม่ไกลไปจนถึงขั้นคิดเอาเอง


ส่วนการยื่นคำร้องของกกต.ก่อนและหลังประกาศรับรองผลเลือกตั้งจะมีผลต่างกันหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า อาจมีผลต่างกันที่สถานะ แต่การจัดการไม่แตกต่างกัน เช่น ก่อนประกาศเอาสถานะของผู้สมัครและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากขาดคุณสมบัติจะพ้นจาก 2 สถานะนี้ และผลที่ตามมาคือไม่ได้เป็นส.ส. ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าเป็นหลังประกาศรับรองผล จะพ้นจากการเป็น ส.ส.และพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกลับไปสู่สถานะเดิม

เมื่อถามถึงแนวคิดของนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ที่เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ไม่ค่อยเข้าใจว่าการตั้งรัฐบาลแห่งชาติจะมองในทิศทางไหน หากมองความเป็นไปได้ การมีรัฐบาลแห่งชาติจะเกิดภายใต้การปฏิวัติรัฐประหาร หรือเกิดจากการเชื่อมโยงของสภาวการณ์ที่เกิดความไม่สงบกับบ้านเมือง หรือเกิดประเด็นว่าไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่รู้จะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร หรือหาทางลงไม่ได้ ก็จะกลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติ กับอีกแบบคือหาทางลงยาก แล้วร่วมกันเป็นรัฐบาลผสมขนาดใหญ่ (Grand Coalition) อาจผสมกันทั้งหมด กลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติร่วมกันหรือลักษณะของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 

“แต่ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเสนอกันในลักษณะนั้น  ไม่เห็นทางว่าจะไปลงตรงรัฐบาลแห่งชาติได้อย่างไร ท้ายที่สุดอาจจะแปลเพียงแค่ว่ารัฐบาลแห่งชาติคือ ให้บรรดาผู้ที่กำลังจะรวมกันจัดตั้งรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์ของชาติ ประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง ส่วนแนวคิดดังกล่าวจะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่นั้น หากเป็นเพียงแนวคิดก็อาจจะเกิดแรงกระเพื่อมตะกอนที่นอนก้นอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงกับเกิดความวุ่นวาย ทางความคิดอาจจะถกกัน แต่ยังไม่กระทบกับกายภาพของบ้านเมือง แต่ถ้าถึงเวลาต้องทำจริง ๆ ก็อาจจะกระทบและทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นและต้องระมัดระวัง” นายเจษฎ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

US election

ทรัมป์-แฮร์ริส หาเสียงวันสุดท้าย ก่อนหย่อนบัตรวันนี้

ขณะนี้เหลือไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็จะถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 5 พฤศจิกายน ผลสำรวจความเห็นประชาชนต่างชี้ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส