กระทบทั้งเก้าอี้นายกฯ -รับรองผู้สมัครส.ส.

ทำเนียบรัฐบาล 1 มิ.ย.-นักวิชาการ ชี้ถ้า “พิธา” ถือหุ้นสื่อเป็นความผิด มีผลทั้งตำแหน่งแคนดิเดตนายกฯ – การรับรองให้ผู้สมัครส.ส. เพราะกฎหมายเชื่อมโยงกัน มองไม่เห็นทางตั้งรัฐบาลแห่งชาติ


นายเจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น จะเป็นความผิดเฉพาะตัวบุคคลหรือครอบคลุมไปถึงการรับรองส.ส.ของพรรคก้าวไกล ว่า คงไม่มีใครสามารถตอบได้ ต้องย้อนไปว่า เมื่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตั้งเรื่องเสร็จ ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย ซึ่งหากมองไปไกลถึงขนาดนั้นแปลว่าเรากำลังมองว่าเมื่อคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคผู้รับรองบรรดาผู้สมัครทั้งหลายขาดตกบกพร่อง หรือทำให้ขาดจากความเป็นผู้สมัครส.ส.หรือ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงต้องมาดูว่าสิ่งที่เราประสงค์จะให้รับรองคุณสมบัติ จะส่งให้หัวหน้าพรรครับรองหรือประสงค์ให้ผู้มีคุณสมบัติเป็นส.ส.หรือผู้มีคุณสมบัติที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีรับรอง

“ถ้าบอกว่าให้หัวหน้าพรรครับรอง สมมุติว่าหัวหน้าพรรคนั้นไม่ได้ถูกตัดสิทธิ์ ทั้งการเลือกตั้งและสมัครรับเลือกตั้ง คำถามคือหัวหน้าพรรคนั้นสามารถรับรองคุณสมบัติของผู้สมัครได้หรือไม่ ซึ่งต้องไปดูว่าสิ่งที่เราต้องการจากหัวหน้าพรรคคือคุณสมบัติอะไร ถ้าสิ่งที่เราต้องการคือคุณสมบัติส.ส.หรือคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.หรือคุณสมบัติของผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี อันนั้นต้องเอาเกณฑ์มาพิจารณาว่าเมื่อขาดคุณสมบัติของการเป็น ผู้สมัครส.ส.หรือขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคนั้น ย่อมไม่สามารถรับรองบุคคลอื่นได้” นายเจษฎ์ กล่าว


นายเจษฎ์ อธิบายต่อว่า ถ้าบุคคลนั้นขาดคุณสมบัติและไปรับรองบุคคลอื่นจะมีผล 2 ประการ คือ 1. การรับรองเสียไป 2. บรรดาผู้ถูกรับรองทั้งหมดเสียสถานการณ์เป็นผู้สมัคร หากลากกันไปไกลอย่างนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ บรรดาผู้สมัครของพรรคก้าวไกลทั้งหมดทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อขาดสถานการณ์เป็นผู้สมัครก็จะมีอีก 2 นัย คือ การพิจารณาว่าผู้ใดจะได้รับการเลือกตั้งส.ส.แบบแบ่งเขต ผู้ที่ได้ลำดับที่ 2 ส่วนในบัญชีรายชื่อต้องมาเกลี่ยร้อยละกันใหม่กับพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ ส่วนนัยที่ 2 อาจไปไกลถึงขั้นให้ถือว่าผู้สมัครส.ส.ขาดคุณสมบัติการลงสมัครและผ่านการเลือกตั้ง เมื่อได้รับการเลือกตั้งมาจะเกิดผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ก่อให้ผลการเลือกตั้งสิ้นผลไปกลายเป็นโมฆะ ต้องเลือกตั้งกันใหม่ อันนี้เป็นกรณีที่ลากไปไกล ไม่ใช่แค่เฉพาะตัวนายพิธา

“หากเฉพาะตัวของนายพิธา การพิจารณาจะแคบลงไป ทั้งนี้ เมื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส. ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ถูกเอาไปใช้กับผู้ที่ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้น หากขาดคุณสมบัตินั้นก็จะขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส.และขาดจากการถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 98 วรรค 3 ห้ามให้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด รวมถึงรัฐธรรมนูญ มาตรา 88 และ มาตรา89 เรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี มีคุณสมบัติตามมาตรา 160 ซึ่งมาตรา 160 ก็นำเอามาตรา 98 มาใช้แปลว่ากลับมาที่จุดเดิม”  นายเจษฎ์ กล่าว

เมื่อถามว่า ต้องดูการบรรยายคำฟ้องจึงจะทราบว่าจะมีผลอย่างไรหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า การบรรยายคำฟ้องถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาให้ครอบคลุมถึงสภาวะการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้ต้องรื้อฟ้องร้องกันใหม่ ต่างจากศาล ปกครองที่เป็นเรื่องเฉพาะหน่วยงาน อาจกำหนดตามคำขอ กรณีศาลรัฐธรรมนูญอาจพิจารณาในสิ่งที่เกี่ยวข้องกันได้ แต่ไม่ไกลไปจนถึงขั้นคิดเอาเอง


ส่วนการยื่นคำร้องของกกต.ก่อนและหลังประกาศรับรองผลเลือกตั้งจะมีผลต่างกันหรือไม่ นายเจษฎ์ กล่าวว่า อาจมีผลต่างกันที่สถานะ แต่การจัดการไม่แตกต่างกัน เช่น ก่อนประกาศเอาสถานะของผู้สมัครและผู้ถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หากขาดคุณสมบัติจะพ้นจาก 2 สถานะนี้ และผลที่ตามมาคือไม่ได้เป็นส.ส. ไม่สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้าเป็นหลังประกาศรับรองผล จะพ้นจากการเป็น ส.ส.และพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกลับไปสู่สถานะเดิม

เมื่อถามถึงแนวคิดของนายจเด็จ อินสว่าง สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ที่เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ นายเจษฎ์ กล่าวว่า ไม่ค่อยเข้าใจว่าการตั้งรัฐบาลแห่งชาติจะมองในทิศทางไหน หากมองความเป็นไปได้ การมีรัฐบาลแห่งชาติจะเกิดภายใต้การปฏิวัติรัฐประหาร หรือเกิดจากการเชื่อมโยงของสภาวการณ์ที่เกิดความไม่สงบกับบ้านเมือง หรือเกิดประเด็นว่าไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่รู้จะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร หรือหาทางลงไม่ได้ ก็จะกลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติ กับอีกแบบคือหาทางลงยาก แล้วร่วมกันเป็นรัฐบาลผสมขนาดใหญ่ (Grand Coalition) อาจผสมกันทั้งหมด กลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติร่วมกันหรือลักษณะของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 

“แต่ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงเสนอกันในลักษณะนั้น  ไม่เห็นทางว่าจะไปลงตรงรัฐบาลแห่งชาติได้อย่างไร ท้ายที่สุดอาจจะแปลเพียงแค่ว่ารัฐบาลแห่งชาติคือ ให้บรรดาผู้ที่กำลังจะรวมกันจัดตั้งรัฐบาล คำนึงถึงประโยชน์ของชาติ ประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง ส่วนแนวคิดดังกล่าวจะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่นั้น หากเป็นเพียงแนวคิดก็อาจจะเกิดแรงกระเพื่อมตะกอนที่นอนก้นอยู่บ้าง แต่คงไม่ถึงกับเกิดความวุ่นวาย ทางความคิดอาจจะถกกัน แต่ยังไม่กระทบกับกายภาพของบ้านเมือง แต่ถ้าถึงเวลาต้องทำจริง ๆ ก็อาจจะกระทบและทำให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นและต้องระมัดระวัง” นายเจษฎ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย        

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]