กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – เปิดกฎเหล็ก กกต. ห้ามทำในวันเลือกตั้ง ทั้งซื้อขาย แจก จ่ายสุรา ส่วนผลโพล ห้ามเผยแพร่เริ่มนับ 7 พ.ค. จนถึงปิดหีบลงคะแนน
วันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 14 พฤษภาคม และวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 เกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 ดังนี้
- ห้ามผู้ใดขาย จำหน่าย แจกจ่าย หรือจัดเลี้ยงสุราทุกชนิด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันเลือกตั้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยบทบัญญัตินี้ใช้บังคับกับวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าด้วย
- ห้ามผู้ใดเล่นหรือจัดให้เล่นการพนันขันต่อเกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้เล่น 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งผู้จัดให้มีการเล่น
- ห้ามผู้ใดเปิดเผย หรือเผยแพร่ผลสำรวจความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการลงคะแนนการเลือกตั้งในระหว่าง 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง จนถึงเวลาปิดการลงคะแนนการเลือกตั้ง (ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ถึงวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เวลา 17.00 น.) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามมิให้ผู้สมัครผู้ใดจัดยานพาหนะนำผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปยังที่เลือกตั้งหรือนำกลับไปจากที่เลือกตั้ง หรือจัดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปหรือกลับเพื่อการออกเสียงลงคะแนน โดยไม่ต้องเสียค่าโดยสารยานพาหนะหรือค่าจ้างซึ่งต้องเสียตามปกติ ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการตามวรรคหนึ่ง เพื่อจูงใจหรือควบคุมให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปลงคะแนนเลือกหรือลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด มีโทษจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี บทบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่การที่หน่วยงานของรัฐจัดยานพาหนะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
- ห้ามผู้ใดดำเนินการหรือยินยอมให้มีการย้ายบุคคลใดเข้ามาในทะเบียนบ้านของตนเพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งโดยมิชอบ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
ส่วนความผิดเกี่ยวกับการลงคะแนน คือ 1. ห้ามผู้ใดกระทำการเพื่อไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิได้ หรือขัดขวาง หรือหน่วงเหนี่ยว ไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ หน่วยเลือกตั้ง หรือไม่ให้ไปถึง ณ ที่เลือกตั้งภายในเวลาที่จะออกเสียงลงคะแนน มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
- ห้ามผู้มีสิทธิเลือกตั้งถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนเลือกตั้งไว้แล้ว หรือแสดงบัตรเลือกตั้งที่ได้ลงคะแนนไว้แล้วให้ผู้อื่นทราบ ว่าได้ลงคะแนนเลือกหรือไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างขัดขวาง หรือหน่วงเหนี่ยว หรือไม่ให้ความสะดวกพอสมควรต่อการไปใช้สิทธิเลือกตั้งของผู้ใต้บังคับบัญชาหรือลูกจ้าง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเรียก รับ หรือยอมจะรับเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เพื่อลงคะแนนหรือไม่ลงคะแนน มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
ขณะที่ความผิดเกี่ยวกับบัตรเลือกตั้ง ส.ส. มีดังนี้
- ห้ามไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้วนำบัตรเลือกตั้งออกไปจากที่เลือกตั้ง หรือจงใจทำเครื่องหมายเพื่อเป็นที่สังเกตไว้ที่บัตรเลือกตั้ง มีโทษจำคุก 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี
- ผู้ใดจงใจทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุด หรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือทำบัตรเสียให้เป็นบัตรที่ใช้ได้ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี. – สำนักข่าวไทย