นครพนม 4 พ.ค. – นครพนมเดือด! “อนุทิน” ปราศรัย ชี้แจงปมถูกกล่าวหา ย้ำ “ภูมิใจไทย” ได้เสียงมากพอ ตำแหน่งนายกฯ ไม่แบ่งใครแน่นอน
4 พฤษภาคม 2566 ณ หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 4 (รัตนโกสินทร์ 200 ปี) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และคณะ เดินทางลงพื้นที่ปราศรัยช่วยนายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 มีประชาชนรับฟังการปราศรัยกว่า 3,000 คน
ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้กล่าวแนะนำผลงานที่ผ่านมาของรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ที่กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกอบด้วยความสำเร็จในนโยบายฟอกไตฟรี การขยายการให้บริการเครื่องฉายรังสีมะเร็ง การผลักดันเพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาท การขยายถนน 4 เลน จากนครพนมไปบึงกาฬ เป็นเส้นทางเชื่อมโยงจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดอำนาจเจริญ และสิ้นสุดที่จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้น นอกจากนี้ ยังแนะนำนโยบายของพรรคภูมิใจไทย อาทิ การพักหนี้ 3 ปี, ทุกอำเภอมีศูนย์ฟอกไต, ทุกจังหวัดมีเครื่องฉายรังสี, การให้นครพนมมีโรงพยาบาลศูนย์, กองทุนผู้สูงอายุ, นโยบายเงินกู้ฉุกเฉิน 50,000 บาท เป็นต้น
โดยในบางช่วงของการปราศรัย นายอนุทิน ได้กล่าวถึงประเด็นที่ถูกพาดพิงทางการเมือง ระบุว่า “มีบางพรรคมาสร้างความเข้าใจผิดกับพี่น้อง ว่าเลือกภูมิใจไทย จะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ไปบอกว่า อย่างไรเสีย เราก็เลือก พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งไม่จริง เขากำลังโกหก ผมประกาศแล้วว่าพร้อมเป็นนายกฯ เข้ามาดูแลพี่น้อง ถ้าพรรคภูมิใจไทยได้เสียงมากพอ ดูแลเหมาะสม คนชื่ออนุทินนี่เองจะเป็นนายกฯ ไม่แบ่งให้ใคร เราสู้กันมาขนาดนี้ เพื่อขอโอกาสเข้าไปทำงาน ถ้าประชาชนไว้ใจ จนเราได้เสียงมามากแล้ว มีความเหมาะสมในการเป็นนายกฯ แล้ว เราไม่ให้ใคร มันไม่มีคนโง่ขนาดนั้น นี่คน กินข้าว ไม่ใช่ควาย ส่วนคนที่มาใส่ร้ายเรา เขาพูดไม่จริง โกหก วันนี้หาเสียงเขาให้พูดความจริง
นอกจากนั้น ยังมีผู้ใหญ่ในทางการเมืองบางคน มาบอกว่า วันเลือกตั้งปี 2562 พอภูมิใจไทยรู้คะแนนเสียง ผมรีบโทรหาทหาร ไปจัดตั้งรัฐบาลกัน นั่นก็โกหก ตอนนั้นมีสายเข้ามาจำนวนมาก ตนไม่ต้องโทรหาใครเลย มีแต่คนที่โทรเข้ามา จนต้องปิดเครื่อง เปลี่ยนเบอร์ เพราะสายเข้ามากมายมหาศาล ไม่ต้องโทรหาใครก่อนเลย พวกรู้ไม่จริง อย่าพูดพล่อยๆ”
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เห็นด้วยกับนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ อีกคนของพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาโจมตีนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทย ว่า ได้ติดตามดูแล้ว เขาไม่ได้เห็นด้วยกับทุกเรื่อง ซึ่งเป็นการพูดถึงการจับขั้วรัฐบาล 2 พรรค เรื่องนี้เราอย่าเพิ่งไปผูกมัด ตนไม่ได้มีปัญหากับ น.ส.แพทองธาร ยังแสดงความยินดีด้วยซ้ำที่ได้ลูกชาย น้องธาษิณ จึงไม่ใช่เวลาที่เราจะมาวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร แข็งแรงมาก แค่วันสองวันก็ออกมาแล้ว ออกมากอบกู้พรรคเพื่อไทย
เมื่อถามถึงกรณีที่โลกโซเชียลฯ เผยแพร่ศึกวิวาทะ “หนูนิด” นายอนุทิน กล่าวว่า จะหนูนิด หนูหน่อย หนูอี๊ด หนูแอ๊ด ก็ไม่มีปัญหา ส่วนจะมีปัญหาในการจับคู่รัฐบาลในอนาคตหรือไม่ ตนขอย้ำว่า เคยบอกไปแล้วว่าแต่ละพรรคเขารู้ว่าคนไหนคือคนที่เคาะ เราจบประเด็นนี้ได้แล้ว เพราะการที่ตนตอบโต้นายเศรษฐา เพราะเขามาโจมตีพรรคภูมิใจไทยก่อนในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง สิ่งที่เป็นเท็จ เราก็ต้องออกมาตอบโต้
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่ลูกพรรคหลายคนออกไปดำเนินคดีกับนายเศรษฐา เพราะกระทบกับตัวเขา ตนจะไปบังคับเขาได้อย่างไร เพราะภูมิใจไทยไม่ได้เสียหายอย่างเดียว ผู้สมัครก็เสียหายด้วย จะทำอะไรก็ได้ แต่อย่าให้ผิดกฎหมาย อย่าทำอะไรที่จะกระทบต่อคะแนนที่ประชาชนจะเลือกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ต้องระวัง เพราะจะผิดไม่รู้อีกกี่กระทง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ออกมาประกาศจะจัดตั้งศูนย์ต่อต้านกัญชา จนกว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นฝ่ายค้าน นายอนุทิน กล่าวสวนกลับทันทีว่า คงอีกหลายปี จริงๆ แล้วสิ่งที่นายชูวิทย์ ดำเนินการป้องกันการใช้กัญชาผิดกฎหมาย ถือเป็นเรื่องดี เรื่องที่เป็นประโยชน์ให้กับบ้านเมือง แต่ถ้าใช้กัญชาเพื่อเศรษฐกิจ ทางการแพทย์ สุขภาพ อันนี้ใครก็ต้านไม่ได้. – สำนักข่าวไทย