สำนักงาน กกต. 3 พ.ค.-“แสวง” ยัน กกต.ไม่ได้คิดสูตรคำนวณ ส.ส. แต่ สนช.กำหนดไว้ในกฎหมาย รอกกต.ตัดสินใจฟ้อง “ธนาธร-หมอมิ้ง” ปราศรัยใส่ร้าย เผยมี 78 เรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง ไม่ตอบปมข่าวใหญ่
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุว่า กกต.เปลี่ยนสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า ต้องดูว่า กกต.ทุกคนจะเอาอย่างไร ถ้าเสียหายก็ต้องใช้สิทธิ ส่วนที่ว่าเราตั้งศูนย์ปฏิบัติงานคณะกรรมการต่อต้านข่าวเท็จ เพื่อมาตรวจสอบเฟคนิวส์ใส่ร้าย กกต. ต้องบอกว่า เฟคนิวส์คือข่าวเท็จ เราดูเรื่องนี้ และทุกคนมีเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเป็นเรื่องเท็จแล้วมีคนเสียหาย ก็เป็นคนละเรื่องกับเสรีภาพ ต้องแยกกันให้ถูก
“ถ้าเป็นเฟคนิวส์มี 2 อย่าง คือ ทำให้เสียหายไหม หรือทำเล่นเพื่อความสนุกอะไรหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเสรีภาพในการพูด รัฐธรรมนูญเขาคุ้มครองไว้อยู่แล้ว เราไปทำอะไรไม่ได้ อย่างที่นายปกรณ์ มหรรณพ กกต. พูดว่ามีหลายเรื่องที่กระทบ จริง ๆ อาจจะใช้คำว่าด่าก็ได้ ท่านเองก็บอกว่า ท่านอยู่ในตำแหน่งแบบนี้ เป็นบุคคลสาธารณะ จึงยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่ถ้าไปทำให้เสียหาย อย่างเช่น เรื่องสูตรการคำนวณ กกต.ไม่ได้เป็นคนคิด แต่ สนช.เป็นคนกำหนด แล้วเรานำมาใช้เลย เรียกว่าคำนวณตามสูตรที่อยู่ในกฎหมาย” เลขาธิการ กกต. กล่าว
นายแสวง กล่าวว่า ขณะนี้มีคำร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จำนวน 78 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง การหาเสียงหลอกลวง และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่ง กกต.จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งกรณีความปรากฏ กกต.จะหยิบยกขึ้นมาตรวจสอบเองด้วยเช่นกัน เนื่องจาก กกต.มีหน่วยงานที่คอยช่วยตรวจสอบและเฝ้าระวังการทำผิดกฏหมายเลือกตั้ง ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีบุคคลมายื่นคำร้อง หรือ กกต.ตรวจสอบเองตามกระบวนการ กกต.ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางผู้ร้องและผู้ถูกกล่าวหา
เมื่อถามถึงกรณีการตรวจสอบพรรคการเมืองหนึ่งที่มีการเก็บภาพบัตรประชาชนหลังเวทีปราศรัยที่จังหวัดอำนาจเจริญ นายแสวง กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลายเงื่อนเวลา แต่มีคนนำภาพมาปนกัน ซึ่ง กกต.มีกระบวนการสืบสวนสอบสวน ส่วนจะจบอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง เบื้องต้นคงไม่สามารถพูดอะไรได้มาก แต่มีการตรวจสอบและเป็นสำนวนไปแล้ว เมื่อภาพมีหลายเหตุการณ์ จึงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วนก่อน
ส่วนกรณีนายปกรณ์ มหรรณพ กกต. ระบุว่า ภายใน 1-2 วันนี้จะมีข่าวใหญ่ สามารถบอกได้หรือไม่ว่าเป็นเรื่องใด เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่อยากชี้แจงประเด็นนี้ ส่วนมีความคืบหน้าอย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบ ไม่ได้ทิ้งประเด็น
เมื่อถามย้ำว่า มีความเชื่อมโยงไปถึงผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหรือไม่ นายแสวง ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่า เมื่อมีความคืบหน้าจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ส่วนกรณีพรรคภูมิใจไทยจะยื่น กกต.ตรวจสอบนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กรณีปราศรัยใส่ร้ายด้วยความเท็จ จูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทย เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าเขาพูดแบบใด เข้าข่ายใส่ร้าย หลอกลวงหรือไม่ ต้องดูข้อเท็จจริงประกอบ
“ส่วนความเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันไปก็เป็นอีกเรื่อง อะไรที่ไม่ผิดกฎหมายก็สามารถพูดและนำเสนอได้ เพราะถ้าผิดกฎหมาย สุดท้ายมันไม่จบที่ กกต. แต่มันจบที่คนพูด” นายแสวง กล่าว.-สำนักข่าวไทย