จำคุก 6 ปี “อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์” เรียกรับเงิน 5 ล้าน กรมน้ำบาดาล

ศาลฎีกา 25 เม.ย. – ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 6 ปี “อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์”  อดีต ส.ส.เพื่อไทย เรียกรับเงิน 5 ล้านบาท จากอดีตอธิบดีกรมน้ำบาดาล  ไม่มีเหตุโทรศัพท์ขอเอกสาร ให้ฝ่ายเลขาฯ ดำเนินการแทนได้ อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์ ราคาประกัน 1 ล้านบาท


ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้องนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในความผิดกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายอนุรักษ์ ในฐานะอนุกรรมาธิการการพิจารณาศึกษางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 เรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แลกกับการผ่านงบประมาณ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 

โดยนายอนุรักษ์เดินทางมาศาล องค์คณะผู้พิพากษาอ่านคำพิพากษาเห็นว่ากรณีนายอนุรักษ์ให้การโต้แย้งนายศักดิ์ดาว่าเป็นการโทรศัพท์ไปซักถามขอเอกสารเพิ่มเติมและแบบแปลน รวมถึงประมาณราคาของโครงการนั้น สามารถมอบหมายฝ่ายเลขานุการดำเนินการให้ได้ ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์ติดต่อด้วยตนเอง และพิจารณาระยะเวลาในการโทรศัพท์ประมาณ 15 นาที หากเพียงแค่ขอเอกสารไม่น่าใช้เวลานานเพียงนี้


ทั้งนี้ พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในวิสัยที่นายศักดิ์ดาจะวางแผนสร้างเรื่อง และหากนายอนุรักษ์ไม่โทรศัพท์เรียกเงินของาน ไม่มีเหตุที่นายศักดิ์ดาจะต้องพูดเรื่องร้ายแรงนี้ในที่ประชุม คำเบิกความของนายศักดิ์ดามีเหตุผลสอดคล้องเชื่อมโยงกับพยานอื่นอีก 3 ปาก ทำให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ รับฟังได้ว่านายอนุรักษ์ได้กระทำตามข้อกล่าวหาจริง

อย่างไรก็ตาม ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. นายอนุรักษ์คัดค้านว่าได้ทำหนังสือขอเรียกพยานเอกสารจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และขอเรียกพยานบุคคลมาให้การ 3 คน แต่ ป.ป.ช. ไม่ได้ดำเนินการตามที่ร้องขอ จึงถือเป็นการเร่งรัดสรุปสำนวน ซึ่งศาลเห็นว่านายอนุรักษ์ไม่ได้ร้องขอเอกสารมาเป็นพยานหลักฐานโดยตรง เพียงแต่ขอให้ติดตามเร่งรัดให้ส่งเอกสารคำชี้แจงเพื่อนำมาประกอบคำชี้แจงของเท่านั้น เมื่อขณะนั้นนายอนุรักษ์ยังไม่ได้ยื่นคำชี้แจงมา จึงไม่จำเป็นที่คณะไต่สวนต้องเรียกเอกสาร   

ส่วนที่ไม่เรียกพยานบุคคลตามที่ร้องขอคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้บันทึกเหตุผลไว้แล้ว อีกทั้งยังมีการไต่สวนพยานบุคคลถึง 17 ปาก และอนุญาตให้นายอนุรักษ์ขยายเวลายื่นคำชี้แจงอย่างเต็มที่ จึงไม่ได้เร่งรีบสรุปสำนวนตามที่กล่าวอ้าง


ศาลพิเคราะห์ว่า นายอนุรักษ์มีอำนาจในตำแหน่ง ส.ส. และอนุกรรมาธิการการแผนงานบุรณาการ 2 อาจเสนอความเห็นให้คุณหรือโทษแก่งบประมาณของหน่วยราชการได้ การที่นายอนุรักษ์โทรศัพท์ไปเรียกเงินและของานจากนายศักดิ์ดา ย่อมเป็นการกระทำในตำแหน่งและอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายอนุรักษ์โดยตรง จึงเป็นการเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินโดยมิชอบ และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงาน พิพากษาลงโทษจำคุก 6 ปี ให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2565 อันเป็นวันที่ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และเพิกถอนสิทธิการดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง   ตามคำพิพากษาในคดีความผิดจริยธรรมร้ายแรง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมาฟังคำพิพากษาครั้งนี้มีครอบครัวนายอนุรักษ์ ประกอบด้วย   ลูกชายและลูกสาว เดินทางมาให้กำลังใจ ตลอดการอ่านคำพิพากษา 1 ชั่วโมง นายอนุรักษ์มีสีหน้าเคร่งเครียด และหันไปพูดคุยกับลูกชาย ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้น ซึ่งนายอนุรักษ์ได้ยื่นทำเรื่องประกันตัวทันที

ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายอนุรักษ์ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด เพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์คดี โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 1 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 6 มกราคม ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้นายอนุรักษ์มีความผิดคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้พ้นจากจากตำเเหน่งหน้าที่เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย