พรรคเพื่อไทย 18 เม.ย.- “แพทองธาร” ลั่นให้ดูหน้า ไม่พูดตรงว่าไม่จับมือกับคนทำรัฐประหารเพราะให้เกียรติประเทศ ย้ำพร้อมเป็นนายกฯ 12 พ.ค.นี้ 3 แคนดิเดตนายกฯ ขึ้นเวทีพร้อมกัน ด้าน “ภูมิธรรม” แจงมือเศรษฐกิจ-มือกฎหมายไม่ขัดแย้ง พร้อมสู้วิชามาร
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงผลสำรวจโพลและการปรับยุทธศาสตร์เลือกตั้งในช่วงโค้งสุดท้ายว่า ต้องขอบคุณประชาชนที่ยังไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและตน ไม่รู้สึกหวั่นใจ ซึ่งหากรวมคะแนนในฝั่งประชาธิปไตยถือว่ายังคงนำขาดอยู่ แต่ไม่ประมาท เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งต้องหนักแน่นและไม่แผ่ว ไม่อย่างนั้นการเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้น เราอาจจะได้นายกรัฐมนตรีคนเดิม เพราะฉะนั้นเราต้องมุ่งเน้นไปด้วยกัน ส่วนตนอยู่ในช่วงใกล้คลอด แต่จะทำงานเต็มที่ในส่วนที่ยังทำได้และเท่าที่คุณหมออนุญาต โดยเฉพาะการซูมไปยังเวทีปราศรัย
ส่วนกรณีที่นิด้าโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่พรรคเพื่อไทยมีเปอร์เซ็นต์คะแนนลดลง คิดว่ามาจากความไม่ชัดเจนในการจับมือกับพรรคฝั่งตรงข้ามหรือไม่ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องจับมืออยากให้ทุกคนดูหน้าตนไว้ว่าไม่ได้ชอบการรัฐประหารที่เกิดขึ้นสองครั้ง ล่าสุดที่ทุกคนจำกันได้ ตนก็คงไม่ชอบ เพราะฉะนั้นการที่ตนไม่ได้ตอบออกมาตรงๆ หลายครั้งถึงการจับมือ เพราะตนให้เกียรติประชาชน ให้เกียรติประเทศ เพราะการเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น
“ถามว่าคนที่ไม่ได้อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย คนที่ทำรัฐประหารมา ตนอยากจับมือด้วยไหม อันนี้ควรเป็นคำตอบที่ประชาชนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว และแน่นอนผลกระทบที่ได้รับนั้นตนต้องแยกเรื่อง ดังนั้น การตอบออกไปอย่างใช้อารมณ์ อาจจะไม่ใช่แนวที่จะสื่อให้มีเหตุผลออกไปได้ แต่ถามว่าตนอยากจับไหมกับคนที่ทำรัฐประหารมาสองครั้ง เพราะฉะนั้นคำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้ว” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนที่หลายคนเชียร์ให้ น.ส.แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี แต่นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวปราศรัยที่จังหวัดปทุมธานี ระบุว่า ส.ส.แพทองธาร ยังถือหุ้นอยู่ ซึ่งหากประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยจะได้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน ต้องเอาคนที่ตอบโจทย์กับปัญหาบ้านเมืองมากที่สุด
“ไม่อยากให้เอาดราม่ามาเป็นประเด็นทางการเมืองทั้งหมด ยืนยันว่าตนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน นายเศรษฐาก็พร้อม และนายชัยเกษมก็พร้อม ทั้ง 3 คนพร้อม เพราะฉะนั้นอยู่ที่ยุทธศาสตร์และผลของการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นอนาคตที่ยังไม่มีใครทราบ” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าว
เมื่อถามถึงการที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนถูกวิจารณ์ว่าไม่ลงพื้นที่จะกระทบเป้าหมายแลนด์สไลด์หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคสื่อสารกับผู้สมัคร ส.ส.ตลอด เมื่อได้เสียงสะท้อนจากประชาชนเชื่อว่า ส.ส.เขตของเราจะกระตือรือร้น และการที่คะแนนของพรรคดีไม่ได้แปลว่าจะได้ ส.ส.ทันที ซึ่งผู้สมัคร ส.ส. ต้องลงพื้นที่ซื้อใจประชาชนและทำการบ้าน เพราะสมัยนี้ชาวบ้านไม่สามารถซื้อได้ด้วยอย่างอื่น นอกจากความจริงใจ ความสามารถ และนโยบายของพรรค ถ้าผู้สมัคร ส.ส. ไม่ทำตรงนี้ก็ไม่ได้เข้าสภาฯ
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ ทั้งที่ได้มากและได้น้อย ตนวางแผนไว้หลังจากนี้ที่เดินทางไปจังหวัดอื่นไม่ได้ก็จะทำเต็มที่กับ กทม. เรามีความมั่นใจเราได้สื่อสารกับคน กทม. จำนวนมาก ซึ่งดูจากโพลทุกสำนักและโพลของพรรคเปรียบเทียบกันเราก็มีความมั่นใจ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรรค กล่าวถึงกรณีที่วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการส่งที่มาการใช้งบในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองต่อ กกต. โดยเฉพาะนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่ากรอบนโยบายของพรรคเพื่อไทยจัดทำเสร็จตั้งแต่แรกแล้ว เพราะฉะนั้นไม่เป็นปัญหา และได้ส่งนโยบายทั้งหมดต่อ กกต. เป็น 100 นโยบายแล้ว เรื่องนี้ที่ช้าเป็นเพราะว่าเราไม่ต้องการเร็ว เรามีจังหวะในการเปิด ซึ่งเราทราบอยู่แล้วว่าวันที่ 18 เมษายน เป็นวันสุดท้ายที่เราจะยื่น กกต. ทั้งหมดจบแล้ว
นายภูมิธรรม กล่าวถึงกระแสข่าวทีมเศรษฐกิจและทีมกฎหมายของพรรคเพื่อไทยชนกันจนเลือดหัวสาดว่า เป็นดราม่าที่เกินความจริงมาก เราไม่เคยทะเลาะกัน เราคุยกันจบแล้วเราพูดด้วยความมั่นใจ เราไม่กล้าพูดสุ่มสี่สุ่มห้าที่จะมาทำลายเครดิตที่เราเคยทำไว้ ยืนยันว่าฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายเศรษฐกิจ รวมถึงผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย ทำงานเป็นเอกภาพ
“นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เราหวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ได้ตัดนโยบายเดิมที่ประชาชนเคยได้รับ ยืนยันว่าผู้ที่เคยได้รับเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงได้รับต่อไป ไม่เกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้ และงบที่นำมาใช้ก็มาจากงบประมาณที่รั่วไหลและสุรุ่ยสุร่าย ยืนยันว่างบประมาณ 500,000 ล้านบาท เป็นกรอบที่เราสามารถดำเนินการได้” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคพิจารณาความนิยมทุกชุมชนมีมากถึง 40-50% ขณะที่บางพรรคการเมืองดีขึ้น เราไม่ปฏิเสธ กลับดีใจด้วย เพราะเป็นพรรคฝั่งประชาธิปไตย แต่จะดีขึ้นเฉพาะในส่วนหัวเมืองและ กทม. สำหรับพรรคเพื่อไทยวันนี้เรามั่นใจว่าจะเป็นเครื่องมือและเงื่อนไขที่นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงของประชาชน ส่วนช่วงโค้งสุดท้ายที่มักใช้วิชามารเป็นเรื่องธรรมดาที่พบตลอด ซึ่งจะระมัดระวัง เอาความจริงและตัวเราเขาสู้
นายภูมิธรรม กล่าวถึงสุขภาพของนายชัยเกษมขณะนี้ดี เรื่องเลือดคั่งในสมองเป็นเรื่องเก่า ไม่กระทบ เราไม่อยากใช้ร่างกายของท่านเปลืองเกินความจำเป็น น.ส.แพทองธาร กล่าวเสริมว่า ขณะนี้นายชัยเกษมยังลงพื้นที่ไม่ได้ แต่คาดว่าการปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายวันที่ 12 พฤษภาคม เพื่อสรุปการหาเสียงจะได้เห็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยขึ้นเวทีพร้อมกันทั้ง 3 คน.-สำนักข่าวไทย
