นักวิชาการ ชี้จับตาผลนิด้าโพล “พิธา-ก้าวไกล” คะแนนนิยมพุ่ง

นิด้า 17 เม.ย. – นักวิชาการ ชี้ ต้องจับตาผลนิด้าโพลสะท้อน “พิธา-ก้าวไกล” คะแนนนิยมพุ่ง แม้จะยังเป็นรอง “เพื่อไทย” แนะบ้านใหญ่ภาคตะวันออกปรับกลยุทธ์รับมือก้าวไกล เตือนเพื่อไทยปรับแนวทางหาเสียงหลังพบผู้สมัครหลายเขตไม่ลงพื้นที่


นายสุวิชา เป้าอารีย์ ผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล กล่าวถึงผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 2” ที่ทำการสำรวจระหว่าง วันที่ 3-7 เมษายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาคระดับการศึกษาอาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น จำนวน 2,000 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับศึกเลือกตั้ง 2566 ครั้งที่ 2 ว่า คะแนนของ น.ส.แพทองธาร (อิ๊งค์) ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ลดลงมาจากครั้งก่อน ขณะที่คะแนนของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล พุ่งขึ้นมา ส่วนคะแนนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ลดลงมา แต่การเพิ่มหรือลดมา 2-3% ไม่มีนัยมากนัก ขณะที่คะแนนของพรรคนั้น อันดับยังไม่เปลี่ยน แต่เปอร์เซ็นต์มีการเปลี่ยนแปลง โดยพรรคเพื่อไทยยังนำมา แต่คะแนนก็ลดลงมา 2% ซึ่งอาจจะมีนัยยะเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ อาจจะส่งผลต่อพรรคได้ แต่พรรคก้าวไกลขึ้นไป 3.8% ซึ่งตนเคยแนะนำพรรคเพื่อไทยว่า ให้กินพรรคก้าวไกลไปทั้งตัว แต่กลับกลายเป็นว่า นอกจากยักษ์จะไม่กินแจ๊คแล้ว แต่กลับโดนแจ๊คเอาไม้มาแซะ ซึ่งใน 3.8%ที่ก้าวไกลได้ขึ้นมานั้น ก็ถือว่า กินเพื่อไทยไปแล้ว 2.5%

ทั้งนี้ หากมองเชิงลึก ก็จะมีคำถามว่า คะแนน น.ส.แพทองธาร หล่นตรงไหน แล้วคะแนนของก้าวไกลเพิ่มขึ้นตรงไหน ซึ่งเมื่อดูกลุ่มประชากรจากอายุ 18-25 ปี จะเป็นของนายพิธา แต่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร สามารถปั่นกระแสดึงคะแนนตรงนี้เข้ามาที่ตัวเองได้ ทำให้มีคะแนนนำ แต่พอมาครั้งนี้ เปลี่ยนแปลง เพราะ น.ส.แพทองธาร โดนนายพิธาดึงคืนในส่วนกลุ่มอายุ 18-25 ปี แม้กระทั่งตัวพรรคเพื่อไทยในกลุ่มอายุนี้ ก็มีคะแนนลดลง แต่พรรคก้าวไกลกลับเพิ่มขึ้นแบบกินเรียบในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ครึ่งหนึ่งของคนรุ่นใหม่อายุ 18-25 ปีเลือกพรรคก้าวไกล


นอกจากนี้ ยังมีในกลุ่มประชากรภาคตะวันออก พรรคเพื่อไทยก็ถูกดึงคะแนนไป ขณะที่พรรคก้าวไกลกลับเพิ่มขึ้น จึงเป็นการส่งสัญญาณให้กับบ้านใหญ่ภาคตะวันออกให้ระมัดระวังตัวเข้าไว้ ให้เตรียมปรับเกมกลยุทธ์ เพราะกระแสพรรคก้าวไกลในภาคตะวันออกโดดเด่นขึ้นมาแบบเห็นได้ชัด อีกทั้งภาคตะวันออกก็เป็นฐานเดิมของพรรคก้าวไกลด้วย ดังนั้น หากพรรคเพื่อไทยจะกินพรรคก้าวไกลก็ต้องเจาะไปที่กลุ่มเด็ก ซึ่งส่วนตัวไม่มั่นใจว่า เป็นเพราะ น.ส.แพทองธารใกล้กำหนดคลอดแล้วหรือไม่ด้วย เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน ช่วยให้ตัวเองมีคะแนนขึ้น ไม่ได้ช่วยให้พรรคมีคะแนนขึ้นเท่าไหร่นัก

ด้านนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองคณบดีฝ่ายวิชาการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวว่า การสำรวจครั้งที่ผ่านมา ถ้ารวมเอาคะแนนเพื่อไทยและก้าวไกลจะอยู่ที่ 67% แต่ครั้งนี้ 2 พรรคคะแนนรวม 68.85% โดยมีภาพรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 2% เมื่อเทียบกับฝั่งรัฐบาลที่ลดลงเกือบทุกพรรค ยกเว้นพรรคภูมิใจไทยที่มีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้น 1% แสดงว่าพรรคภูมิใจไทยเริ่มเคลื่อนไหวในเขตมากขึ้น แต่พรรคอื่นๆต่างก็ลดลงทั้งสิ้น แสดงว่า มีประชาชนอีกจำนวนหนึ่งยังสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้ในช่วง 3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ และสิ่งที่ค่อนข้างโดดเด่นมากคือ พรรคก้าวไกลมีคะแนนเพิ่มขึ้นมากที่สุด น่าจะมาจากนโยบายทุกนโยบายเป็นระบบ สื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้มีประสิทธิภาพ การขึ้นเวทีดีเบตก็มีความโดดเด่นเหนือผู้สมัครพรรคอื่น มีข้อมูลแม่นยำ มีไหวพริบและปฏิภาณอย่างดี ทำให้ก้าวไกลได้รับความนิยมมากกว่าพรรคอื่นๆ แต่พรรคก้าวไกลก็ยังไม่ถึงจุดพีค ช่วงจุดเปลี่ยนจากอนาคตใหม่นั้น พรรคก้าวไกลเหลือความนิยม 10% กว่า และค่อยๆเพิ่มแบบขั้นบันได ดังนั้น ในช่วงเวลาที่เหลือ คะแนนนิยมของพรรคก้าวไกล อาจเพิ่มขึ้นถึง 30% ซึ่งอาจจะบรรลุเป้าหมายที่พรรคตั้งไว้ในส่วนของบัญชีรายชื่อ

นายพิชาย กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทย ในช่วงที่นิด้าโพลเก็บข้อมูล เป็นช่วงเวลาที่นายเศรษฐาออกมาประกาศนโยบายดิจิทัล 10,000 บาท นั่นแสดงว่า นโยบายดังกล่าวไม่มีผลอะไรกับคะแนนเพื่อไทย และอาจจะส่งผลเชิงลบได้ เพราะมีปัญหาเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติมากมาย เป็นเหตุทำให้คะแนนลดลง นอกจากนี้ คะแนนส่วนที่ลดลงคือ ภาคใต้และภาคตะวันออก ที่คะแนนเพื่อไทยลดลงมาก รวมทั้งภาคเหนือคะแนนก็ลดลง ขณะที่ก้าวไกลในภาคเหนือก็เพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ แสดงว่า ก้าวไกลเริ่มรุกในภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ


ขณะที่นายธนพร ศรียากูล นายกสมาคมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า ปัญหาล่าสุดของพรรคเพื่อไทยต้องรีบอุด เพราะมีผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทยหลายเขตไม่ลงพื้นที่ เป็นประเด็นที่แฟนคลับหลายเขตส่งเสียงไปที่พรรคแล้ว ผู้บริหารต้องรีบปรับในส่วนนี้ เพราะการได้เป็นตัวแทนพรรคก็มีแต้มต่อเยอะ แต่แต้มต่อจะไม่เป็นประโยชน์ หากเจ้าตัวไม่ลงพื้นที่ หากไปเทียบกับพรรคภูมิใจไทยเป็นมือวางกลยุทธ์ ถ้าพื้นที่ไหนเป็นจุดอ่อน ก็จะเข้าไปเจาะแน่นอน ส่วนพรรคก้าวไกลเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทุ่มเทและตั้งใจลงพื้นที่ ขณะที่พรรคเพื่อไทยหลายเขต พบว่า ผู้สมัครไม่ค่อยลงพื้นที่ ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สะท้อนว่า ถ้าขี้เกียจก็มีคู่แข่งมาขโมยแต้มได้ ไม่ว่าพรรคจะกระแสดีขนาดไหนก็ตาม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ลุยเอง นำทีมบุกจับบ่อนดอนเมืองในตำนาน

ดอนเมือง 28 ส.ค. – “ภูมิธรรม” นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “สิงห์ปราบพยศ” ทลายบ่อนเปิดซ้ำซากย่านดอนเมือง รวบ 200 นักพนัน เงินหมุนเวียนมหาศาลกว่า 500 ล้านบาทต่อเดือน ย้ำ “ขบวนการตาสับปะรดของประชาชนคือเบาะแสสำคัญ” ร่วมกันสร้างสังคมปลอดอบายมุข ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เปิดปฏิบัติการสิงห์ปราบพยศ ปิดล้อมทลายบ่อนดอนเมืองในตำนาน เป็นจุดที่โดนทั้งตำรวจ ทหาร และกรมการปกครอง บุกเข้าจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน ครั้งนี้กรมการปกครองนำกำลังเข้าพื้นที่ตามช่องทางเข้า-ออกทุกทาง พบมีประตูเหล็กขนาดใหญ่ปิดกั้นอยู่ จึงใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กเข้าตัดประตูเป็นช่องเพื่อให้เจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน ภายในพบนักพนันกว่า 200 คน โดยใช้พื้นที่ของสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และพื้นที่อาคารที่อยู่ใกล้เคียง เป็นห้องพนันแบบครบวงจร 5 ห้อง นอกจากนี้ยังมีการตั้งร้านอาหารและน้ำดื่ม เหมือนเป็นตลาดนัดย่อมๆ ในพื้นที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาตรวจสอบในจุดดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่า บ่นพนันดังกล่าวพบมียอดเงินหมุนเวียนกว่า 5-10 ล้านบาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนแล้วเดือนละ 300-400 ล้านบาท โดยจะเปิดให้เล่นตั้งแต่ […]

อุตุฯ เผยภาคเหนือฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 40%

กรุงเทพฯ 28 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 40% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย และน่าน ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ […]

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย