ชื่นชม “ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย” ขึ้นทะเบียน GI

ทำเนียบ 13 เม.ย. – โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริมสินค้าเกษตรไทย ชื่นชม “ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย” ขึ้นทะเบียน GI เพิ่มมาตรฐานสินค้า และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ถึงการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication : GI) รายการใหม่ อันดับที่ 196 ได้แก่ ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย ซึ่งการขึ้นทะเบียน GI ของสินค้าเกษตร สามารถช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน ควบคุมคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภค และเป็นการขยายโอกาสเพิ่มช่องทางการตลาด

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ข้าวเหนียวแดงเมืองเลย เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว ปลูกในที่ราบลุ่มและที่ราบระหว่างภูเขา พื้นดินอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ทำให้ต้นข้าวสามารถดูดซึมสารอาหาร แตกกอได้มากกว่าปกติ ประกอบกับสภาพอากาศของจังหวัดเลย ที่มีอุณภูมิต่ำกว่าจังหวัดอื่นๆ ในภูมิภาคเดียวกัน หนึ่งรวงให้ผลผลิตประมาณ 280-360 เมล็ด มีลักษณะเมล็ดเป็นสีฟางขีดน้ำตาล ไม่มีหางข้าว ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้เมล็ดข้าวเหนียวแดงเมืองเลย มีลักษณะที่แตกต่างกับเมล็ดข้าวเหนียวพันธุ์อื่นๆ เมื่อนำไปหุงสุกจะมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ สัมผัสนุ่มและมีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่าข้าวเหนียวทั่วไป สามารถคงความนุ่มไว้ได้นาน


โดยข้าวเหนียวแดงเมืองเลย เป็นสินค้าเกษตรที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ อับดับ 1 จาก 90 สายพันธุ์ของข้าวเหนียวที่มีความหอมที่สุด ในงานมหกรรมพันธุ์ข้าวภาคอีสาน และยังได้รับรางวัลอันดับ 3 ประเภทข้าวเหนียวที่อร่อย เป็นผลิตภัณฑ์เกษตรที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเลย สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างมหาศาล

“นายกรัฐมนตรีรับทราบและส่งเสริมสินค้าเกษตรไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมมุ่งมั่นในการขยายตลาดของผลิตภัณฑ์ ให้มีช่องทางและโอกาสเข้าถึงตลาดที่หลากหลาย โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าสินค้าเกษตรของไทยให้สามารถเพิ่มคุณค่าและแข่งขันได้ในระดับโลก ซึ่งจะส่งผลสำเร็จที่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สร้างรายได้ให้กับชุมชน เพิ่มความเชื่อมั่นเรื่องคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้กับผู้บริโภค” นายอนุชา กล่าว

ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนท้องถิ่นที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง สามารถขอคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร.1368 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่

ระเบิดปากีสถาน

ยอดเสียชีวิตจากเหตุระเบิดสถานีรถไฟปากีสถานเพิ่มเป็น 24 รายแล้ว

เหตุระเบิดสถานีรถไฟในเมืองเควตตา ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ตายเพิ่มเป็นอย่างน้อย 24 ราย บาดเจ็ดมากกว่า 40 ราย