น่าน 8 เม.ย.- “ชัยเกษม” ฟาด “ประยุทธ์” สร้างหนี้กองโต ทำให้เพื่อไทยต้องคลอดกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อฟื้นเศรษฐกิจประเทศ ขณะที่ “เศรษฐา” สวนกลับไปศึกษานโยบายเพื่อไทย ก่อนวิจารณ์ทำประเทศพัง ยันแจงได้แหล่งที่มาของเงิน ช่วยนำเงินกลับคืนสู่สังคม
นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม วิจารณ์นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ให้กับประชาชนได้ใช้จ่าย 10,000 บาท เสี่ยงจะทำให้ประเทศพัง ว่า อย่างที่ตนเคยเรียนไปแล้ว 8 ปีที่ผ่านมาประเทศบอบช้ำไปเยอะ จึงต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ พี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือจำนวนมาก ยืนยันการให้เงิน 10,000 บาทนั้น ไม่ใช่ไม่มีที่มาของแหล่งเงิน แต่การผลักดันนโยบายนี้ออกไป ทำให้มั่นใจว่าจะมีเงินกลับคืนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีนิติบุคคล ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาลแล้วจะสามารถรีดงบประมาณประมาณ 2 แสนล้านบาทจากเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ได้
เมื่อถามถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าในต่างประเทศที่การใช้เงินสกุลดิจิทัล ทำให้หลายประเทศนำมาใช้ต้องล่มสลาย นายเศรษฐา ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ กำลังไม่เข้าใจที่พรรคเพื่อไทยกำลังทำคืออะไร ตนจึงขอให้ท่านไปอ่านนโยบายและทำความเข้าใจให้ดีก่อน
ขณะที่ นายชัยเกษม นิติสิริ ประธานยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ระบุว่าตนคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ มาวิจารณ์นโยบายของพรรคเพื่อไทยเพราะว่าคนอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ได้สร้างหนี้ไว้มากมายให้กับประเทศ ก็เลยห่วงว่าจะไม่สามารถกู้เงินได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สร้างหนี้ไว้ พรรคเพื่อไทยก็คงไม่ต้องคิดนโยบายนี้ออกมา พร้อมยืนยันว่ากรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เรียกชี้แจงไม่มีปัญหาแน่นอน
“ทุกอย่างที่พรรคเพื่อไทยทำนั้นคิดมาอย่างดีแล้ว เราทำเพื่อแก้ปัญหาที่รัฐบาลนี้ได้สร้างปัญหาให้กับประเทศ” นายชัยเกษมกล่าว
ส่วนกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงการจัดทำนโยบายดังกล่าวนั้น นายเศรษฐา ระบุว่า ทางกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยและคณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคยินดีที่จะชี้แจงและเปิดเผยนโยบายจะทำให้ประชาชนจะได้รับทราบอย่างเท่าเทียมกันและยืนยันว่านโยบายนี้เป็นของดีและของใหม่และจะเป็นนโยบายหลักเพื่อฟื้นฟูจากสภาพที่ประชาชนกำลังเดือดร้อนมา 8-9 ปี
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าประเด็นนี้พรรคเพื่อไทยได้เสนอไปตามนโยบายตามมาตรา 57 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. การประกาศนโยบายได้ผ่านกรรมการบริหารพรรคและได้แจ้งต่อ กกต. ส่วนการเรียกให้ชี้แจงเรื่องที่มาแหล่งเงินมาจากตรงไหน ก็เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้ปฏิบัติตามนั้นอยู่ ตอนนี้ในรายละเอียดการชี้แจงกับ กกต.อยู่ระหว่างการดำเนินการ พร้อมย้ำว่าผู้สมัคร ส.ส.400 เขตของพรรคจะช่วยชี้แจงเรื่องนี้ด้วย
เมื่อถามว่า หนี้สาธารณะที่รัฐบาลชุดนี้ได้สร้างไว้จะไม่สร้างปัญหาให้กับนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ระบุว่า แม้จะเป็นปัญหาแต่เราแก้ไขได้ พรรคเพื่อไทยอาสามาแก้ไขปัญหา
นอกจากนี้ นพ.ชลน่าน ยังขอบคุณแคนดิเดตนายกฯ 3 คนของพรรคเพื่อไทยที่ลงพื้นที่ปราศรัยใหญ่ที่ จ.น่าน เป็นเวทีแรกในต่างจังหวัดและเป็นจังหวัดแรก หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯ ได้พบปะกับประชาชน .-สำนักข่าวไทย