“สุดารัตน์” ชี้ไทยต้องปรับตัวเชิงรุก-แนะเอกชนเร่งปรับตัว

กรุงเทพฯ 6 เม.ย. – “สุดารัตน์” ชี้ประเทศไทยต้องปรับตัวเชิงรุก ไม่สามารถตั้งรับได้อีกต่อไป หวังเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส รับมือความท้าทายของโลก 5 ด้าน แนะเอกชนเร่งปรับตัวรับผลกระทบจาก Climate Change และมองการสร้างรายได้จากภูมิรัฐศาสตร์โลก


คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการรับมือความเปลี่ยนแปลงเพื่อนำประเทศไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า และมุมมองเรื่องประเทศในฝัน ในงานเสวนา The People Awards 2023 ว่าปัจจุบันโลกกำลังเผชิญความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง ซึ่งประเทศไทยเองก็เผชิญความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 5 ด้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนต้องปรับตัว และต้องเป็นการปรับตัวเชิงรุก ไม่สามารถปรับตัวในลักษณะตั้งรับได้อีกต่อไป เพื่อเปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นโอกาส

สำหรับความท้าทายทั้ง 5 ด้าน ประกอบด้วย Climate Change, Geopolitics, Aging Society, Emerging Decease และ Technology Disruption


คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่าความท้าทายใหม่คือ เรื่องของ Climate Change ซึ่งมีผลกระทบอย่างมาก แต่อาจจะยังมองไม่เห็น โดยเฉพาะในอีก 2 ปีข้างหน้า ที่มีเวลาให้เอกชนต้องเร่งปรับตัว ในแง่ของการส่งออก หากยังผลิตสินค้าที่มาจากโรงงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเจอกับกำแพงภาษี และเมื่อต้องเจอกับต้นทุนการผลิตสินค้าที่แพงอยู่แล้ว โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซ ค่าน้ำมัน จะส่งผลให้ขีดความสามารถในการแข่งขันลดลงไปมากจนกระทบกับ SMEs จนไม่สามารถอยู่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเจอกำแพงภาษีที่เพิ่มขึ้นมาอีกร้อยละ 10-20

ส่วนเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ประเทศไทยหนีไม่พ้นที่จะต้องเผชิญผลกระทบ ซึ่งในวิกฤติเราเห็นโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาลให้คนไทย

ในเรื่องของ Aging Society คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศกำลังพัฒนาประเทศแรกของโลกที่มีสัดส่วนประชากรสูงวัยสูงที่สุด และโชคร้ายที่คนแก่ของไทยแก่ก่อนรวยเป็นส่วนใหญ่ ข้อมูลนี้ไม่ใช่ข่าวดี พรรคไทยสร้างไทยจึงมีนโยบายบำนาญประชาชนเดือนละ 3,000 บาท เพื่อดูแลผู้สูงวัยให้มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี


เรื่องที่ 5 (Technology Disruption) เราคุ้นชินมาระยะหนึ่งแล้ว ขณะที่โรคระบาด (Emerging Decease) ก็เกิดอยู่เป็นระยะ สมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขก็เจอเรื่องซาร์ส และไข้หวัดนก 2 รอบ และต้องสู้ด้วยวิธีที่ถูกต้องให้จบเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ