ไม่มีอำนาจพิจารณาถอนพ.ร.ฎ.ยุบสภา

ศาลปกครอง 28 มี.ค.-ศาลปกครองสูงสุดไม่รับคำร้อง”เรืองไกร”  ขอเพิกถอน  พ.ร.ฎ.ยุบสภา 66 เหตุไม่อยู่ในอำนาจพิจารณา


ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณากรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี จากเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่สุจริตใช้ดุลพินิจยุบสภาผู้แทนราษฎรโดยไม่ชอบด้วยมาตรา 103 วรรคสาม และขอให้ศาลฯคำสั่งระงับไม่ให้พ.ร ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร 2566   มีผลใช้บังคับเป็นการชั่วคราว และเพิกถอนพ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร 2566 ที่ตราขึ้นโดยไม่สุจริต

ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดให้เหตุผลว่าการยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรใหม่ เป็นการเลือกตั้งทั่วไปนั้นในมาตรา 103 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ จะบัญญัติให้ทำในรูปแบบของพระราชกฤษฎีกา แต่พระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ไม่ได้ตราขึ้นเพื่อเป็นกลไกในการบริหารราชการแผ่นดินตามปกติ หรือเพื่อกำหนดการอันจำเป็นแก่การดำเนินกิจการทางปกครอง ตามที่องค์กรที่ใช้อำนาจนิติบัญญัติตราขึ้นในระดับพระราชบัญญัติหรือพระราชกำหนดต่าง ๆ กำหนดให้อำนาจในการตราพระราชกฤษฎีกาไว้ แต่เป็นกลไกในการถ่วงดุลอำนาจระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามระบบรัฐสภา 


พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวจึงไม่ใช่พระราชกฤษฎีกาตามนัยมาตรา 11(2)   แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาปกครอง 2542 คดีพิพาทเกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของพ.ร.ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร 2566 จึงไม่อยู่ในอำนาจของศาลปกครองที่จะพิจารณาพิพากษาคดี ตามที่ศาลปกครองสูงสุดได้เคยวินิจฉัยไว้แล้วในหลายคดีเช่น คดีหมายเลขดำที่ ฟ.5/2549 หมายเลขแดงที่ฟ. 3/2549 คดีหมายเลขดำที่ฟ. 100/2556 หมายเลขแดงที่ฟ.12 7/2556

ส่วนที่นายเรืองไกรขอให้ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตามความในมาตรา 102 ของรัฐธรรมนูญเป็นคำขอที่อยู่นอกเหนืออำนาจของศาลปกครองตามมาตรา 197 ของรัฐธรรมนูญและมาตรา 9 ประกอบมาตรา 72 ของพ.ร.บ.จัดตั้งและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 ที่จะมีอำนาจและมีคำสั่งให้ตามที่ขอ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องนี้ไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ทำให้ไม่ต้องพิจารณาคำขอไต่สวนฉุกเฉินเป็นกรณีเร่งด่วนและไม่จำต้องพิจารณาและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำขอให้ศาลกำหนดมาตรการวิธีการชั่วคราวให้ระงับ พ.ร ฎ.ยุบสภาผู้แทนราษฎร 2566 ไม่ให้มีผลใช้บังคับไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการมีคำพิพากษา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม

กกต.ขอบคุณ ปชช.ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง อบจ.

เลขาธิการ กกต. แถลงสถานการณ์หลังปิดหีบบัตรเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ พร้อมชี้แจงกรณีบัตรเลือกตั้งหายที่จังหวัดบึงกาฬ