กทม. 26 มี.ค.-“กนก” ย้ำสิ่งแวดล้อมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด ด้วยนโยบายเปลี่ยนป่าเป็นเงิน แนะจัดการปัญหา ฝุ่น-ขยะ-โลกร้อน ที่ต้นตอ ลั่นต้องสร้างประชาชนให้เรียนรู้จนติดเป็นนิสัย เชื่อ “ชาติไทยพัฒนา” ทำได้ หาก “วราวุธ” นั่งนายกฯ
นายกนก วงษ์ตระหง่าน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และปัญหามลพิษทางอากาศ ว่า ต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา ฝุ่นมาจากไหนให้แก้ตรงนั้น เช่น สาเหตุเนื่องมาจากไฟป่า ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนามองว่าในวันนี้ เรามีเทคโนโลยีด้านดาวเทียมที่สามารถติดตามจุดที่เกิดไฟป่าได้ หากพบว่ามีจุดไหนเกิดบ่อยครั้ง ก็สามารถแจ้งเตือน ให้ความรู้กับประชาชน และนำเสนอแนวทางเปลี่ยนการเผาเป็นคาร์บอนเครดิตเป็นเงินคืนให้กับประชาชน ซี่งตนได้คำนวณเบื้องต้นว่าประชาชนอาจได้เงินจากนโยบายเปลี่ยนจากไฟป่าเป็นคาร์บอนเครดิตนี้ จำนวน 10,000-20,000 บาทต่อปี
“เราต้องออกกฎหมายกำหนดค่ามาตรฐานการปล่อยฝุ่น PM 2.5 จากภาคส่วนต่างๆ โดยหากเกินค่ามาตรฐานจะต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาเราบอกว่าอาจจะกำหนดฤดูฝุ่นตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ที่เราจะตรวจจับเด็ดขาด และเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน เช่น มีหน่วยฉุกเฉินก็ทำทันที ต้องมีการปรับพฤติกรรม Work from Home ได้ ทุกอย่างต้องลงไปสู่การปฏิบัติหมด”นายกนกกล่าว
นายกนก กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง ควรจะกระจายอำนาจให้หน่วยงานท้องถิ่นรับผิดชอบ นอกจากนี้ยังต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยต้องมีการบูรณาการไปสู่การเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จนเป็นนิสัยและนำปรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสิ่งแวดล้อม
ส่วนปัญหาขยะที่ถูกพูดถึงมากในปัจจุบัน พรรคชาติไทยพัฒนา มีความเห็นว่าคนที่สร้างขยะ โรงงานสร้างบรรจุภัณฑ์ จะต้องเป็นคนจ่ายเงินกำจัดขยะนั้นๆ ที่สำคัญต้องคิดควบคู่ไปว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ได้
“เราจะต้องฝึกคนไทยให้เรียนรู้ว่าให้ใช้ซ้ำได้ ใช้ใหม่ได้ ลดการใช้ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ อาบน้ำ มีน้ำเสียเกิดขึ้น ระหว่างที่ถูสบู่ ปิดน้ำได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นอุปนิสัยที่ต้องมีการเรียนรู้และฝึกขึ้นมาได้” นายกนก กล่าว
สำหรับปัญหาภาพใหญ่อย่างภาวะโลกร้อน นายกนก กล่าวว่า ตนกังวลมากว่าคนจนจะลำบากมากกว่าคนรวย คนรวยก็รอดไป เพราะโครงสร้างสังคมที่เหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้น พรรคชาติไทยพัฒนา จะตั้งศูนย์เอเชีย-แปซิฟิกคาร์บอนเครดิต นำเอาเทคโลโลยีต่างๆมาบูรณาการ วัดปริมาณมาตรฐานคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าหาดสำเร็จจะทำให้ประเทศไทยก้าวไปเป็นผู้นำประเทศในเอเชียในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน
“สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของประเทศ พรรคชาติไทยพัฒนาคิดไปถึงการที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้โดยใช้พื้นที่สีเขียวลดลง นำไปปลูกป่า ผลักดันตลาดคาร์บอนเครดิต เราต้องทำให้ป่ามีรายได้ให้กับประชาชน” นายกนก กล่าว
นายกนก ยังได้ตั้งคำถามถึงนักการเมืองว่า วันนี้เราจะเลือกประชาชนหรือผลประโยชน์ ดังนั้นการเลือกตั้งที่กำลังมาถึง เราต้องเลือกคนที่ตั้งใจและจริงใจในการแก้ปัญหา หากประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ นายวราวุธ ศิลปอาชา จะมีการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาจริงจังกับการแก้ปัญหานี้ และถือเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นแกนของพรรค โดยเน้นการปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จในการแก้ปัญหา มองว่านโยบายเป็นสิ่งที่พูดได้ หาเสียงได้ แต่จะปฏิบัติได้ต้องมีองค์ประกอบอื่นด้วย.-สำนักข่าวไทย