“แพทองธาร” อ้อนขอเลือกเพื่อไทยแลนส์สไลด์

ตลาดน้ำอโยธยา 23 มี.ค.- “เพื่อไทย” จัดลุยปราศรัยใหญ่อยุธยา “แพทองธาร” อ้อนขอเลือกเพื่อไทยแลนส์สไลด์ ด้าน“เศรษฐา” ลั่น พอแล้ว 8 ปี ไม่ขอเจออีก ส่วน “หมอชลน่าน” อัด พปชร.-ภท. ตั้งวงกินข้าวจับมือตั้งรัฐบาลทั้งที่ประชาชนยังไม่ให้อำนาจ


พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่ ลานกิจกรรมตลาดน้ำอโยธยา จ. พระนครศรีอยุธยา นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยาทั้ง 5 เขต รกาศพบว่ามีประชาชนมารอรับฟังการปราศรัย เต็มพื้นที่

โดย น.ส.แพทองธาร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยมาเต็มทีม ตนท้องครบ 8 เดือน แต่ไม่พลาดมาอยุธยาแน่นอน จ.พระนครศรีอยุธยา อุดมสมบูรณ์ แต่พี่น้องมีหนี้มีสินมากมาย วันนี้ภาคการเกษตรไม่เพียงพอกับความเป็นอยู่ วันนี้พรรค พท.จะนำเทคโนโลยีมาช่วยทำการเกษตร เหนื่อยน้อยลงแต่ได้เงินมากขึ้น


“เราตั้งใจจริง 8 ปีที่ผ่านมาลำบากมามาก เรามีนโยบายดีๆ มาก ที่บอกว่าจะทำให้ได้ก่อนปี 70 นั้นค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นไปได้แน่นอน และที่บอกกันว่าอยุธยาไม่สิ้นคนดี วันนี้ไม่เอาแล้วหน้ากากคนดี จึงขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ด้านนายเศรษฐา ปราศรัยว่า พอกันที 8 ปียาวนานมาก หวังว่า 4 ปีข้างหน้าจะไม่เห็นหน้ากันอีก ตนภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย ซึ่งเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน จ.พระนครศรีอยุธยา มีโบราณสถานเยอะ การท่องเที่ยวน่าจะดี แต่ทำไมการท่องเที่ยวตกต่ำประชาชนรายได้หาย เป็นเพราะรัฐบาลไม่สามารถจัดการปัญหาของประเทศได้ เราไม่อยากเจอเรื่องแย่ๆ เช่นนี้อีก อยุธยาไม่สิ้นคนดีฉันใด เพื่อไทยก็ไม่สิ้นนโยบายดีๆ ฉันนั้น เราใช้นโยบายนำมาโดยตลอด

“สำหรับการเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม พรรคเพื่อไทยมีนโยบายดีๆ มาเสนอ ถ้าเราได้เป็นรัฐบาลภายใน 6 เดือน จะสำรวจครัวเรือนไหนมีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท เราจะเติมให้ ส่วนใครที่อายุ 16 ปี ขึ้นไป เราจะสร้างกระเป๋าตังค์ดิจิทัล ให้ใช้ในพื้นที่ 4 กิโลเมตร เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และจะทำให้รายได้สุทธิประชาชนเพิ่มขึ้น 3 เท่าใน 4 ปี” นายเศรษฐา กล่าว


นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า วันนี้เราไม่คิดใหญ่ไม่ได้ เพราะหลังจากที่พวกเราถูกยึดอำนาจไป 8 ปีที่ผ่านมาประเทศชาติย่ำแย่ ถ้าปล่อยไว้ไม่คิดใหญ่ ประชาชนไม่มีโอกาสฟื้น โดยคิดใหญ่เรื่องแรกคือเราต้องเอาต้นเหตุความย่ำแย่ทั้งหลายออกจากประเทศไปก่อน เพราะมีคำว่า 3 ป.มายึดอำนาจและสืบทอดอำนาจ จึงขอแรงเอา 3 ป.กลับบ้านไป วันที่ 14 พฤษภาคม ขอให้ไปเลือกตั้งกา พท.ทั้งคนทั้งพรรคยกจังหวัดทั้ง 5 เขต

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (22 มีนาคม) มีพรรคการเมืองสองพรรคไปกินข้าวด้วยกันเจตนาถ่ายรูปโชว์ ข้อเท็จจริงปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จับมือกันตั้งรัฐบาล ทั้งที่ประชาชนยังไม่มอบอำนาจให้ โดยทั้งสองพรรคนี้จะรวมกับพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตั้งรัฐบาลให้ได้ 203 เสียง ถ้าประชาชนไม่เอาก็ขอให้เลือกเพื่อไทย

นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ยังวงเวียนอยู่กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังมีภาพเผยแพร่โดยทั่วไปว่าพรรคการเมืองสองพรรคกินข้าวกัน มีคนไปถามรัฐมนตรีคนหนึ่งยอมรับว่า หากพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ แล้วจะไปร่วมกับใคร แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะตั้งรัฐบาลโดยเอาพลเอกประยุทธ์ มาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เหลือแต่ประชาชนที่ยืนอยู่กับฝ่ายประชาธิปไตย และเลือกพรรคการเมืองที่ทำนโยบายได้จริงอย่างพรรคเพื่อไทย จะร่วมแสดงพลังให้เห็นอีกครั้งว่า รัฐบาลที่ทำความเสียหายให้ประเทศจะกลับมาบริหารประเทศอีกไม่ได้แล้ว รัฐบาลหน้าต้องเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งคือพรรคเพื่อไทย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้แต่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยอุ้มครรภ์ 8 เดือนเต็ม ยังไปทุกเวทีที่ไปได้ ส่วนทีมเศรษฐกิจในกรุงเทพ ขยันคิดทำงานสร้างนโยบายเพื่อพลิกชีวิตพี่น้องให้ฟื้นจากความยากลำบาก พรรคอื่นจะประกาศนโยบายมากี่นโยบายคนไม่เคยเชื่อถือ เพราะไม่เคยทำสำเร็จเป็นรูปธรรม ยกตัวอย่างพรรคพลังประชารัฐเคยประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาทเมื่อปี 2562 จนถึงตอนนี้ก็ยังทำไม่สำเร็จ แต่เมื่อพรรคเพื่อไทยประกาศค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นทันทีว่าเราทำได้ แม้แต่ร้านบะหมี่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยายังขึ้นป้ายทันทีว่าพร้อมจ่ายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทภายในปี 2570 ทันที

“นี่คือตัวอย่างความเชื่อมั่นในนโยบายพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ความอยู่ดีกินดี ราคาพืชผลการเกษตรราคาข้าวจะเพิ่มขึ้น เงินในกระเป๋าดิจิทัลพี่น้องจะกลับมา กาเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ตัดสินใจให้ชัด เลือกเพื่อไทยเท่านั้น เลือกคนอื่นเท่ากับได้ประยุทธ์แน่นอน” นายณัฐวุฒิกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.แพทองธาร กำลังเริ่มปราศรัยปรากฎว่า น.ส.ทานตะวัน ตุลานนท์ หรือตะวัน และน.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นักกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้านมาตรา 112 ได้ทำกิจกรรมหน้าเวทีปราศรัยด้วยการชูป้ายสำรวจความคิดเห็นว่า ประชาชนต้องการให้พรรคเพื่อไทยเสนอนโยบายยกเลิก 112 หรือไม่ และสอบถามว่าคุณคิดว่าปากท้องกับเสรีภาพไปด้วยกันได้หรือไม่ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัยติดสติ๊กเกอร์โหวตว่าต้องการหรือไม่ต้องการให้ยกเลิก โดยน.ส.แพทองธาร ระบุว่า “ขอบคุณน้องๆ มากที่มา แต่ตอนนี้พี่ขออนุญาตทำหน้าที่ปราศรัยก่อน เดี๋ยวเราจะคุยกันหลังจากที่พรรคเพื่อไทยปราศรัยจบ” หลังจากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้ปราศรัยต่อ และเหตุการณ์เป็นปกติ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดดัง จ.เลย

มหาสารคาม 6 ส.ค. – มอบตัวแล้วอดีตเจ้าคณะตำบล ยิงเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย บาดเจ็บ หลังหนีไปกบดานที่บ้านเกิด จ.มหาสารคาม ตำรวจตั้งข้อหาพยายามฆ่า จากกรณี พระอธิการมานพพร อายุ 47 ปี เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะตำบลเขาแก้ว ขับรถยนต์หลบหนีไป หลังใช้ปืนจ่อยิงพระมหาโยธิน เจ้าอาวาสวัดป่าพัฒนาราม และเจ้าคณะตำบลจอมศรี จนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่พระครูถาวรเทวธรรม เจ้าคณะตำบลธาตุ และเจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวราช เจ้าคณะตำบลธาตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย หลบหนีได้ทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ เกิดเหตุในวัดพื้นที่ อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาศาลจังหวัดเลยอนุมัติหมายจับในข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืน กระสุนปืน พกพาโดยไม่มีเหตุอันควร” วันนี้ ที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองมหาสารคาม พระอธิการมานพพร หรือนายมานพพร ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพระ 2 รูป เข้ามอบตัว เนื่องจากถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก เบื้องต้นให้การว่า วันเกิดเหตุมีการปรึกษากัน แต่ไม่ได้ทะเลาะ สาเหตุมาจากตนเองโดนกลั่นแกล้งจากทางพระทั้ง […]

แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศ รัฐบาลขู่ยึดที่ดิน-ถอดสัญชาติ

6 ส.ค. – รัฐบาลกัมพูชาขู่ยึดที่ดินและถอดสัญชาติแรงงานที่ดื้ออยู่ไทย ส่งผลวันนี้ (6 ส.ค.) ชาวกัมพูชาแห่เดินทางกลับประเทศ ทำจุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี รถติดยาว 8 กิโลเมตร ที่จุดผ่านแดนถาวรตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ช่วง 06.00 น. รถติดยาวเหยียดร่วม 8 กิโลเมตร ทั้งรถเช่าเหมา รถตู้ และรถรับจ้างที่ขนแรงงานชาวกัมพูชากลับประเทศ ส่วนภายในบริเวณตลาดบ้านแหลม ช่วงเวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา ยังพบชาวกัมพูชาร่วมกว่า 20,000 คน ขนสัมภาระ ข้าวของ มารอเต็มหน้าด่าน มากกว่า 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ เป็นเพราะมีกระแสข่าวรัฐบาลกัมพูชาขู่จะออกมาตรการเอาจริงกับแรงงานกัมพูชาที่ยังดื้อไม่ยอมกลับประเทศก่อนวันที่ 10 สิงหาคมนี้ จะยึดที่ดินทำกินและถอดสัญชาติ คาดว่าจุดนี้จุดเดียวคนจะกลับกัมพูชาเฉียดครึ่งแสนคน แรงงานกัมพูชากลับประเทศ นายจ้างกลัวไปไม่กลับที่ตลาดสดแห่งหนึ่งใน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พบว่ายังมีแรงงานกัมพูชาก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ แต่มีสีหน้าเคร่งเครียดจากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แรงงานเล่าว่าไม่อยากกลับกัมพูชา กลับไปก็ไม่มีงานทำ ทางครอบครัวที่กัมพูชาก็โทรมาห่วงว่าคนไทยจะทำร้าย […]

เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า ตรึงกำลังเข้ม

6 ส.ค.- เปิดภาพทหารไทยวางรั้วลวดหนามช่องอานม้า พร้อมตรึงกำลังเข้ม ป้องกันทหารกัมพูชาตัดรั้วลวดหนาม รอบ 2 เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชาเข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ที่ทางฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย ณ บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) โดยทางฝ่ายไทยได้ดำเนินการแจ้งให้ยุติการกระทำดังกล่าว พร้อมให้ถอยออกจากพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตาม และได้ออกจากบริเวณดังกล่าวในทันที ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการกางลวดหีบเพลงให้เข้าสู่สภาพเดิม ปัจจุบันยังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย-สำนักข่าวไทย

เอาผิด 2 ข้อหา อดีตทหาร BHQ-เรียกภรรยาให้ข้อมูล

บุรีรัมย์ 6 ส.ค. – ผู้การบุรีรัมย์ เค้นสอบอดีตทหารองครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน ยืนยันไม่ได้เป็นสายลับ หลังถูกจับพร้อมเครื่องแบบทหาร-อาวุธปืน เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมเรียกภรรยามาให้ข้อมูล จากกรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน ดา ทหารเขมรชุด BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ได้ในบ้านพักหลังหนึ่งใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทย พร้อมปืนลูกซองไทยประดิษฐ์และเครื่องกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 3 นัด กระสุนปืนขนาด.38 อีก 3 นัด และเครื่องแบบทหารที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ หลายรายการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารกัมพูชา หน่วยรบพิเศษ BHQ ซึ่งเป็นองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สถานีตำรวจภูธรลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เพราะคาดว่าน่าจะเป็นสายลับเข้ามาฝังตัว ส่งความเคลื่อนไหวทางการทหารไทยให้ฝ่ายกัมพูชา รับเป็นทหารBHQ จริง แต่ไม่ใช่สายลับพล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่สอบปากคำนายวิน ดา ด้วยตัวเอง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง […]