เพื่อไทยปราศรัยใหญ่นนทบุรี ขอกวาดยกจังหวัด

ท่าน้ำนนท์ 22 มี.ค.- “เพื่อไทย” เปิดปราศรัยใหญ่นนทบุรี “เศรษฐา” อ้อนขอเลือกทั้งคนทั้งพรรค ยกจังหวัด 8 เขต ประกาศพร้อมผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมให้สำเร็จ ด้าน “ชลน่าน” ขอเลือกเพื่อไทยให้ชนะ ส.ว. จัดตั้งรัฐบาลของประชาชน


พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย นนทบุรี คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ที่ลานท่าน้ำนนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์, นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์, นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร, นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์, นายปณรัศม์ วันชาญเวช รวมทั้งผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายนิยม ประสงค์ชัยกุล, นายนพดล แก้วสุพัฒน์ และนายจำลอง ขำสา โดยมีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนนทบุรี และใกล้เคียงเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยเกือบหมื่นคน

นายแพทย์ชลน่าน ปราศรัยย้ำถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จากเดิมที่มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี 30 บาทรักษาทุกโรคจะถูกยกระดับขึ้น บัตรประชาชนรักษาได้ทุกโรงพยาบาล รับยาได้ทุกร้านยา สามารถตรวจเลือดได้ทุกห้องแลปหรือห้องปฏิบัติการเอกชนที่มีสัญญากับโครงการ ไม่ต้องรอคิว ทั้งหมดของนโยบายจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้า 3 ป. จะกลับมาจัดตั้งรัฐบาล เขาต้องการเสียงอีกแค่ 126 เสียงจะเกินกึ่งหนึ่งของสภาตั้งรัฐบาล เลือกนายกรัฐมนตรีได้ทันที พรรคเพื่อไทยจึงต้องได้อย่างน้อย 310 เสียงขึ้นไป ขอแลนด์สไลด์ 8 เขตที่จังหวัดนนทบุรี


นางสาวแพทองธาร ปราศรัยถึงสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นนทบุรีเป็น 1 ใน 7 จังหวัดแรกที่ค่าแรงปรับขึ้นเป็น 300 บาท เพราะพรรคเพื่อไทยคิดนโยบายที่ทำได้จริงมาเสมอ ดังนั้นการปรับขึ้นค่าแรง 600 บาท รัฐบาลเพื่อไทยจะทำได้แน่นอน

นางสาวแพทองธาร ย้ำถึงแนวทางการเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่ต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลางตามหลักประชาธิปไตย เพื่อทำให้ชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น ทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทย ตั้งใจคิดเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญของประชาชน พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะสานต่อนโยบายดีๆ ให้พี่น้องประชาชน ขอเพียงเสียงของพี่น้องประชาชนที่จะเลือกพรรคเพื่อไทยและว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่นนทบุรีทั้ง 8 คน ได้เข้าสภาไปผลักดันนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอไว้

ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า ขอขอบคุณชาวนนทบุรี สำหรับการต้อนรับและอบอุ่นที่จริงใจ วันนี้เป็นการปราศรัยบนเวทีครั้งแรกหลังจากที่มีการยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน ตนรู้สึกฮึกเหิม รู้สึกสบายใจ รู้สึกปิติยินดีอย่างยิ่ง ที่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เจอกับความเจริญรุ่งเรือง คนตัวใหญ่รังแกคนตัวเล็ก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในเชิงปัญหาคอร์รัปชันที่ไม่มีเหตุผลหรือไม่ เพราะงบประมาณแผ่นดินเสียหายไปมโหฬาร และจากการระบาดของโควิดสร้างผลกระทบด้านปากท้องและการทำมาหากินของประชาชน 8 ปีที่ผ่านมาเหมือนประชาชนอยู่ในห้อง ICU นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะเป็นการปั๊มหัวใจให้ประชาชนกลับมามีรายได้ มีกินมีใช้อย่างสมบูรณ์ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สิทธิเสรีภาพ สถาบันทหารต้องเป็นสถาบันที่มีเกียรติ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียมอิสรภาพให้กับพี่น้อง LGBTQ+ ทุกคน พร้อมย้ำแนวคิดกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปในการจับจ่ายในท้องถิ่น


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นนทบุรีมีผู้แทน 8 คน อย่าให้ใครมาอ้างว่าเรามีพรรคพี่ พรรคน้อง พรรคสาขา ไม่ต้องบอกว่าเกรงใจให้เลือกคนเดียว ให้เลือกพรรคหนึ่ง ตนขอให้ประชาชาเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้ง 8 เขต แลนด์สไลด์ยกจังหวัด

“อย่างหนึ่งที่การที่ยุบสภาเกิดขึ้น เราดีใจ ที่จะไม่ได้ยินเพลงเราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นานเพราะ 8 ปี ไม่เอาอีก 4 ปีให้เขาแล้ว กระเป๋าเงินดิจิทัล ผมยังไม่บอกนโยบายในวันนี้มาก เนื่องจากเกรงว่าพรรคเสินเจิ้นจะลอกนโยบายไป แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อกระตุ้นจากฐานราก พร้อมสำรวจครอบครัวที่รายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติมให้เป็น 20,000 บาททันที” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนนายจาตุรนต์ ปราศรัยถึงปัญหาการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นสามารถปกครองตัวเองและแก้ไขปัญหาท้องถิ่นตนเองได้ โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีความเจริญและเศรษฐกิจที่เติบโตมั่นคงเพียงพอ ถ้าคนเมืองนนทบุรีพร้อมและต้องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของตนเอง พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน ที่ผ่านมาได้พูดคุยหารือกับนายกเทศบาลนครนนทบุรีที่ตั้งใจทำงานแข็งขัน แต่ติดขัดด้านกฎหมาย ไม่ให้งบประมาณ เอากฎหมายและกฏระเบียบมากดทับจนนายกเทศบาลนนทบุรีให้ทำงานยากลำบาก ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา การกระจายอำนาจของไทย ถดถอยหลังที่สุดในรอบหลายสิบปี เพราะมีการกำกับควบคุมจากส่วนกลาง ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะแก้ไขยกเครื่องเรื่องกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นทั้งระบบ

ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แลนด์สไลด์เกิดขึ้นที่เมืองนนท์ปี 2546 มีการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 ผู้สมัครไทยรักไทยชนะเด็ดขาดคะแนนเป็น 2 เท่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศว่าคือสัญญาณที่ประชาชนมอบให้ และในอีก 2 ปีต่อมา นำมาสู่การชนะเลือกตั้ง 377 เสียง จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

ดังนั้น ขอคนนนทบุรีทำให้ดูอีกครั้ง เลือกพรรคเพื่อไทยและ ส.ส. 8 คน 8 เขต ให้ชนะแบบแลนด์สไลด์ เรามีนโยบายที่ประกาศแล้วทำได้ทุกนโยบาย เริ่มทำได้ตั้งแต่ปีแรก ทั้งพักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3ปี ทั้งต้นทั้งดอก ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ฟรี ยาเสพติดต้องปราบปรามให้เด็ดขาด

“เพื่อไทยมีปัญญาหาเงิน เวลานี้สัญญาณการแข่งขันชัดเจนว่าแข่งกันสองข้าง ระหว่างข้างเอาพลเอกประยุทธ์ กับไม่เอาพลเอกประยุทธ์​ ถ้าเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ ประยุทธ์กลับบ้านทันที หันมาดรีมทีมกับเพื่อไทยดีกว่า เรามีทีมเศรษฐกิจแข็งแรงที่สุดในประเทศ และวันที่ 5 เมษายนนี้ พรรคเพื่อไทยจะประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน เชื่อว่าประกาศแล้ว จิ้มชื่อใครโดนใจแน่นอน เส้นชัยของประชาชนมีทางเดียวคือเดินไปกับพรรคเพื่อไทยให้สุดทาง 14 พฤษภาคม นี้ เข้าคูหากาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” นายณัฐวุฒิกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย