เพื่อไทยปราศรัยใหญ่นนทบุรี ขอกวาดยกจังหวัด

ท่าน้ำนนท์ 22 มี.ค.- “เพื่อไทย” เปิดปราศรัยใหญ่นนทบุรี “เศรษฐา” อ้อนขอเลือกทั้งคนทั้งพรรค ยกจังหวัด 8 เขต ประกาศพร้อมผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมให้สำเร็จ ด้าน “ชลน่าน” ขอเลือกเพื่อไทยให้ชนะ ส.ว. จัดตั้งรัฐบาลของประชาชน


พรรคเพื่อไทยจัดเวทีปราศรัย นนทบุรี คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ที่ลานท่าน้ำนนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี นำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาคณะกรรมการเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์, นายมานะศักดิ์ จันทร์ประสงค์, นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร, นายภณณัฏฐ์ ศรีอินทร์สุทธิ์, นายปณรัศม์ วันชาญเวช รวมทั้งผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายนิยม ประสงค์ชัยกุล, นายนพดล แก้วสุพัฒน์ และนายจำลอง ขำสา โดยมีพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนนทบุรี และใกล้เคียงเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยเกือบหมื่นคน

นายแพทย์ชลน่าน ปราศรัยย้ำถึงนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จากเดิมที่มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี 30 บาทรักษาทุกโรคจะถูกยกระดับขึ้น บัตรประชาชนรักษาได้ทุกโรงพยาบาล รับยาได้ทุกร้านยา สามารถตรวจเลือดได้ทุกห้องแลปหรือห้องปฏิบัติการเอกชนที่มีสัญญากับโครงการ ไม่ต้องรอคิว ทั้งหมดของนโยบายจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้า 3 ป. จะกลับมาจัดตั้งรัฐบาล เขาต้องการเสียงอีกแค่ 126 เสียงจะเกินกึ่งหนึ่งของสภาตั้งรัฐบาล เลือกนายกรัฐมนตรีได้ทันที พรรคเพื่อไทยจึงต้องได้อย่างน้อย 310 เสียงขึ้นไป ขอแลนด์สไลด์ 8 เขตที่จังหวัดนนทบุรี


นางสาวแพทองธาร ปราศรัยถึงสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นนทบุรีเป็น 1 ใน 7 จังหวัดแรกที่ค่าแรงปรับขึ้นเป็น 300 บาท เพราะพรรคเพื่อไทยคิดนโยบายที่ทำได้จริงมาเสมอ ดังนั้นการปรับขึ้นค่าแรง 600 บาท รัฐบาลเพื่อไทยจะทำได้แน่นอน

นางสาวแพทองธาร ย้ำถึงแนวทางการเป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยที่ต้องมีประชาชนเป็นศูนย์กลางตามหลักประชาธิปไตย เพื่อทำให้ชีวิตของประชาชนทุกคนดีขึ้น ทุกนโยบายของพรรคเพื่อไทย ตั้งใจคิดเพื่อแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อความเจริญของประชาชน พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วที่จะสานต่อนโยบายดีๆ ให้พี่น้องประชาชน ขอเพียงเสียงของพี่น้องประชาชนที่จะเลือกพรรคเพื่อไทยและว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งในพื้นที่นนทบุรีทั้ง 8 คน ได้เข้าสภาไปผลักดันนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอไว้

ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า ขอขอบคุณชาวนนทบุรี สำหรับการต้อนรับและอบอุ่นที่จริงใจ วันนี้เป็นการปราศรัยบนเวทีครั้งแรกหลังจากที่มีการยุบสภาคืนอำนาจให้กับประชาชน ตนรู้สึกฮึกเหิม รู้สึกสบายใจ รู้สึกปิติยินดีอย่างยิ่ง ที่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้เจอกับความเจริญรุ่งเรือง คนตัวใหญ่รังแกคนตัวเล็ก ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในเชิงปัญหาคอร์รัปชันที่ไม่มีเหตุผลหรือไม่ เพราะงบประมาณแผ่นดินเสียหายไปมโหฬาร และจากการระบาดของโควิดสร้างผลกระทบด้านปากท้องและการทำมาหากินของประชาชน 8 ปีที่ผ่านมาเหมือนประชาชนอยู่ในห้อง ICU นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะเป็นการปั๊มหัวใจให้ประชาชนกลับมามีรายได้ มีกินมีใช้อย่างสมบูรณ์ ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สิทธิเสรีภาพ สถาบันทหารต้องเป็นสถาบันที่มีเกียรติ และรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียมอิสรภาพให้กับพี่น้อง LGBTQ+ ทุกคน พร้อมย้ำแนวคิดกระเป๋าเงินดิจิทัล เติมเงินให้คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปในการจับจ่ายในท้องถิ่น


นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า นนทบุรีมีผู้แทน 8 คน อย่าให้ใครมาอ้างว่าเรามีพรรคพี่ พรรคน้อง พรรคสาขา ไม่ต้องบอกว่าเกรงใจให้เลือกคนเดียว ให้เลือกพรรคหนึ่ง ตนขอให้ประชาชาเลือกเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ทั้ง 8 เขต แลนด์สไลด์ยกจังหวัด

“อย่างหนึ่งที่การที่ยุบสภาเกิดขึ้น เราดีใจ ที่จะไม่ได้ยินเพลงเราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นานเพราะ 8 ปี ไม่เอาอีก 4 ปีให้เขาแล้ว กระเป๋าเงินดิจิทัล ผมยังไม่บอกนโยบายในวันนี้มาก เนื่องจากเกรงว่าพรรคเสินเจิ้นจะลอกนโยบายไป แต่ทั้งหมดนี้เป็นไปเพื่อกระตุ้นจากฐานราก พร้อมสำรวจครอบครัวที่รายได้ไม่ถึง 20,000 บาท จะเติมให้เป็น 20,000 บาททันที” นายเศรษฐา กล่าว

ส่วนนายจาตุรนต์ ปราศรัยถึงปัญหาการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นสามารถปกครองตัวเองและแก้ไขปัญหาท้องถิ่นตนเองได้ โดยเฉพาะจังหวัดนนทบุรี ซึ่งมีความเจริญและเศรษฐกิจที่เติบโตมั่นคงเพียงพอ ถ้าคนเมืองนนทบุรีพร้อมและต้องการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นของตนเอง พรรคเพื่อไทยพร้อมสนับสนุน ที่ผ่านมาได้พูดคุยหารือกับนายกเทศบาลนครนนทบุรีที่ตั้งใจทำงานแข็งขัน แต่ติดขัดด้านกฎหมาย ไม่ให้งบประมาณ เอากฎหมายและกฏระเบียบมากดทับจนนายกเทศบาลนนทบุรีให้ทำงานยากลำบาก ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา การกระจายอำนาจของไทย ถดถอยหลังที่สุดในรอบหลายสิบปี เพราะมีการกำกับควบคุมจากส่วนกลาง ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลจะแก้ไขยกเครื่องเรื่องกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่นทั้งระบบ

ขณะที่นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แลนด์สไลด์เกิดขึ้นที่เมืองนนท์ปี 2546 มีการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 ผู้สมัครไทยรักไทยชนะเด็ดขาดคะแนนเป็น 2 เท่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร ประกาศว่าคือสัญญาณที่ประชาชนมอบให้ และในอีก 2 ปีต่อมา นำมาสู่การชนะเลือกตั้ง 377 เสียง จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

ดังนั้น ขอคนนนทบุรีทำให้ดูอีกครั้ง เลือกพรรคเพื่อไทยและ ส.ส. 8 คน 8 เขต ให้ชนะแบบแลนด์สไลด์ เรามีนโยบายที่ประกาศแล้วทำได้ทุกนโยบาย เริ่มทำได้ตั้งแต่ปีแรก ทั้งพักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3ปี ทั้งต้นทั้งดอก ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ฟรี ยาเสพติดต้องปราบปรามให้เด็ดขาด

“เพื่อไทยมีปัญญาหาเงิน เวลานี้สัญญาณการแข่งขันชัดเจนว่าแข่งกันสองข้าง ระหว่างข้างเอาพลเอกประยุทธ์ กับไม่เอาพลเอกประยุทธ์​ ถ้าเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ ประยุทธ์กลับบ้านทันที หันมาดรีมทีมกับเพื่อไทยดีกว่า เรามีทีมเศรษฐกิจแข็งแรงที่สุดในประเทศ และวันที่ 5 เมษายนนี้ พรรคเพื่อไทยจะประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คน เชื่อว่าประกาศแล้ว จิ้มชื่อใครโดนใจแน่นอน เส้นชัยของประชาชนมีทางเดียวคือเดินไปกับพรรคเพื่อไทยให้สุดทาง 14 พฤษภาคม นี้ เข้าคูหากาเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน” นายณัฐวุฒิกล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภราดร” ประกาศลาออก “รองปธ.สภาฯ”

รัฐสภา 19 มิ.ย.- “ภราดร” ประกาศลาออกจาก “รองประธานสภาฯ” รักษาหลักการเสียงข้างมาก คืนอำนาจให้สภาฯ เลือกใหม่ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง และ สส.จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งรองประธานฯ โดยมีผลทันทีในวันนี้ หลังจากพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวานนี้ว่ากรรมการบริหารพรรคมีมติให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และรัฐมนตรีของพรรคทุกคนได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายนนี้เช่นกัน นายภราดรให้เหตุผลว่า ตนได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ด้วยเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น ในวันนี้เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและพรรคภูมิใจไทยไม่ได้ร่วมอยู่ในรัฐบาลแล้ว จึงเห็นว่าควรคืนอำนาจให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีโอกาสตัดสินใจเลือกรองประธานฯคนใหม่ด้วยมติเสียงข้างมาก ตามธรรมเนียมที่เคยถือปฏิบัติมา “ผมขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้ให้เกียรติเลือกผมมาปฏิบัติหน้าที่ แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็เป็นประสบการณ์ในการทำงานที่มีคุณค่า และขอถือโอกาสนี้ขอบคุณทีมงานของรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สองทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานจนบรรลุภารกิจไปหลายประการ ซึ่งล้วนสร้างความก้าวหน้าให้กับสภาของประชาชน กราบขอบพระคุณท่านประธานและรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ที่ได้ให้ความเมตตาผมอย่างยิ่งในการทำงาน” นายภราดรกล่าว พร้อมย้ำว่าจะฝากงานหลายอย่างที่ได้ดำเนินการไว้ โดยเฉพาะโครงการเปิดพื้นที่รัฐสภาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นพื้นที่ของประชาชนอย่างแท้จริง โครงการวันรัฐธรรมนูญ กิจกรรมสภาวาที การพัฒนาสถานีวิทยุโทรทัศน์รัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน โดยเปิดโอกาสให้สถานศึกษาเข้ามามีส่วนร่วม และการต่อยอดโครงการยุวชนประชาธิปไตยที่สร้างเสริมศักยภาพเยาวชน ให้ผู้รับตำแหน่งคนต่อไปได้มาสานต่อ นอกจากนี้ นายภราดรยังยืนยันจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เคียงบ่าเคียงไหล่กับ ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยต่อไป.312 -สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์สำนวนก่อนลบทิ้ง เตรียมเข้าทำเนียบฯ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.- นายกฯ โพสต์สำนวน “ผู้คน ไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งโอเค” ก่อนลบทิ้ง ยกเลิกประชุมทีมคณะที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก เข้าทำเนียบ เมื่อเวลา 08.15 น. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า มีการแชร์สตอรี่อินสตาแกรม เป็นสำนวนภาษาอังกฤษ ระบุว่า “People don’t fake depression.They fake being okay. Remember that. Be kind.” ซึ่งมีความหมายว่า “คนเราไม่ได้แกล้งเศร้า แต่แกล้งว่าตัวเองโอเคต่างหาก, จำไว้นะ จงมีเมตตา” พร้อมซาวด์ดนตรี Another love อย่างไรก็ตามในเวลา 08.54 น. นายกรัฐมนตรี ได้ลบโพสต์ดังกล่าว ออกจากสตอรี่อินสตราแกรม ทำให้ไม่มีข้อความปรากฏแล้ว ขณะเดียวกัน ยังรายงานอีกว่า วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ยกเลิกภารกิจ […]

“กัญจนา” เชื่อ “วราวุธ’” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย.- “หนูนา กัญจนา” ชี้พรรคชาติไทยพัฒนาแม้เป็นพรรคเล็ก แต่ศักดิ์ศรีรักบ้านเกิดเมืองนอนยิ่งใหญ่เสมอ เชื่อ “วราวุธ” ไม่หนุนการกระทำที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีคลิปเสียงสนทนาสองผู้นำไทย-กัมพูชา ว่า “ณ วันนี้ ดิฉันไม่ได้นิยามตัวเองเป็นนักการเมืองแล้ว ถอยออกมามานานแล้ว แต่ที่ดิฉันเป็นเสมอคือ เป็นคนไทยที่รักแผ่นดินเกิด “จุดยืนของดิฉันมั่นคงมาตลอดเหมือนพ่อ คือยึดมั่นต่อ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และเชื่อว่าน้องชายดิฉัน (นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ก็เช่นกัน” น.ส.กัญจนา ยังระบุอีกว่า “แม้ที่ผ่านมา เขาอาจจะพูดอะไรพลาดบ้าง นั่นก็เป็นบทเรียนในชีวิตให้เขาต้องจดจำ วันนี้ดิฉันแม้ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาแล้ว แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แม้พรรคชาติไทยพัฒนาในวันนี้ จะเป็นพรรคขนาดเล็ก แต่ศักดิ์ศรี และความรักบ้านเกิดเมืองนอนต้องยิ่งใหญ่เสมอ” “ดิฉันเชื่อว่า พรรค และหัวหน้าพรรคจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนในการไม่สนับสนุนการกระทำใดที่ไม่ดีต่อชาติบ้านเมือง ทำในสิ่งที่ควรทำ” -สำนักข่าวไทย

นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี หลัง “ภูมิใจไทย” ถอนตัว

19 มิ.ย.- นายกฯ รีโพสต์สตอรี่ไอจี กลางดึก หลัง “ภูมิใจไทย” ประกาศถอนตัวพรรคร่วมรัฐบาล ความเคลื่อนไหวช่วงกลางดึกในเวลา 21.08 น. ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังพรรคภูมิใจไทยออกแถลงการณ์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยจะยื่นใบลาออกมีผลวันนี้ (19 มิ.ย.) พร้อมเรียกร้องให้นายกฯ รับผิดชอบทำประเทศเสียเกียรติภูมิ นั้น พบว่าสตอรี่อินสตราแกรมของ นายกรัฐมนตรี ยังคงมีการเคลื่อนไหวผ่านการรีโพสต์สตอรี่ ที่มีคนโพสต์และแท็ก โดยเป็นภาพระหว่างสื่อมวลชนตามสัมภาษณ์นายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และเป็นโพสต์รูปภาพของนายกรัฐมนตรี พร้อมใส่เพลง “ทำด้วยหัวใจ” โดยไม่มีการใส่แคปชั่น หรือระบุข้อความใดใดในภาพ รวมถึงคลิปที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ด้วย -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย