ชลบุรี 18 มี.ค. – “เศรษฐา” นำทีมเพื่อไทยคุยผู้ประกอบการธุรกิจ จ.ชลบุรี ยันเพื่อไทยขอจดทุกปัญหา พร้อมถกหาทางแก้ ก่อนดันออกเป็นนโยบาย “ชลน่าน” ลั่นเขียนไว้หมด รอแค่เป็นรัฐบาลแล้วเข้าไปทำ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายสนธยา คุณปลื้ม นางสุกุมล คุณปลื้ม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการนักธุรกิจใน จ.ชลบุรี เพื่อพูดคุยในประเด็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และการสนับสนุนจากภาครัฐ
โดยตัวแทนสภาอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี สะท้อนความเห็น ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญ ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมของชลบุรี ในฐานะเมืองอีอีซี ต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เชื่อว่าถ้าเพื่อไทยได้ 350 เสียง จะมีเสถียรภาพมาก และจะนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์
นอกจากนี้ จ.ชลบุรี มีผู้ประกอบการ SME มาก แต่ติดขัดเรื่องกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ขอให้นำนโยบายต่างๆ ที่ได้ประกาศไปมาปฏิบัติ เพื่อให้เห็นผลได้จริง เกี่ยวกับการสนับสนุน SME รวมถึงอยากขอให้มีนโยบายในการส่งเสริมการค้า การลงทุน ให้เพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้อยากถามถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาทำรายได้อย่างมากให้กับประเทศ ในฐานะที่ชลบุรีเป็นเซ็นเตอร์ของอีอีซี พรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางในการดึงดูดนักลงทุนอย่างไร รวมถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท ในชลบุรีไม่มีผู้ประกอบการใดสามารถทำได้เลย เพราะอย่างที่ทราบผู้ประกอบการจะให้ค่าแรงตามฝีมือ หรือสกิลของแรงงาน ดังนั้น ท่านต้องพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อให้ได้รับการจ้างงานในตัวเลขที่สูงขึ้น
ตัวแทนหอการค้า จ.ชลบุรี ระบุว่า รัฐบาลประกาศให้ชลบุรีเป็นเขตอีอีซี แต่ที่ผ่านมาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ และสนามบิน ล่าช้าเกินไป ทำให้ชลบุรียังไม่ได้ประโยชน์จากตรงส่วนนี้เท่าที่ควร เมื่อมองหาการลงทุนท่านมักมองไปที่เงินลงทุนจากต่างชาติ ไม่ได้มองเงินลงทุนในไทย เมื่อต่างชาติเข้ามาลงทุนเขาได้เอาช่างฝีมือและแรงงานบางส่วนของเขาเข้ามาด้วย การจ้างแรงงานไทยที่มีสกิลจึงไม่ค่อยเกิด ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ เช่น จีน ทำให้ต้องนำเข้าทั้งวัตถุดิบจากเขาด้วย และเมื่อมีแรงงานเข้ามาในพื้นที่มากก็สัมพันธ์กับการรักษาพยาบาล ตรงนี้ภาคเอกชนมองเห็นเป็นโอกาสในการเข้ามาตั้งโรงพยาบาลในพื้นที่ แต่พื้นที่กลับขาดโรงพยาบาลรัฐที่จะทำให้แรงงานไทยที่ใช้ประกันสังคมเข้าถึงได้
สุดท้ายคือเรื่องการศึกษา ใน 8 ปีที่ผ่านมาตกต่ำมาก อีอีซีบอกให้อัปสกิล รีสกิล แต่หากไม่มีความรู้พื้นฐานจะอัปสกิล รีสกิลอย่างไร ตรงนี้ทำให้ต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติมากขึ้น เพราะคนของเราขาดสกิล เราจึงย้อนกลับมาถามว่าจริงๆ แล้วเราได้ประโยชน์จากอีอีซีจริงหรือไม่ วันนี้ประชาชนฝากมาว่าเขาอยากกินดีอยู่ดี มีความสุข ต้องทำอย่างไร วันนี้เงินไม่ค่อยสะพัดในชุมชน ตนขอให้มีโปรตั๋วเครื่องบินฟรี หรือลดราคาตั๋วเครื่องบินให้คนเอเชียที่เข้ามาในเมืองไทย โดยมีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปเที่ยวชุมชนวันละ 1 ชุมชน ขอให้ช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องฟอกไต เพราะวันนี้คนเป็นโรคนี้กันมาก อยากให้ผู้สูงอายุที่มีกำลังมีงานทำ โดยออาจจะมีนโยบายลดภาษีให้กับบริษัทที่จ้างงานผู้สูงอายุก็ได้
สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง-ชลบุรี ระบุว่า อยากให้มีการทำจุดพักคิว 100% หากรถมากหนาแน่นก็อยากให้เปิดลานสำรองอย่างเต็มรูปแบบ และอยากให้มีการพัฒนาระบบอีเพลย์เมนต์ ซึ่งยังไม่สำเร็จไปในทางที่ดี รวมถึงอยากให้ท้องถิ่นเข้ามากำกับดูแลเรื่องใบอนุญาตแบบปีต่อปี และอยากให้ลดค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ให้แพงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลไม่มาก เพื่อแบ่งเบารถให้ลงในแยกต่างๆ ได้ การจราจรก็จะไม่ติดขัดด้วย
ผู้แทนกลุ่มประมง ระบุว่า รัฐบาลเอาใจไอยูยูจนทำให้ประมงพื้นบ้านของเราล้มหายตายจาก
ตัวแทนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ทางกลุ่มไม่ได้ห่วงเรื่องการปล่อยกู้ แต่ห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือน และห่วงเรื่องดอกเบี้ยที่สูง เพราะธุรกิจอสังหาฯมีต้นทุนที่สูง ทำให้อสังฯ หาไปต่อยาก ดังนั้น จะต้องทำอย่างไรให้คนมีรายได้เพิ่มเพื่อมีกำลังซื้อบ้านได้
นพ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า ต้องขออภัยที่นโยบายและอุตสาหกรรมของเรายังไม่ชัดเจน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มี คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยเรามาจากภาคธุรกิจมาก่อน ดังนั้น ท่านไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่ดูแลในส่วนนี้ พวกเราเข้าใจดีว่าตลาดเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจึงเสนอตัวทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนให้ เราจะติดต่อหาตลาด ทุกคนมีโอกาสนำสินค้าออกไปขาย และมีแนวคิดที่จะพัฒนา product เช่น การแปลรูปอาหารที่ปรุงรสชาติแล้วส่งออก
นอกจากนี้เรามีการวางแผนใช้ E-Commerce เชื่อมผู้ประกอบการกับผู้บริโภค, ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ, ผู้บริโภคกับผู้บริโภค, ผู้ประกอบการกับภาครัฐ และภาครัฐกับประชาชน เพื่อให้การติดต่อเพื่อการค้า และการบริการรวดเร็วขึ้น ทั้งยังทำให้โปร่งใส และตรวจสอบด้วย โดยเราต้องผนึกกับภาคเอกชนในการหารายได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะถูกกำหนด KPI เพื่อประเมินการทำงานของผู้ว่าฯ ในการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดอย่างไร เป็นต้น
ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า เราจะมีโครงการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งจะทำให้เราดูแลผู้ป่วยโรคไต และโรคต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ส่วนการจ้างงานคนพิการ และผู้สูงอายุ เรามีแนวทางเรื่องการงดเว้นภาษีได้ ขณะที่การแจกตั๋วเครื่องบินนั้น วันนี้ประเทศไทยติดปัญหานิดเดียวตรงที่เครื่องบินที่จะเข้ามานั้นไม่มี เราต้องมีเครื่องบิน และมีการเตรียมความพร้อมเมื่อมีการดึงคนเข้ามา ซึ่งการเจราจาเพื่อยกระดับหนังสือเดินทางไทยก็สำคัญมาก เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางมา
ประเด็นต่อมาคือ การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เราได้มีการประการประกาศนโยบายเรื่องดิจิทัลวอลเลตให้คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และต้องใช้ภายใน 6 เดือน ในพื้นที่นั้นๆ ไปแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ สำหรับ SME ต้องได้รับการผลักดันอย่างมาก แบงก์และรัฐบาลต้องเดินมาเจอกันครึ่งทาง ถ้าแบงก์ประเมินแล้วว่าควรใส่ 5 แสนบาท รัฐใส่เพิ่มอีก 5 แสนบาท จะสามารถช่วยต่อลมหายใจ SME ได้โดยการแบกความเสี่ยงกับรัฐคนละครึ่งทาง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำไปเสนอให้คณะกรรมการนโยบายของพรรคต่อไป
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการขนส่งเราจะให้ทางพื้นที่รวบรวมข้อมูลที่สะท้อนมานี้แล้วนำไปประสานต่อ ส่วนเรื่องประมง เรามีผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ คือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี โดยเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และเราได้ประกาศนโยบายเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งไอยูยูเป็นเรื่องแรกที่เราต้องแก้ปัญหา ขณะที่เรื่องอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้าจีดีพีโตเท่าไร อสังหาฯ จะโตควบคู่กันไปด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนว่าจะทำให้จีดีพีโตใน 4 ปี เฉลี่ย 5% เราเชื่อว่าเราทำได้ และอสังหาฯ จะโต 5-10% อย่างแน่นอน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการ SME เราเข้าใจเรื่องใต้โต๊ะ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งถ้าจะแก้เรื่องนี้เราต้องแก้ที่พฤติกรรมบุคคล กับแก้โครงสร้างระบบ ตนมองว่าการแก้พฤติกรรมคนนั้นยากมาก ต้องแก้ที่ระบบจึงจะแก้ได้ เราต้องลดการใช้ดุลพินิจของบุคคลลง และทำให้กระบวนการตรวจสอบสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการวางนโยบายจากการเอาปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบมากที่สุดมาทำเป็นนโยบาย เพื่อตอบสนองกลับลงไป ดังนั้น สิ่งที่ท่านพูดทั้งหมด พวกเรามีนโยบายที่เขียนไว้แล้ว รอเพียงได้เป็นรัฐบาลแล้วเขาไปขับเคลื่อนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย