“เศรษฐา” นำทีมเพื่อไทยคุยผู้ประกอบการธุรกิจ จ.ชลบุรี

ชลบุรี 18 มี.ค. – “เศรษฐา” นำทีมเพื่อไทยคุยผู้ประกอบการธุรกิจ จ.ชลบุรี ยันเพื่อไทยขอจดทุกปัญหา พร้อมถกหาทางแก้ ก่อนดันออกเป็นนโยบาย “ชลน่าน” ลั่นเขียนไว้หมด รอแค่เป็นรัฐบาลแล้วเข้าไปทำ


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย นายสนธยา คุณปลื้ม นางสุกุมล คุณปลื้ม และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยกับผู้ประกอบการนักธุรกิจใน จ.ชลบุรี เพื่อพูดคุยในประเด็นการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม และการสนับสนุนจากภาครัฐ

โดยตัวแทนสภาอุตสาหกรรม จ.ชลบุรี สะท้อนความเห็น ซึ่งสรุปประเด็นสำคัญ ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมของชลบุรี ในฐานะเมืองอีอีซี ต้องการให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เชื่อว่าถ้าเพื่อไทยได้ 350 เสียง จะมีเสถียรภาพมาก และจะนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ รวมถึงการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับสถานการณ์


นอกจากนี้ จ.ชลบุรี มีผู้ประกอบการ SME มาก แต่ติดขัดเรื่องกฎหมาย และข้อกำหนดต่างๆ หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ขอให้นำนโยบายต่างๆ ที่ได้ประกาศไปมาปฏิบัติ เพื่อให้เห็นผลได้จริง เกี่ยวกับการสนับสนุน SME รวมถึงอยากขอให้มีนโยบายในการส่งเสริมการค้า การลงทุน ให้เพิ่มขึ้นด้วย

นอกจากนี้อยากถามถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ซึ่งที่ผ่านมาทำรายได้อย่างมากให้กับประเทศ ในฐานะที่ชลบุรีเป็นเซ็นเตอร์ของอีอีซี พรรคเพื่อไทยจะมีแนวทางในการดึงดูดนักลงทุนอย่างไร รวมถึงนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท ในชลบุรีไม่มีผู้ประกอบการใดสามารถทำได้เลย เพราะอย่างที่ทราบผู้ประกอบการจะให้ค่าแรงตามฝีมือ หรือสกิลของแรงงาน ดังนั้น ท่านต้องพัฒนาฝีมือแรงงานเพื่อให้ได้รับการจ้างงานในตัวเลขที่สูงขึ้น

ตัวแทนหอการค้า จ.ชลบุรี ระบุว่า รัฐบาลประกาศให้ชลบุรีเป็นเขตอีอีซี แต่ที่ผ่านมาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ และสนามบิน ล่าช้าเกินไป ทำให้ชลบุรียังไม่ได้ประโยชน์จากตรงส่วนนี้เท่าที่ควร เมื่อมองหาการลงทุนท่านมักมองไปที่เงินลงทุนจากต่างชาติ ไม่ได้มองเงินลงทุนในไทย เมื่อต่างชาติเข้ามาลงทุนเขาได้เอาช่างฝีมือและแรงงานบางส่วนของเขาเข้ามาด้วย การจ้างแรงงานไทยที่มีสกิลจึงไม่ค่อยเกิด ทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ เช่น จีน ทำให้ต้องนำเข้าทั้งวัตถุดิบจากเขาด้วย และเมื่อมีแรงงานเข้ามาในพื้นที่มากก็สัมพันธ์กับการรักษาพยาบาล ตรงนี้ภาคเอกชนมองเห็นเป็นโอกาสในการเข้ามาตั้งโรงพยาบาลในพื้นที่ แต่พื้นที่กลับขาดโรงพยาบาลรัฐที่จะทำให้แรงงานไทยที่ใช้ประกันสังคมเข้าถึงได้


สุดท้ายคือเรื่องการศึกษา ใน 8 ปีที่ผ่านมาตกต่ำมาก อีอีซีบอกให้อัปสกิล รีสกิล แต่หากไม่มีความรู้พื้นฐานจะอัปสกิล รีสกิลอย่างไร ตรงนี้ทำให้ต้องนำเข้าแรงงานต่างชาติมากขึ้น เพราะคนของเราขาดสกิล เราจึงย้อนกลับมาถามว่าจริงๆ แล้วเราได้ประโยชน์จากอีอีซีจริงหรือไม่ วันนี้ประชาชนฝากมาว่าเขาอยากกินดีอยู่ดี มีความสุข ต้องทำอย่างไร วันนี้เงินไม่ค่อยสะพัดในชุมชน ตนขอให้มีโปรตั๋วเครื่องบินฟรี หรือลดราคาตั๋วเครื่องบินให้คนเอเชียที่เข้ามาในเมืองไทย โดยมีข้อแม้ว่าต้องเข้าไปเที่ยวชุมชนวันละ 1 ชุมชน ขอให้ช่วยเหลือเรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยเฉพาะเครื่องฟอกไต เพราะวันนี้คนเป็นโรคนี้กันมาก อยากให้ผู้สูงอายุที่มีกำลังมีงานทำ โดยออาจจะมีนโยบายลดภาษีให้กับบริษัทที่จ้างงานผู้สูงอายุก็ได้

สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง-ชลบุรี ระบุว่า อยากให้มีการทำจุดพักคิว 100% หากรถมากหนาแน่นก็อยากให้เปิดลานสำรองอย่างเต็มรูปแบบ และอยากให้มีการพัฒนาระบบอีเพลย์เมนต์ ซึ่งยังไม่สำเร็จไปในทางที่ดี รวมถึงอยากให้ท้องถิ่นเข้ามากำกับดูแลเรื่องใบอนุญาตแบบปีต่อปี และอยากให้ลดค่าผ่านทางมอเตอร์เวย์ให้แพงกว่ารถยนต์ส่วนบุคคลไม่มาก เพื่อแบ่งเบารถให้ลงในแยกต่างๆ ได้ การจราจรก็จะไม่ติดขัดด้วย

ผู้แทนกลุ่มประมง ระบุว่า รัฐบาลเอาใจไอยูยูจนทำให้ประมงพื้นบ้านของเราล้มหายตายจาก

ตัวแทนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ระบุว่า ทางกลุ่มไม่ได้ห่วงเรื่องการปล่อยกู้ แต่ห่วงเรื่องหนี้ครัวเรือน และห่วงเรื่องดอกเบี้ยที่สูง เพราะธุรกิจอสังหาฯมีต้นทุนที่สูง ทำให้อสังฯ หาไปต่อยาก ดังนั้น จะต้องทำอย่างไรให้คนมีรายได้เพิ่มเพื่อมีกำลังซื้อบ้านได้

นพ.พรหมมินทร์ กล่าวว่า ต้องขออภัยที่นโยบายและอุตสาหกรรมของเรายังไม่ชัดเจน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มี คณะทำงานของพรรคเพื่อไทยเรามาจากภาคธุรกิจมาก่อน ดังนั้น ท่านไม่ต้องกังวลว่าเราจะไม่ดูแลในส่วนนี้ พวกเราเข้าใจดีว่าตลาดเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจึงเสนอตัวทำหน้าที่เป็นเซลล์แมนให้ เราจะติดต่อหาตลาด ทุกคนมีโอกาสนำสินค้าออกไปขาย และมีแนวคิดที่จะพัฒนา product เช่น การแปลรูปอาหารที่ปรุงรสชาติแล้วส่งออก

นอกจากนี้เรามีการวางแผนใช้ E-Commerce เชื่อมผู้ประกอบการกับผู้บริโภค, ผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการ, ผู้บริโภคกับผู้บริโภค, ผู้ประกอบการกับภาครัฐ และภาครัฐกับประชาชน เพื่อให้การติดต่อเพื่อการค้า และการบริการรวดเร็วขึ้น ทั้งยังทำให้โปร่งใส และตรวจสอบด้วย โดยเราต้องผนึกกับภาคเอกชนในการหารายได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดจะถูกกำหนด KPI เพื่อประเมินการทำงานของผู้ว่าฯ ในการพัฒนาเศรษฐกิจในจังหวัดอย่างไร เป็นต้น

ด้านนายเศรษฐา กล่าวว่า เราจะมีโครงการยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งจะทำให้เราดูแลผู้ป่วยโรคไต และโรคต่างๆ ได้อย่างครอบคลุม ส่วนการจ้างงานคนพิการ และผู้สูงอายุ เรามีแนวทางเรื่องการงดเว้นภาษีได้ ขณะที่การแจกตั๋วเครื่องบินนั้น วันนี้ประเทศไทยติดปัญหานิดเดียวตรงที่เครื่องบินที่จะเข้ามานั้นไม่มี เราต้องมีเครื่องบิน และมีการเตรียมความพร้อมเมื่อมีการดึงคนเข้ามา ซึ่งการเจราจาเพื่อยกระดับหนังสือเดินทางไทยก็สำคัญมาก เพื่อให้ง่ายต่อการเดินทางมา
ประเด็นต่อมาคือ การกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เราได้มีการประการประกาศนโยบายเรื่องดิจิทัลวอลเลตให้คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป และต้องใช้ภายใน 6 เดือน ในพื้นที่นั้นๆ ไปแล้ว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ สำหรับ SME ต้องได้รับการผลักดันอย่างมาก แบงก์และรัฐบาลต้องเดินมาเจอกันครึ่งทาง ถ้าแบงก์ประเมินแล้วว่าควรใส่ 5 แสนบาท รัฐใส่เพิ่มอีก 5 แสนบาท จะสามารถช่วยต่อลมหายใจ SME ได้โดยการแบกความเสี่ยงกับรัฐคนละครึ่งทาง ซึ่งเรื่องนี้ตนจะนำไปเสนอให้คณะกรรมการนโยบายของพรรคต่อไป

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการขนส่งเราจะให้ทางพื้นที่รวบรวมข้อมูลที่สะท้อนมานี้แล้วนำไปประสานต่อ ส่วนเรื่องประมง เรามีผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ คือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี โดยเราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และเราได้ประกาศนโยบายเรื่องนี้ไปแล้ว ซึ่งไอยูยูเป็นเรื่องแรกที่เราต้องแก้ปัญหา ขณะที่เรื่องอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้าจีดีพีโตเท่าไร อสังหาฯ จะโตควบคู่กันไปด้วย ซึ่งพรรคเพื่อไทยเราชัดเจนว่าจะทำให้จีดีพีโตใน 4 ปี เฉลี่ย 5% เราเชื่อว่าเราทำได้ และอสังหาฯ จะโต 5-10% อย่างแน่นอน

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการ SME เราเข้าใจเรื่องใต้โต๊ะ การทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งถ้าจะแก้เรื่องนี้เราต้องแก้ที่พฤติกรรมบุคคล กับแก้โครงสร้างระบบ ตนมองว่าการแก้พฤติกรรมคนนั้นยากมาก ต้องแก้ที่ระบบจึงจะแก้ได้ เราต้องลดการใช้ดุลพินิจของบุคคลลง และทำให้กระบวนการตรวจสอบสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน พรรคเพื่อไทยมีแนวทางในการวางนโยบายจากการเอาปัญหาที่ประชาชนได้รับผลกระทบมากที่สุดมาทำเป็นนโยบาย เพื่อตอบสนองกลับลงไป ดังนั้น สิ่งที่ท่านพูดทั้งหมด พวกเรามีนโยบายที่เขียนไว้แล้ว รอเพียงได้เป็นรัฐบาลแล้วเขาไปขับเคลื่อนเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แฟนนางงามแห่ต้อนรับ “โอปอล” กลับไทยสุดอบอุ่น

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – แฟนนางงามแห่รับ “โอปอล สุชาดา” Miss World 2025 กลับไทยสุดอบอุ่น ก่อนขึ้นรถแห่ฉลองทั่วกรุง “โอปอล” สุชาตา ช่วงศรี มิสเวิลด์ 2025 เดินทางกลับถึงไทย ด้วยเที่ยวบิน TG603 ร่วมงาน ‘Home Coming 72nd Miss World 2025’ ท่ามกลางการต้อนรับสุดอบอุ่นจากแฟนนางงามแน่นสนามบินสุวรรณภูมิ โอปอล กล่าวขอบคุณคนไทย และบอกว่ามงกุฎนี้เป็นของพวกเราทุกคน ตั้งเป้าใช้ตำแหน่งเพื่อช่วยเหลือสังคม หลังจบพิธี โอปอลขึ้นรถโรลส์-รอยซ์เปิดประทุน โบกธงชาติไทย มุ่งหน้าท้องฟ้าจำลอง ร่วมขบวนแห่ฉลองชัยมิสเวิลด์คนแรกของประเทสไทยอย่างสมเกียรติ บรรยากาศที่ท้องฟ้าจำลองมีประชาชนมารอต้อนรับโอปอล บรรดาแฟนนางงามต่างแสดงสัญลักษณ์ด้วยการใส่ชุดสีฟ้า บางคนมีการทำมงกุฎ Miss World มาใส่ และทันทีที่รถของโอปอลเลี้ยวเข้ามายังท้องฟ้าจำลอง มีการโห่ร้องต้อนรับอย่างอบอุ่น ส่วนแรงบันดาลใจในการทำรถขบวนแห่ของ Miss World 2025 นี้ นายธีรฉัตร อินถา ผู้ออกแบบขบวน ระบุว่า ได้มีการนำวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสากลและวัฒนธรรมไทย […]

ประชุม JBC วันแรกเป็นไปด้วยดี สองฝ่ายหารือตรงไปตรงมา

14 มิ.ย.- โฆษก กต. เผยการประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายหารือกันอย่างตรงไปตรงมา พร้อมย้ำไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก สำหรับการประชุมจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย – กัมพูชา หรือ JBC ครั้งที่ 6 ว่าตั้งแต่เมื่อเช้า หลังจากคณะผู้แทนไทยฯ ที่นำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เดินทางถึงกรุงพนมเปญเมื่อวานนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้ามาเป็นระยะ และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้เรียกประชุมผู้บริหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ที่ขอให้เรียกประชุมและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ เพื่อจะได้มีข้อสั่งการ นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุมเริ่มจากที่พบหารือระหว่างสองประธานไทย-กัมพูชา กลุ่มเล็ก จากนั้นได้เริ่มการประชุม JBC เต็มคณะ เพื่อหารือประเด็นทางเทคนิค ที่อยู่ในขอบเขตการทำงานของ JBC เช่นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสำรวจภูมิประเทศ ขณะนี้การประชุมก็ยังคงดำเนินอยู่ ซึ่งช่วงบ่ายก็จะเป็นการหารือตามระเบียบวาระที่วางไว้ เช่นการพูดคุยด้านเทคนิค และคาดว่าจะมีการประชุมไปจนถึงวันพรุ่งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี และทั้งสองฝ่ายกำลังเดินหน้าหารือกันตามวาระ ถือว่าการประชุมเป็นไปด้วยดี ทั้งสองฝ่ายเดินหน้าคุย และปรับความคิดหากันด้วยดี ฝ่ายไทยหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะมีส่วนช่วยลดความ ตึงเครียดของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น […]

ประชุม JBC “ไทย-กัมพูชา” ยึด MOU43 แก้ปมชายแดน-ลดตึงเครียด

14 มิ.ย.- “ไทย-กัมพูชา” แถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC เจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกัน และการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบ MOU43 นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย เป็นประธานการประชุมกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) ร่วมกับนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายกล่าวถ้อยแถลงย้ำความสำคัญของการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) ในการเจรจาประเด็นด้านเขตแดนระหว่างกันและการทำงานร่วมกันด้วยสันติวิธี ภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ. 2543 (MOU 43) เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาชายแดนและลดความตึงเครียดที่มีอยู่ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการของทั้งสองฝ่าย ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานเชิงเทคนิคที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก กองทัพเรือ สำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา (เทียบเท่ากระทรวง) กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กองทัพภาคต่าง ๆ ของกัมพูชา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาของกัมพูชาทุกจังหวัด -สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย