สนามบินน้ำ 17 มี.ค.- “สมศักดิ์” แจงเหตุซบบ้านเก่า “เพื่อไทย” ชี้หลายพรรคร่วมทำงานลำบาก พปชร. ขาดเอกภาพ ขณะพรรคเดิมสามัคคีมากกว่า มั่นใจแลนด์สไลด์ ได้เป็นรัฐบาลแน่ บอกสื่อให้เลิกเรียก “กลุ่มสามมิตร”
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงท่าทีทางการเมืองที่ร้านกินเส้น สนามบินน้ำ นนทบุรี ว่า เคยพูดอยู่เสมอว่าการเมืองคือดิน ฟ้า อากาศ วันนี้ขอพูดเรื่องอากาศ สิ่งที่น่าสนใจคือต้องการให้สื่อมวลชนเผยแพร่ข้อมูล ซึ่งตนให้ความสำคัญกับทีมงานและนโยบายนำไปสู่การปฏิบัติ ประการแรกคือนโยบายที่ดี หากนโยบายขัดแย้ง ไม่ชัดเจน จะไม่ส่งผลสำเร็จต่อประเทศชาติและประชาชน อีกสิ่งหนึ่งต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายงบประมาณเป็นอย่างมากและเศรษฐกิจของประเทศ
“รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหน้า ซึ่งการเลือกตั้งเลือกตั้งครั้งที่ผ่านพรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส. 118 คน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนพอใจได้ เป็นรัฐบาลผสม มีหลายพรรคการเมือง มีการต่อรองในการจัดตั้งรัฐบาล ต่อรองโควตารัฐมนตรี ทำให้พรรค ไม่ได้ดูแลรับผิดชอบกระทรวงหลัก ไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดประโยชน์กับประชาชน เพราะต้องแบ่งกระทรวงให้พรรคอื่นดูแล” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การจะทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต้องมองไปที่พรรคที่จะเกิดแลนด์สไลด์ ที่จะช่วยกันประคับประคองสถานการณ์เศรษฐกิจในภาพรวม เพราะทุกวันนี้ จีดีพีแทบจะต่ำสุดในอาเซียน จำเป็นต้องเลือกพรรคที่จะเกิดแลนสไลด์ เดินหน้าเรื่องนี้ คือพรรคเพื่อไทย จึงตัดสินใจเข้าร่วมพรรคเพื่อไทยเพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่เป็นความหวังของประชาชน
นายสมศักดิ์กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.) ได้ไปกราบลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่ง พล.อ.ประวิตรไม่มีปัญหาอะไรและให้พรตามอัตภาพ ยืนยันว่าไม่มีความแตกแยกหรือไม่พอใจใด ๆ ทั้งสิ้น แต่การที่รัฐบาลมีพรรคร่วมหลายพรรค เป็น ปัญหาและอุปสรรค พิจารณาแล้วว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีความสามัคคี ส่วนใหญ่เป็นพรรคพวกกัน เคยทำงานร่วมกันมาก่อน เข้าใจกันและสามารถพูดคุยกันได้
“การทำงานกับพรรคพลังประชารัฐไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เห็นได้จากการที่ผมเป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค แต่ไม่ได้รับความร่วมมือในการเข้าร่วมการประชุม แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การทำงานของเพื่อไทยดูเป็นอุปสรรคน้อยมากหรือไม่มีเลย มองว่าพรรคเพื่อไทยขับเคลื่อนนโยบายได้ สามารถทำการเมืองในระบบประชาธิปไตยได้มากกว่า” นายสมศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามถึงความมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ 220 เสียง หากเราลงไปช่วยในพื้นที่ให้เกิดความเข้าใจในนโยบายมากขึ้น เป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุน แม้จะไม่ได้เก่งกล้าสามารถ แต่จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามย้ำว่า การตัดสินใจไปพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะได้เป็นรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การเป็นรัฐบาลเป็นความใฝ่ฝันของทุกพรรคการเมือง บางพรรคตั้งเงื่อนไขไว้สูง บางพรรคพยายามตั้งเงื่อนไขว่าร่วมกับใครไม่ได้ ซึ่งก็แล้วแต่แต่ละพรรค แต่ตนมั่นใจว่าหากประชาชนช่วยกันเลือกพรรคเพื่อไทยให้แลนสไลด์จะได้เป็นรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถบอกได้ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้ตัวเลขเท่าใด เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด ที่ผ่านมายังไม่เคยลงพื้นที่ในนามพรรคเพื่อไทย
ส่วนหลังการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยและพลังประชารัฐจะจับมือกันได้หรือไม่นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นตอบไม่ได้ ต้องให้ผู้บริหารพรรคคุยกัน ซึ่งการพบ พล.อ.ประวิตร วานนี้ ไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ เป็นเรื่องของ 2 พรรค
เมื่อถามว่าการที่กลุ่มสามมิตรร่วมงานเพื่อไทยจะทำให้ได้ ส.ส.ถึง 310 เสียง ตามเป้าหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราสามารถสร้างพื้นที่ให้พรรคเพื่อไทยได้ หากประชาชนเข้าใจแนวนโยบายว่าหากแลนด์สไลด์จะช่วยขับเคลื่อนนโยบาย ให้สำเร็จ อาจจะได้ตัวเลขมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ได้ มั่นใจว่าได้มาก
ส่วนที่กลุ่มสามมิตรย้ายไปอยู่กับพรรคใดก็จะได้เป็นรัฐบาล นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็ต้องไปทำพื้นที่ใหม่ และไม่ทราบว่าจะมีส.ส.เข้ามากี่คน เป็นเอกสิทธิ์ของส.ส. ไม่สามารถเหนี่ยวนำได้ ให้เป็นไปตามความสมัครใจ แต่เชื่อว่าเขตเลือกตั้งแต่ละจังหวัด มีพื้นที่ใหม่ ๆ ที่สร้างประโยชน์ได้ เช่นครั้งที่แล้ว ตนดูภาคเหนือตอนล่าง สุโขทัยจังหวัดเดียว ก็พยายามหาพื้นที่ใหม่ด้วย และสร้างผู้แทนในพื้นที่ใหม่ ๆ อีกหลายคน หากไม่ได้ผู้แทนคนใหม่ ตนก็แย่ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว แต่หากกลุ่มเก่ามีนโยายดีอย่างเพื่อไทยก็อาจเปลี่ยนแปลงได้
“ผมยังไม่ได้คุยกับนายกฯรัฐมนตรี แต่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจได้แจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่ติดใจ และขอให้โชคดี ฝากให้สุริยะบอกสมศักดิ์ด้วย ขอบคุณนายกฯ ที่ให้โอกาสผมแสดงฝีมือในการทำงาน ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมถูกมองว่าเป็นกระทรวง C แต่ผมทำให้เป็นกระทรวง เกรด A แสดงให้เห็นว่าการทำงานของผมไม่ย่อหย่อน ขอบคุณพล.อ.ประวิตรที่ให้การสนับสนุนงานด้านต่าง ๆ อย่างดี ยืนยันว่าไปทำงานพรรคเพื่อไทยหรือที่ไหน จะทำเต็มที่ ไม่มีย่อหย่อน” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนการทำงานในพรรคเพื่อไทยจะไปดูแลในส่วนไหนนั้น ยังไม่ได้พูดคุยกับผู้บริหาร เบื้องต้นทราบมาว่าภายในพรรคเพื่อไทยขานรับนเป็นอย่างดีและมีคนโทรมาแสดงความยินดีด้วย เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยก็รักตน ไม่ว่าจะให้ดูพื้นที่ไหน ดูพื้นที่ภาคใต้หรือภาคเหนือตอนล่างก็สุดแล้วแต่ ไม่เลือก ไปได้ทุกที่
“ไม่หวังว่าจะได้นั่งเก้าอี้กระทรวงใด เพราะหากคาดหวังจะทำให้เราเสียใจ เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว หวังว่าจะได้นั่งอีกกระทรวงหนึ่ง แต่ได้นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเกิดจากทีมรัฐบาลไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จนกลายเป็นความขัดแย้งตามมา แต่ก็กังวลเรื่องความรู้สึกของกลุ่มคนเสื้อแดงเหมือนกัน หวังว่าคนกลุ่มนี้จะเข้าใจ เพราะผมไม่ได้ประสงค์จะเข้าไปตั้งกลุ่มอะไรในพรรคเพื่อไทย มุ่งแต่จะทำงาน ไม่ประสงค์จะให้เรียกตัวเองว่ากลุ่มสามมิตรแล้ว” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ เชื่อมั่นว่า กฎกติกาและแนวปฏิบัติของพรรคเพื่อไทยจะสามารถทำให้เกิดความสมดุล หลังจากนี้จะไม่ใช้คำว่ากลุ่มสามมิตร และไม่น่าจะมีกลุ่มด้วย การเริ่มต้นของกลุ่มสามมิตรในการเมืองสมัยที่แล้ว นายภิรมย์ พลวิเศษ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ได้มานั่งกินข้าวที่นี่ และพบปะแกนนำ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จึงมานัดพบตนที่นี่และมีโอกาสได้คุยกัน เกิดความประทับใจ ที่ให้ความสำคัญกับคนรากหญ้า จึงชวนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ มายืนถ่ายภาพร่วมกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของกลุ่มสามมิตร ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงตนและนายสุริยะ
ส่วนที่มีข้อห่วงใยว่าการแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยอาจจะเกิดการไม่ยอมรับ จนออกมาเคลื่อนไหวบนถนนอีก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องนอกระบบเป็นเรื่องของสื่อมวลชนและประชาชน ตนไม่เคยเดินขบวน ในชีวิตนี้เป็นผู้แทนตั้งแต่ปีพ.ศ 2526 เป็นนักการเมืองคนเดียวที่ไม่เคยเดินบนถนน ไม่มีนอกระบบ ฝักใฝ่แต่เรื่องการทำงาน ทำประโยชน์ตามแนวนโยบายของรัฐบาลให้ประชาชน
“เมื่อการเลือกตั้งจบ การจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่อยู่ที่ตัวเลข ส.ส. ถึงโกรธกันแทบตายเหลือ 2 พรรคก็ต้องหาทางลดหย่อน แล้วปรับแนวทางเป็นรัฐบาลร่วม จึงขอเรียนประชาชนทั้งประเทศว่า ถ้าเป็นพรรคร่วมหลายพรรค นโยบายที่จะช่วยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนความยากจนประชาชน จะทำได้ไม่เต็มที่ ไม่มีใครวิเศษวิโส ที่จะทำให้พรรคร่วมหลาย ๆ พรรคแก้ไขปัญหาให้ประชาชน จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้เกิดแลนด์สไลด์ ขอให้มาร่วมกันทำให้เกิดแลนด์สไลด์ให้สมหวัง ถ้าทำไม่ได้ก็เลิกกันไป” นายสมศักดิ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวนายสมศักดิ์ โชว์เอกสาร 3 ฉบับ คือ 1.หนังสือลาออกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยไม่ขอรักษาการ มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และส่งหนังสือให้นายกรัฐมนตรีแล้ว คาดว่านายกรัฐมนตรีน่าจะได้รับหนังสือแล้ว เพื่อความสบายใจของตน ครอบครัว และ ประชาชน จะได้ไม่ถูกมองว่าเป็นการเอาเปรียบในช่วงเลือกตั้ง ฉบับที่ 2 คือหนังสือลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ลงวันที่ 17 มีนาคม 2566 และฉบับที่ 3 ใบสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะนำไปส่งในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคมนี้.-สำนักข่าวไทย